ปีนี้น้ำต้องไม่ท่วมอุบลฯ อีก

อุบลราชธานี 6 ต.ค. – นายกฯ ลั่นปีนี้น้ำต้องไม่ท่วมอุบลฯ อีก แนะลองวิธีใหม่บริหารจัดการน้ำ ช่วยผันน้ำเร็วขึ้น รับเดือนนี้เป็นสถานการณ์ที่ยากที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมอบสิ่งของให้ประชาชน ที่เชิงสะพานเสรีประชาธิปไตย สถานีตรวจวัดระดับน้ำ (M7) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ดูสถานการณ์น้ำจังหวัดอุบลราชธานีและรับฟังบรรยายสรุปจากหน่วยงานต่าง ๆ ว่า มีเรื่องน่าเป็นห่วง เพราะปีที่ผ่านมาจุดที่เรายืนอยู่ตรงนี้น้ำสูง 2 ฟุตเวลานานเป็นเดือน ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดอีกในปีนี้ไม่ได้ และมาวันนี้ทั้งรัฐมนตรีช่วย ส.ส.ในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากันเยอะ ยืนยันว่าถ้าเกิดอุทกภัย ทุกหน่วยงานพร้อมช่วยประชาชนทุกมิติ ซึ่งการช่วยเหลือเป็นเรื่องหนึ่ง แต่หากไม่ต้องช่วยจะดีกว่าเพราะน้ำไม่ท่วม

“วันนี้เราได้วางแผนบริหารจัดการน้ำท่วม ที่อาจจะต้องลองวิธีการใหม่บ้าง  เพื่อให้ทำให้มั่นใจว่าน้ำต้องไม่มี  หรือมี ต้องน้อยมาก และระยะเวลาต้องน้อยมาก ซึ่งจากปริมาณน้ำเกือบเกือบแน่นอนว่าในเดือนต.ค.จะเป็นสถานการณ์ที่ยากที่สุด การบริหารจัดการน้ำจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งตนได้ให้กำลังใจ หน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งทราบว่าทุกท่านทำงานกันอย่างหนัก” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่าช่วงเวลาที่มีอยู่ในการเตรียมการรับมือระยะสั้น ให้คำมั่นได้หรือไม่ ว่าหากเกิดน้ำท่วมปีนี้จะไม่หนักเท่าปีก่อน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มั่นใจ โดยจะใช้มาตรการผันน้ำและวิธีการต่างๆที่แตกต่างจากปีก่อน เพราะการบริหารจัดการน้ำมีหลายวิธี แต่ที่ผ่านมาเราใช้วิธีเดิมๆ ซึ่งจะต้องมีวิธีการที่แปลกใหม่บ้าง  เช่น การผันน้ำ อาจจะปล่อยให้เร็วขึ้นอย่ากลัวว่ามันจะแล้ง เพราะพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เรามีวิทยาศาสตร์ที่จะพยากรณ์ปริมาณน้ำฝนในระยะยาว และยอมรับว่า ต้องมีบริหารความเสี่ยงด้วย ซึ่งตนสั่งการให้ดูเรื่องความเสี่ยงไปแล้ว

ส่วนสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคกลาง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้เข้าไปดูเรื่องการบริหารจัดการน้ำ เช่น ที่จังหวัดสุโขทัย ได้รับรายงานสถานการณ์น้ำคลี่คลายแล้ว

เมื่อถามว่าการการพูดคุยในวันนี้มีการพูดถึงโครงการขนาดใหญ่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มี แต่ต้องไปดูว่าอะไรลงทุนไปแล้วคุ้มค่าที่สุด ซึ่งสิ่งที่ผู้ซึ่งสิ่งที่พูดในวันนี้ คือ  การเพิ่มช่องทางระบายน้ำใหม่ เพื่อบรรเทาน้ำที่จะผ่านตัวเมือง และการดำเนินการจะทันในสมัยรัฐบาลชุดนี้ เพราะเราดูว่าอะไรจะสามารถทำได้เลย.-สำนักข่าวไทย