กระทรวงการต่างประเทศ 6 ต.ค.- กต.- ยธ. ยัน เยียวยาทุกฝ่ายจากเหตุกราดยิง ย้ำ ไม่กระทบสัมพันธ์จีน ชี้ แก้กฎหมายเอาผิดผู้ไม่บรรลุนิติภาวะ ให้สภาฯ ตัดสินใจ
กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงถึงมาตรการเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากกรณีกราดยิงที่ห้างสรรพสินค้า สยามพารากอน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา
นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ทรงได้รับผู้บาดเจ็บไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บ และติดตามสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ ตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว
“ขอเรียนย้ำว่ารัฐบาลไทย ห่วงใยและพร้อมแสดงความรับผิดชอบต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกท่าน นอกจากนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังได้ร่วมดำเนินการในทุกด้าน รัฐบาลไทยให้ความสำคัญ กับเรื่องความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และแขกของเราทุกคน เราต้องการเป็นเจ้าบ้านที่ดี และให้ทุกคนเชื่อมั่นว่า เราพร้อมที่จะต้อนรับและดูแลทุกท่าน” นายจักรพงษ์ กล่าว
นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานกับสถานเอกอัครราชทูตของประเทศที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด และได้ช่วยประสานงาน ช่วยเหลือครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ ทางปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้จัดประชุมออนไลน์ กับสถานทูต สถานกงสุลใหญ่ของเราที่ จีน เมียนมา และลาว เพื่อประสานข้อมูลและการดำเนินการ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
“เมื่อวานนี้ท่านทูตที่ย่างกุ้ง ได้โทรศัพท์หาคุณแม่ผู้เสียชีวิตที่เมียนมา ซึ่งจะเดินทางมาไทยในคืนนี้ พร้อมกับทูตประจำเมียนมา กงสุลใหญ่ที่สะหวันนะเขต ยังได้ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวผู้บาดเจ็บชาวลาว ซึ่งได้แสดงควาสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ผ่านกงสุลใหญ่มาในโอกาสนี้ด้วย” นายจักรพงษ์ กล่าว
นายจักรพงษ์ ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์กับประเทศจีน หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้นว่า ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ นายกรัฐมนตรีได้โทรหาเอกอัคราชทูตจีนประจำประเทศไทย และได้มีการสอบถามกันต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้(5 ต.ค.) ยังได้มีการส่งสารถึงประธานาธิบดีจีนด้วย โดยในกลางเดือนนี้ นายกฯจะไปเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการ พร้อมตอกย้ำความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะเข้ามาประเทศไทยต่อไป
ด้าน พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ในส่วนที่เกี่ยวกับกระทรวงยุติธรรม กรณีของผู้ก่อเหตุ หลังจากศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว ได้มาอยู่กับสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก ซึ่งอยู่ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม ในส่วนการช่วยเหลือของกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากกฎหมายไทยมีเรื่องการเยียวยา เกณฑ์ผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลืออัตรา 200,000 บาท ส่วนผู้บาดเจ็บได้ 50,000 บาท และมียอดเงินช่วยเหลือของหน่วยงานอื่นๆ รวมกัน จำนวน 6,200,000 แสนบาท และจะมีการเข้าไปช่วยเหลือดูแลด้านการแพทย์ เรื่องนี้เป็นที่ห่วงใยของประชาชนทั้งประเทศ กระทรวงยุติธรรมและภาคเอกชนก็จะให้ความช่วยเหลือต่างๆ ต่อไป ส่วนในเรื่องงานพิธีศพผู้เสียชีวิต ตนและรัฐมนตรีต่างๆ จะไปร่วมด้วย โดยจะมีผู้เสียชีวิตชาวเมียนมา อยากให้มีความมั่นใจว่าทางรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงยุติธรรม นอกจากการเยียวยาแล้ว จะะดูเรื่องการดำเนินคดี ตามหลักนิติธรรม
พ.ต.อ.ทวี ยังได้กล่าวถึงกระแสข้อเรียกร้องให้มีการปรับลดเพดานอายุเยาวชน ที่ไม่ต้องรับโทษ ทางกฎหมายอาญา โดย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กรณีเด็กถือว่าทำผิด แต่กฎหมายไม่รับโทษ เพราะเกณฑ์อายุ การสอบสวนไม่ใช่แค่เด็ก แต่รวมถึง บุคคลที่เกี่ยวข้อง เป็นผู้มีส่วนร่วมทำให้เด็กกระทำผิด กฎหมายไม่ได้ละเว้นแก่ผู้ใด เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นที่โต้เถียงกันมาก ถ้าจะมีการแก้ไขกฎหมาย ก็มีสภาผู้แทนราษฎรสามารถปรับปรุงต่อไปได้ ส่วนของรัฐบาลตำรวจได้สอบสวนเบื้องหลังผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และจะมีการดำเนินคดีทั้งหมด โดยการปฏิบัติต่อผู้ต้องหาเด็กนั้น สถานพินิจจะปฏิบัติตามมาตรฐานสากล
” เหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นกับคนหลายสัญชาติ ไม่ได้เลือกปฏิบัติต่อประเทศใดประเทศหนึ่ง กฎหมายไทย เราให้การดูแลเสมือนคนไทย บางครั้งมากกว่าคนไทย การสูญเสียครั้งนี้ เรามีความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่เราจะทำได้ คือทำเพื่อความยุติธรรม ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย กับทุกคนและผู้เกี่ยวข้อง ตามกฎหมาย หากจะมีการแก้ไข ประชาชนก็สามารถยื่นเข้าสู่สภาฯได้”.-สำนักข่าวไทย