นายกฯ กำชับเตรียมพร้อมเครื่องบินกองทัพ-เอกชนรับคนไทยกลับทันที

กระทรวงการต่างประเทศ 12 ต.ค. – นายกฯ นำประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินเหตุภาวะความไม่สงบในตะวันออกกลาง กำชับเตรียมพร้อมเครื่องบินกองทัพ-เอกชนรับคนไทยกลับทันที เชื่อหลายประเทศจะเห็นใจคนไทยเสียชีวิตมาก ลั่นความปลอดภัยคนไทยสูงสุด ระบุหารือทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย พรุ่งนี้ (13 ต.ค.) คุยเรื่องอพยพ-ช่วยเหลือตัวประกัน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางถึงประเทศไทย ในเวลา 16.30 น. หลังกลับจากการเดินทางเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์ ได้เดินทางมายังกระทรวงการต่างประเทศ ในเวลา 17.07 น. เพื่อประชุมร่วมกับศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินต่อสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล โดยมีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ อาทิ นางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ, นายศิระ สว่างศิลป์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา, สถานกงสุลใหญ่ไทยในบางประเทศแถบตะวันออกกลาง, กองบัญชาการกองทัพไทย, กรมข่าวทหารบก และกรมสุขภาพจิต

โดยที่ประชุมวันนี้จะมีการรายงานความคืบหน้ากรณีผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต การอพยพคนไทย ติดตามความคืบหน้าในการช่วยเหลือแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน


เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ได้รายงานสถานการณ์ในอิสราเอล หลังเกิดเหตุการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส เข้าสู่วันที่ 7 แล้ว ซึ่งตั้งแต่เมื่อคืน (11 ต.ค.) จนถึงวันนี้ (12 ต.ค.) ยังคงมีการโจมตีระหว่างกันด้วยจรวดอยู่บ้าง และในวันนี้ยังมีการยิงระเบิดเข้ามาในพื้นที่ฉนวนกาซา เวสต์แบงก์ และทางเหนือของอิสราเอล เป็นระยะ

นายเศรษฐา แถลงข่าวภายหลังการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินเหตุภาวะความไม่สงบในตะวันออกกลาง ที่กระทรวงการต่างประเทศ ว่าหลังตนลงเครื่องบินที่ บน.6 จากการไปปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศมา ก็ได้เดินทางมาประชุมที่นี่ เพราะมีความกังวลกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ที่มีการขยับความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ และมีชาวไทยที่อยู่ในเขตอันตรายกว่า 6,000 คน

วันนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่มีลอตแรกเดินทางกลับเข้ามาในไทยแล้ว แต่ยังเหลืออีกจำนวนมากที่เราจะต้องลำเลียงกลับเข้ามา ซึ่งเข้าใจถึงความห่วงใยของญาติพี่น้อง และความกังวลของแรงงานไทยที่อยู่ในอิสราเอล เพราะมีหลายปัญหา ทั้งเรื่องการบินเข้าไปในอิสราเอล ที่วันหนึ่งมีเครื่องบินได้ไม่ถึง 1 ไฟลต์ โดยจะมีการพูดคุยกันว่ากองทัพบกและกองทัพอากาศจะเอาเครื่องบิน C-130 และแอร์บัส A340 เข้าไปรับผู้อพยพในวันที่ 14 ตุลาคม เป็นเที่ยวบินต่อไป เพื่อรับคนไทยกลับมาประมาณ 140 คน และมีการขนเสบียงไปให้ด้วย แต่ตนได้สั่งการไปว่าลำเดียวนั้นเป็นอะไรที่น้อยมาก ตนจึงได้สั่งการในที่ประชุมและที่ประชุมก็เห็นด้วย หลังจากนี้ให้เตรียมความพร้อมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะให้มีเครื่องบิน โดยที่สายการบินนกแอร์ จำนวน 2 ลำ แอร์เอเชีย 2 ลำ ส่วนการบินไทยยังอยู่ระหว่างรอคำตอบ ซึ่งสายการบินไทยไม่มีเที่ยวบินที่บินตรงไปประเทศอิสราเอล จึงติดขัดเรื่องเอกสารมากกว่าความพร้อม และหากการบินไทยไม่สามารถที่จะบินตรงไปยังกรุงเทลอาวีฟได้จะเจรจาให้การบินไทยไปจอดในประเทศใกล้เคียง จากนั้นจะให้สายการบินพาณิชย์อพยพคนไทยไปขึ้นเครื่องการบินไทยในประเทศนั้นๆ และตนได้สั่งการทางอ้อมไปแล้วในที่ประชุม ซึ่งต้องยอมรับว่าในการปฏิบัติภารกิจตรงนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหลายคนอิดโรย เพราะทุกคนก็ทำงานอย่างหนัก


ทั้งนี้ ต้องนำผู้อพยพเกือบ 6,000 คน มาให้ได้ ตนเชื่อว่าคณะทำงานจากกระทรวงการต่างประเทศทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่จากประเทศใกล้เคียง เข้าไปอำนวยความสะดวกให้คนไทยเดินทางกลับอย่างปลอดภัยที่สุด ขอสถานการณ์ในอิสราเอลยังไม่ปลอดภัยถนนหลายสายถูกสกัด จึงต้องมีการพูดคุยเชื่อมต่อระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคง ให้อำนวยความสะดวกให้ ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ซึ่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดก็กำลังประสาน

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า เรื่องบางเรื่องที่หลายคนมองว่าจะสามารถนำเครื่องบินออกไปเลยนั้น มันไม่ใช่เพราะเที่ยวบินพิเศษจะต้องมีการขออนุญาตการเปิดน่านฟ้า ซึ่งต้องขออนุญาตผ่านน่านฟ้าถึง 10 ประเทศมันเป็นไปได้หรือไม่ จริงๆ แล้ว กระทรวงการต่างประเทศก็ให้ความกรุณา ซึ่งในอดีตต้องใช้เวลาการเป็นเดือนในการขออนุญาต ในการจะขอผ่านน่านฟ้าในแต่ละประเทศ แต่ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศได้ สามารถเร่งขออนุญาตได้เพียง 2 วัน และหลังจากนี้จะมีการเจรจาให้ได้อย่างเร็วที่สุดภายใน 48 ชั่วโมงให้ได้ ขณะเดียวกันได้มีการสั่งการเครื่องบินทั้ง 4 ลำให้เตรียมความพร้อม รวมถึงความพร้อมของการบินไทยหากได้คำตอบก็สามารถที่จะขึ้นบินได้ทันที

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้ระบุถึงที่ประชุม โดยเอกอัครราชทูตไทย ณ เทลอาวีฟ ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่มีความพร้อมในการอพยพแรงงานมายังจุดปลอดภัยวันละ 200 คน ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้เราสามารถบินออกมาได้วันละ 1 เที่ยวบิน ซึ่งถ้าหากจะอพยพทั้งหมดจะต้องใช้เวลาเป็นเดือน ยืนยันจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังวิงวอนให้สายการบินเอกชนที่พอจะช่วยได้และมีเครื่องบินเหลืออยู่ หวังว่าจะได้รับความร่วมมือเพื่อช่วยกันในภารกิจดังกล่าว โดยกระทรวงการต่างประเทศก็พร้อมจะอำนวยความสะดวกในการบินผ่านน่านฟ้าแต่ละประเทศ เพราะถือว่าเป็นภาวะสงคราม ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น

เมื่อถามถึงทิศทางการเจรจาขอปล่อยตัวแรงงานชาวไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน 16 คนนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็มีการเจรจาตลอดเวลาในทุกช่องทางที่สามารถเป็นไปได้ ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องของความมั่นคงไม่สามารถที่จะเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยตนมั่นใจในการเจรจา และมีความหวังว่าตัวประกันจะได้รับความปลอดภัย ถูกปล่อยตัวออกมา ซึ่งยอมรับว่าเราเองก็กดดัน แต่เราไม่อยู่ในสภาวะประเทศคู่ขัดแย้ง ถ้าหากดูยอดผู้เสียชีวิต ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุด มันเป็นเรื่องน่าเศร้าใจ ซึ่งเชื่อว่าหลายประเทศให้ความเห็นใจที่จะได้รับการอำนวยความสะดวกที่จะอพยพ เปิดน่านฟ้า ยืนยันเราจะพยายามทำภารกิจนี้ให้เสร็จสิ้นเร็วที่สุด

ส่วนกรณีผู้เสียชีวิต พี่ญาติพี่น้องมีความกังวลว่าเมื่อไรจะรับศพกลับมาเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามอย่างเต็มที่ ก็ได้กดดันทางอิสราเอลในเรื่องของการชันสูตรพิสูจน์อัตลักษณ์ การเสียชีวิตในภาวะสงคราม รัฐบาลอิสราเอลจะมีเงินชดเชยให้ แต่ถ้านำศพกลับมาก่อน โดยไม่มีการออกหลักฐาน อาจจะทำให้ได้รับเงินช่วยเหลือล่าช้า ยืนยันกระทรวงการต่างประเทศได้พิจารณาในทุกมิติ

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้จะมีการหารือกับเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย จะมีการขอความเห็นใจ และขอความช่วยเหลือ เพราะเราไม่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง แต่เรามีการสูญเสียที่สูงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลำเลียงศพ การช่วยเหลือตัวประกัน และการเจรจาให้อิสราเอลลำเลียงคนงานที่ต้องการจะกลับให้มาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย และถึงสนามบินโดยเร็วที่สุด รวมถึงการเปิดน่านฟ้าให้เครื่องบินของเราเข้าได้ เชื่อว่าความลำบากและการสูญเสียจากเหตุความรุนแรง ทุกคนไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และพยายามแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธีและรวดเร็วที่สุด ขณะเดียวกันจะมีการเจรจาขอความช่วยเหลือจากสายการบินของอิสราเอล ที่บินออกมาจากนอกอิสราเอลไปรับชาวอิสลามที่ประเทศต่างๆ ให้ช่วยรับคนไทยไปไว้ยังประเทศนั้นๆ เพื่อที่จะรอในการกลับประเทศ สิ่งที่ภาวนาคือไม่อยากให้สถานการณ์เลวร้ายไปจนถึงขั้นต้องปิดน่านฟ้า

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงแรงงานไทยที่ยังอยู่ในพื้นที่สีแดง แล้วยังถูกนายจ้างบังคับให้ทำงาน ว่าเรื่องนี้ในวันพรุ่งนี้จะมีการพูดคุยเพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน แม้ว่ารายได้จะสำคัญแต่ความปลอดภัยต้องสำคัญที่สุด ตรงนี้จะมีการพูดคุยให้ชัดเจนกับทางเอกอัครราชทูตอิสราเอลฯ และขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด โดยเฉพาะการอพยพคนไทยออกมาถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ส่วนเรื่องเงินเรื่องงานเธอเป็นเรื่องรอง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]