ทำเนียบ10 ต.ค.-“ภูมิธรรม” เสียดาย “ก้าวไกล” ไม่ร่วม คกก.ประชามติ แก้ รธน. บอกไม่ใช่พรรคเดียวที่มีความน่าเชื่อถือทางการเมือง ขอให้มองคุณวุฒิของกรรมการ ยัน 4 ปีเสร็จ ย้ำไม่แตะหมวด 1-2
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนัคแรก หลังคณะกรรมการชุดดังกล่าวจำนวน 34 คน ได้รับการแต่งตั้งจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยนายภูมิธรรม ย้ำว่าในวันนี้ (10 ต.ค.) จะเป็นการหารือถึงกรอบทำงาน ของคณะกรรมการ หลังทุกคนเข้าใจตรงกันแล้วก็จะพิจารณาว่าต้องตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อศึกษาการทำประชามติในด้านต่างๆหรือไม่ ยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะแล้วเสร็จภายใน 4 ปี อย่างแน่นอน
ส่วนรายชื่อคณะกรรมการจะมีแค่ 34 คน หรือไม่ รวมถึงกรณีที่ไม่มีพรรคก้าวไกล เข้าร่วมนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า คณะกรรมการจะมี 34 คน และการที่ไม่มีพรรคก้าวไกลร่วม ก็ไม่มีปัญหา แต่ยอมรับว่าเสียดาย ซึ่งเมื่อถึงเวลาก็จะต้องมีการรับฟังความเห็นอยู่แล้ว หากพรรคก้าวไกล หรือหน่วยงานต่างๆ มีความเห็นอะไรเพิ่มเติมก็สามารถส่งเข้ามาได้ ขณะเดียวกัน มองว่า คณะกรรมการ จำนวน 34 คนก็ถือว่าเพียงพอ และจำนวนกำลังพอดี ทำงานได้คล่องตัวแล้ว
ส่วนที่หลายคนมองว่า พรรคก้าวไกลไม่ร่วมเป็นคณะกรรมการ อาจถูกมองว่า ขาดความน่าเชื่อถือทางการเมือง นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่ใช่พรรคเดียวที่มีความน่าเชื่อถือทางการเมือง โดยรัฐบาลได้เชิญกรรมการมาจากทุกภาคส่วนเข้าร่วมแล้ว รวมทั้งฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคไทยสร้างไทย ก็เข้าร่วมด้วย ดังนั้นความน่าเชื่อ จึงวัดได้จากคุณวุฒิของกรรมการที่มาร่วมทำงานมากกว่า เพราะล้วนแล้วแต่เป็นที่ยอมรับจากสังคมทั้งสิ้น
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการที่พรรคก้าวไกลไม่ร่วมเป็นคณะกรรมการ เป็นการตั้งแง่ทางการเมืองเพื่อดิสเครดิตรัฐบาลว่าไม่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่อยากคิดว่าการไม่เข้าร่วมของพรรคก้าวไกล เป็นการดิสเครดิตรัฐบาล
“เคารพการตัดสินใจของทุกฝ่าย เราได้แสดงความจริงใจที่จะเชิญทุกฝ่าย ไม่สามารถบังคับใครได้ พร้อมมั่นใจว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสำเร็จได้ใน 4 ปี ทำให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น คาดหวังว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเทียบเท่าปี40 จะเป็นรัฐธรรมนูญที่สอดรับกับสถานการณ์ปกติ มีความเป็นประชาธิไตยมากที่สุด และย้ำว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ จะไม่แก้ไข หมวด 1 และ 2 ซึ่งเป็นหลักการที่ส่วนใหญ่ยอมรับได้” นายภูมิธรรม กล่าว.-สำนักข่าวไทย