ทูตแรงงาน เยี่ยมให้กำลังใจชาวไทยที่ศูนย์หลบภัยฯ ในอิสราเอล

10 ต.ค. – แรงงานไทยจากอิสราเอลลอตแรกจะกลับถึงไทย 12 ตุลาคมนี้ โดยทูตแรงงานเยี่ยมให้กำลังใจชาวไทยที่ศูนย์หลบภัยแรงงาน ประเทศอิสราเอล ซึ่งมีแรงงานไทยอพยพจากจุดสู้รบมาอยู่ที่ศูนย์ฯ แล้ว 256 คน


จากเหตุความรุนแรงในอิสราเอล ตั้งแต่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา แรงงานไทยส่วนหนึ่ง ได้อพยพจากเขตสู้รบมาอยู่ที่ศูนย์หลบภัยแรงงานของประเทศอิสราเอล โดยอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชฑูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจแรงงานไทยที่พำนักอยู่ที่ศูนย์หลบภัยแรงงานประมาณ 256 คน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยืนยันแรงงานไทยกลุ่มแรก 15 คน จะกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ เที่ยวบินแรก LY081 จำนวน 5 คน จะถึงสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 10.35 น. และเที่ยวบินที่สอง LY083 จำนวน 10 คน จะถึงถัดมาในเวลา 12.35 น.


ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงรับแจ้งจากนายจ้างแรงงานไทย ในอิสราเอล เสียชีวิตเพิ่มอีก 6 ราย เป็น 18 ราย บาดเจ็บเพิ่มอีก 1 ราย เป็น 9 ราย ล่าสุด มีแรงงานไทยติดต่อขอกลับเพิ่มเป็น 3,226 คน

สำหรับผู้เสียชีวิตชาวไทย ล่าสุดได้รับแจ้งจากนายจ้าง มีแรงงานไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 6 คน รวม เป็น 18 คน โดยยังไม่ใช่ตัวเลขทางการที่ยืนยันจากรัฐบาลอิสราเอล ส่วนผู้บาดเจ็บเพิ่ม 1 รายรวม เป็น 9 ราย ส่วนชาวไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันยังคงที่ 11 ราย โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ อยู่ระหว่างประสานส่งรายชื่อแรงงานไทยที่ญาติยังติดต่อไม่ได้ ให้ทางการอิสราเอลและองค์กรเอกชน ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าเข้ามาช่วย ส่วนแรงงานที่ถูกจับเป็นตัวประกัน อยู่ระหว่างติดต่อฝ่ายปาเลสไตน์

ด้าน น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ร่วมแถลงออนไลน์ว่า กลุ่มแรกจะกลับขึ้นเครื่องจากกรุงเทลอาวีฟในวันที่ 11 ต.ค. โดยสถานทูต ได้ส่งรถไปรับบ้าง นายจ้างพามาส่งบ้าง และเหมารถกันมาบ้าง รายคนไม่มีเอกสารติดตัวมา ทางสถานทูตจะออกเอกสาร CI เพื่อให้เดินทางกลับไทยให้ได้ โดยขณะนี้มีแรงงานไทยติดต่อมาจำนวนมาก อยู่ระหว่างเพิ่มช่องทางติดต่อ หากใครที่ติดต่อยังไม่ได้ขอให้ส่งข้อความไว้ สถานทูตจะรีบติดต่อกลับ จะทยอยส่งแรงงานไทยกลับ โดยจะเน้นอพยพผู้ที่ได้รับผลกระทบ ในจุดสู้รบก่อน หลังจากเที่ยวบินแรกที่จะถึงไทย 12 ต.ค.นี้ จะมีอีกในวันที่ 18 ต.ค. จำนวน 80 ที่นั่ง อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ


สำหรับผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกันมี 11 คน ส่วนที่ว่ามีเป็นร้อยคน คือ ตัวประกันจากหลายชาติ ขณะนี้ทางการอิสราเอลยังไม่มีข้อมูลว่าคนที่ถูกจับเป็นตัวประกันถูกจับไว้ที่ไหน . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย