ร้อยเอ็ด 7 ต.ค. – “เศรษฐา” ลั่นผู้บริหารสูงสุดของประเทศนั่งหัวโต๊ะแก้ปัญหาเอง ยาเสพติดต้องลดลง เน้นบำบัดคืนอ้อมกอดพ่อแม่ ดีกว่าจับแล้วล้นคุก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีตำรวจภูธรหัวโทน อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะ ให้สัมภาษณ์หลังตรวจเยี่ยมโครงการบำบัดยาเสพติด ที่มีแนวคิดจะให้ “หัวโทนโมเดล” เป็นต้นแบบในการแก้ปัญหายาเสพติด ว่า เจ้าหน้าที่รัฐนำโดยสถานีตำรวจภูธรหัวโทน เป็นแบบอย่างที่ดี อยากให้หลายท้องที่นำไปคิดว่าควรจะทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า แต่ไม่ใช่อยู่ดีๆ นำไปใส่ท้องที่อื่น ต้องดูความพร้อมและความแข็งแกร่งของชุมชนว่าพร้อมด้วยหรือไม่ ตรงนี้เป็นโมเดลที่พิสูจน์ให้เห็นว่าทำสำเร็จ มีตัวเลขที่ลดลงอย่างมีนัย และผู้เสพเป็นผู้ป่วยหายคืนสู่อ้อมกอดพ่อแม่พี่น้องได้ และมีอาชีพที่เป็นหลักแหล่ง อันนี้น่าชื่นชม
ผู้สื่อข่าวถามว่า หัวโทนโมเดลไม่ใช่จุดสุดท้ายที่แก้ได้ เพราะบางครั้งเมื่อจับแล้วก็มีการปล่อยอีก นายเศรษฐา กล่าวว่า หัวโทนโมเดลไม่ใช่ทางแก้ที่เบ็ดเสร็จ อันนี้จริง แต่เป็นส่วนสำคัญในการที่จะแก้ไขปัญหา ถ้าหากบอกว่าผู้เสพต้องจับไปขังคุก ท่านรู้หรือไม่ว่า คุกไทยกี่เปอร์เซ็นต์เป็นผู้เสพยาเสพติด 85% หากเจอนิดเดียวแล้วจะไปเป็นผู้ผิดแล้วติดคุกก็จะเต็มไปด้วยผู้เสพ ซึ่งควรจะต้องมีวิธีอื่นเพื่อเปลี่ยนผู้เสพให้เป็นผู้ป่วย ดูแลรักษาเขาให้ดี ให้มีอาชีพที่มั่นคง มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ส่งคืนสู่อ้อมกอดของพ่อแม่ได้ เรื่องการเผาทำลายยาเสพติด ระยะเวลาจะต้องให้น้อยลง เพื่อสังคมจะได้ไม่มีข้อกังขา ระหว่างการโอนก่อนจะปฏิบัติการเผามันมีรั่วไหลหรือไม่ การจ่ายเงินสินบนนำจับให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ บางทีบอกว่าช้าไป บางทีนาน 1-3 ปี มันช้าเกินไป ต้องให้มีวิธีการที่กระชับขึ้น และเรื่องการยึดทรัพย์ก็ยังช้าอยู่ ดังนั้น หัวโทนโมเดลไม่ใช่วิธีเดียวที่สำเร็จ แต่เป็นส่วนสำคัญ
นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า ตนได้บอกไว้แล้วว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติด ตนจะนั่งหัวโต๊ะเอง เพราะมีหลายหน่วยงาน ทั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สาธารณสุข มหาดไทย ทุกๆ หน่วยงานต้องได้รับการสั่งการที่ชัดเจน มีผู้บริหารสูงสุดของประเทศนั่งหัวโต๊ะบัญชาการเอง ยืนยันเป็นปัญหาสำคัญ และยืนยันปัญหายาเสพติดต้องน้อยลงไป. – สำนักข่าวไทย