กรุงเทพฯ 12 ต.ค. – ทบ. จัดเต็มส่งรถม้า-หมู่ม้า นำขบวนรับ “บิ๊กทิน” ตรวจเยี่ยม มอบเข็มกิตติมศักดิ์ 5 หน่วย วอนคุยรัฐบาล หนุนงบกลาง รับบริหารงบปี 67 ไม่ทัน ส่วน “สุทิน” พอใจบทบาททหารต่อการเมือง ขออดทนอดกลั้น ส่วนการเมืองไม่สร้างเงื่อนไขนำไปสู่ปัญหา
12 ต.ค. 2566 เวลา 14.00 น. นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ ตรวจเยี่ยมกองบัญชาการกองทัพบก อย่างเป็นทางการ หลังจากรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมีพลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก ให้การต้อนรับ
โดยกองทัพบกได้จัดรถม้าและหมู่ม้า 47 ม้า นำขบวนมารอรับด้านหน้าประตูกองทัพบก ถนนราชดำเนิน เมื่อ นายสุทินมาถึงได้ขึ้นรถม้าเข้าไปยังลานประกอบการตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ
จากนั้นนายสุทินได้ถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในกองทัพบก ก่อนฟังบรรยายสรุปภารกิจของกองบัญชาการกองบก รับชมวีดิทัศน์การพร้อมมอบนโยบายในการปฏิบัติงานให้แก่กองบัญชาการกองทัพบก
ทั้งนี้ กองทัพบกได้มอบเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษนักกระโดดร่มชั้นกิตติมศักดิ์ เครื่องหมายจู่โจมกิตติมศักดิ์ โดยศูนย์การทหารราบ เครื่องหมาย EOD โดยกรมสรรพาวุธทหารบก เครื่องหมายสงครามทุ่นระเบิด โดยกรมการทหารช่าง และเครื่องหมายนักบิน โดยศูนย์การบินทหารบก
ต่อมานายสุทิน แถลงข่าวว่า วันนี้จะมีประชุมกับนายกรัฐมนตรีที่กระทรวงการต่างประเทศ จึงใช้เวลาไม่นาน วันนี้ถือเป็นการมาตรวจเยี่ยมกองทัพบก ตามแผนการปฏิบัติงานและตามธรรมเนียม
“ได้มานั่งรถม้าก็รู้สึกตื่นเต้น ตอนเด็กเคยนั่งอยู่ที่บ้าน แต่ไม่ใช่รถม้าเกียรติยศ แล้วรู้สึกประทับใจกับการต้อนรับของกองทัพบก ได้รับเกียรติและได้รับความร่วมมือ เป็นที่พึงพอใจ
วันนี้ได้เห็นความเข้มแข็งของกองทัพ และสิ่งสำคัญที่สุดได้เห็นการตอบสนองด้านนโยบาย จากการรายงาน การชมนิทรรศการได้ทราบว่านโยบายรัฐบาลที่มอบให้ได้ทำล่วงหน้าไปมากแล้ว ส่วนที่เหลือเชื่อมั่นจะราบรื่น เพราะนโยบายของรัฐบาลก็สอดคล้องกับนโยบายของกองทัพ นอกจากนี้ได้รับทราบปัญหาและความต้องการของกองทัพหลายอย่าง พร้อมที่จะนำไปแก้ไข สนับสนุนให้กองทัพทันสมัยเป็นที่พึ่งของประชาชน
ส่วนนโยบายเรื่องที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของทหารนั้น กองทัพพยายามคัดแยกอยู่หลายพื้นที่ ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะพื้นที่ จ.อุดรธานี ที่ดินตรงไหนที่ใช้จริง ตรงไหนไม่ได้ใช้ก็คัดออกมาในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ
ของกรมธนารักษ์ ที่มีประชาชนอยู่ บางพื้นที่อยู่ในข้อพิพาทกับประชาชน หากจะคืนกองทัพต้องแก้ปัญหาข้อพิพาทก่อน ส่งมอบกรมธนารักษ์”
นายสุทิน ระบุต่อว่า ส่วนความต้องการของกองทัพบกนั้น ไม่ได้ขออะไร แต่ขอในเรื่องของงบประมาณปี 67 ที่จะเข้าสภาฯ เนื่องจากมีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง เกรงว่าจะบริหารงบประมาณไม่ทัน รัฐบาล รมว.กลาโหม อาจต้องช่วย ทั้งงบกลางหรืองบอะไรก็แล้วแต่ช่วยเติมให้ลื่นไหลไปได้ ส่วนในปีต่อไปเรื่องงบประมาณก็ให้ฝ่ายการเมืองได้ช่วยพิจารณา บนเหตุและผลซึ่งตนก็รับไปที่จะชี้แจงให้กับกองทัพในทุกๆ ด้าน รวมถึงด้านยุทโธปกรณ์ก็ให้ซื้อเท่าที่จำเป็น และเป็นงบที่ใช้คุ้มค่าโปร่งใส ตรวจสอบได้ ถือเป็นหลักการที่เราทำร่วมกัน ในขณะที่การช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัยประชาชนนั้น หากเหล่าทัพมีงบประมาณไม่เพียงพอรัฐบาลก็จะใช้งบกลางในการสนับสนุนให้
นายสุทิน ยอมรับว่า วันนี้ไม่ได้หารือถึงแผนพัฒนากำลังรบของกองทัพบก ในเรื่องการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ รถถัง ทดแทนของเก่า ไม่ได้ลงรายละเอียด ซึ่งจะคุยกันรายละเอียดในครั้งต่อไป
ทั้งนี้ ตอนได้ฝากกองทัพบก ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่ใช้ทหารเป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นการจะลดหรือปรับเข้าสู่การสมัครใจโดยสมบูรณ์ กองทัพบกจะเป็นกำลังหลักก็ฝาก ผบ.ทบ. ให้ช่วยคิดและช่วยทำ และนำเหล่าทัพอื่นให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ส่วนพอใจกับบทบาทและจุดยืนของกองทัพทางด้านการเมืองหรือไม่นั้น นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่เฉพาะตนที่พอใจ เท่านี้ตนสัมผัสดูประชาชนก็พอใจ และเชื่อเข้าใจกันว่าบางภารกิจ วันนี้นโยบายสำคัญคือให้กองทัพทันสมัยสู้กับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ บางภารกิจที่ประชาชนเขาตำหนิ กองทัพก็รู้ดีอยู่แล้ว และก็ไม่อยากทำ ก็ฝากให้ท่านอดกลั้น และอุดกั้นให้มากๆ ก็เท่านั้นเอง
เมื่อถามว่ารัฐบาลนี้จะไม่สร้างเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ปัญหาอดีตใช่หรือไม่ นายสุทิน ระบุว่า ฝ่ายประชาชนและฝ่ายเรา ก็ต้องทำอย่างนั้น ตบมือข้างเดียวคงไม่ดัง ต้องช่วยกันทั้งสองฝ่าย
เมื่อถามว่าต้องอดกลั้นกันทั้งสองฝ่ายใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ต้องร่วมมือกัน ไม่ใช่การอดกลั้น ไม่ให้ภารกิจไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย