“นลินี” เผยไทย-ออสเตรเลีย มุ่งสานต่อความตกลงการค้า 3 ฉบับ

กรุงเทพฯ 13 ต.ค. – “นลินี” เผยไทย-ออสเตรเลีย มุ่งสานต่อความตกลงการค้า 3 ฉบับ เล็งลงทุน EEC เพิ่ม ยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ


นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยหลังการหารือกับนางสาวแอนเจลา เจน แม็กดอนัลด์ เอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย ว่าออสเตรเลียสนใจลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเฉพาะด้านน้ำและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยตนย้ำว่านักลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ในด้านต่างๆ ออสเตรเลียถือเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 8 ของไทยในตลาดโลก การค้าสองฝ่ายในปี 2565 มีมูลค่า 18,388.93 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับยุทธศาสตร์เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่ปี 2583 ที่นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียประกาศเมื่อเดือน ก.ย. 2566 โดยจัดสรรงบประมาณราว 95.4 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 2,200 ล้านบาท เป็นเวลา 4 ปี เพื่อสนับสนุนภารกิจดังกล่าว ซึ่งไทยจะได้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน โดยสาขาที่ออสเตรเลียมีศักยภาพและไทยให้ความสำคัญ เช่น เทคโนโลยีการเกษตร เทคโนโลยีดิจิทัล การพัฒนาแรงงานผ่านการศึกษา พลังงานที่นำกลับมาใช้ใหม่ เป็นต้น

ที่ผ่านมาไทยและออสเตรเลียได้จัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีทวิภาคีและระดับภูมิภาครวม 3 ฉบับ คือ 1.ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) 2.ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (AANZFTA) และ 3.ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งออสเตรเลียหวังว่าทั้งสองประเทศจะนำข้อมูลข้อดี-ข้อเสียจากความตกลงทั้ง 3 ฉบับ ไปพัฒนาความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนและด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป


สำหรับความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2548 ซึ่งจะครบ 20 ปีในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งไทยและออสเตรเลียเห็นชอบที่จะจัดกิจกรรมเชิญชวนผู้ประกอบการให้ใช้สิทธิประโยชน์ตามความตกลง TAFTA มากยิ่งขึ้น โดยในเดือน พ.ย. 2566 นี้ ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการดำเนินการเข้าสู่ตลาด (MAIC) เพื่อติดตามประเด็นด้านการเปิดตลาดระหว่างกัน ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ความตกลง TAFTA ตอบสนองต่อการค้าโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไป

“เมื่อกลางปีนี้ออสเตรเลียได้เปิดตลาดเป็ดปรุงสุกจากไทย ซึ่งจะทำให้เราจะส่งออกได้ราว 1,200 ตัน/ปี มูลค่า 400 ล้านบาท และไทยอนุญาตให้นำเข้าผลอะโวคาโดสดจากออสเตรเลียได้ แสดงให้เห็นถึงการยกระดับความร่วมมือด้านสินค้าเกษตรของทั้งสองประเทศ ส่วนสินค้าสำคัญอื่นที่ไทยส่งออกไปออสเตรเลีย เช่น รถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศ อัญมณีเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ยาง และเม็ดพลาสติก เป็นต้น” นางนลินี กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ