“สมศักดิ์” บินด่วนสุโขทัย มอบถุงยังชีพ-เยียวยาผู้เสียชีวิต

สุโขทัย 7 ต.ค.- “สมศักดิ์” บินด่วนสุโขทัย มอบถุงยังชีพ 2,000 ชุด พร้อมเยียวยาผู้เสียชีวิต 5 ราย ย้ำ นายกฯ กำชับเร่งเยียวยา พร้อมประสานด่วนกรมทางหลวง ซ่อมสะพานสิริปัญญารัตน์ หวั่นพังเพิ่ม


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม น.ส.ณัฐธิดา เทพสุทิน บุตรสาว นายมนู พุกประเสริฐ นายก อบจ.สุโขทัย นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ สส.สุโขทัย น.ส.ประภาพร ทองปากน้ำ สส.สุโขทัย นายเขตพงศ์ กุลนาถศิริ รองนายก อบจ.สุโขทัย ลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัย เพื่อมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบภัย จำนวน 2,000 ชุด ใน 2 พื้นที่ คือ วัดบ้านไร่ อำเภอศรีสำโรง และ วัดปากคลอง อำเภอเมือง นอกจากนี้ ยังได้มอบเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยในจังหวัดสุโขทัย จำนวน 5 ราย โดยมอบเป็นค่าจัดการศพ รายละ 50,000 บาท และเงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต รายละ 30,000 บาท

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดสุโขทัย ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว 9 อำเภอ 16,168 ครัวเรือน และส่งผลให้พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย 143,295 ไร่ ทำให้รัฐบาล โดยเฉพาะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใย จึงกำชับให้ตนเร่งช่วยเหลือเยียวยา ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมา ตนได้ประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นการด่วน เพื่อเห็นชอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วม อย่าง ในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ก็ได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้น เป็นถุงยังชีพ จำนวน 2,000 ชุด มูลค่ากว่า 1.4 ล้านบาท และช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิต ในจังหวัดสุโขทัย จำนวน 5 ราย เป็นค่าจัดการศพ รายละ 5 หมื่นบาท และค่าดำรงชีพ อีกรายละ 3 หมื่นบาท


“ถึงแม้ผมจะมีอาการไม่ค่อยสบายมาหลายวันแล้ว เนื่องจากพักผ่อนน้อย จึงเกิดอาการบ้านหมุน เดินไม่ค่อยสะดวก แต่เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือฯ มีมติเยียวยา ผมก็รีบบินด่วนกลับจังหวัดสุโขทัยทันที เพราะต้องการเยียวยาพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบให้ได้เร็วที่สุด ดังนั้น ขอให้เชื่อมั่นว่า เมื่อเกิดปัญหา เราจะไม่ทอดทิ้งกัน ผมในฐานะนักการเมือง ก็จะทำหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด”นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการแก้ปัญหาการบริหารจัดการน้ำในระยะยาว ตนได้ผลักดันโครงการระบบระบายน้ำฝั่งขวาแม่น้ำยม ระยะทางกว่า 51 กิโลเมตร โดยจะเชื่อมโยงทั้งหมด 3 อำเภอ 11 ตำบล จะทำให้สามารถช่วยระบายน้ำให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยลง รวมถึงสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้หน้าแล้งได้ด้วย โดยโครงการนี้ จะเชื่อมโยงตั้งแต่ คลองทางไม้ ต.ปากแคว คลองชัด ต.วังใหญ่ คลองระกำ ต.บ้านไร่ หนองซิง ต.หนองกลับ คลองพระองค์ ต.วังไม้ขอน และคลองน้ำโจน ต.ป่ากุมเกาะ ขณะเดียวกัน ตนก็กำลังผลักดันการสร้างคลองอ้อมอำเภอศรีสำโรง โดยขณะนี้ กำลังออกแบบและทำประชาพิจารณ์ แต่ยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้ในงบประมาณของปีนี้ ซึ่งน่าจะได้เริ่มดำเนินการในปี 2568

“อยากให้พี่น้องประชาชนรับฟังว่า สิ่งเหล่านี้ต้องดำเนินการ และการทำโครงการแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ไม่ใช่นึกอยากทำก็สามารถทำได้ เพราะต้องผ่านหลายขั้นตอน ตั้งแต่ 1.ผู้นำท้องถิ่น เสนอโครงการ 2.ผู้ว่าราชการ ประชุมเห็นชอบ 3.หัวหน้าลุ่มน้ำ เห็นชอบ 4.คณะกรรมการน้ำแห่งชาติ ซึ่งมีผมเป็นประธาน ให้ความเห็นชอบ และ 5.เข้าสู่ขั้นตอนงบประมาณ ดังนั้น จะเห็นว่า ในการทำโครงการ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านการเห็นชอบหลายขั้นตอน จึงเชื่อมั่นได้ว่า แต่ละโครงการที่ขับเคลื่อน จะสามารถช่วยพี่น้องประชาชน ให้ได้รับผลกระทบน้อยลงได้อย่างแน่นอน”รองนายกรัฐมนตรี กล่าว


นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากความเสียหายบริเวณทับผึ้ง ขณะนี้ เราได้รับงบประมาณมาซ่อมแซมแล้ว ซึ่งจากนี้ เราจะผันน้ำจากจังหวัดกำแพงเพชร ผ่านคลองตาทรัพย์ มาลงหน้า อบต.ยางซ้าย เพื่อนำน้ำมาใช้ในหน้าแล้ง แต่การกั้นไม่ให้น้ำท่วมนั้น เราต้องอดทนไปอีกระยะ รอให้ได้งบประมาณมาขับเคลื่อนโครงการ ก็จะมีโอกาสแก้ไขปัญญาในระยะยาวได้ ซึ่งวันนี้ เป็นโอกาสดีที่ตนเป็นรองนายกฯ กำกับดูแลทั้งถนนและน้ำ ก็จะสามารถเข้ามาช่วยเหลือประชาชนได้ เพราะตนให้ความสำคัญในทุกมิติแม้กระทั่งบ่อบาดาล

นอกจากนี้ ภายหลังมอบถุงยังชีพ นายสมศักดิ์ ยังได้ลงพื้นที่บริเวณสะพานสิริปัญญารัตน์ อำเภอศรีสำโรง ซึ่งเป็นจุดที่เกิดสะพานขาด โดยนายสมศักดิ์ ได้ประสานไปยังกรมทางหลวง เพื่อให้รีบเข้ามาดำเนินการแก้ไข เพราะมีความกังวลว่า อาจจะมีมวลน้ำขนาดใหญ่ไหลมาเพิ่มอีก จะส่งผลให้บริเวณจุดนี้ ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง และกระทบกับประชาชน ที่ต้องสัญจรผ่านไปมา .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย