รัฐบาลเดินหน้าปราบผู้มีอิทธิพล

ทำเนียบ 2 ต.ค.- “คารม” ย้ำ รัฐบาลเดินหน้าปราบผู้มีอิทธิพล วอนทุกภาคส่วนร่วมกันใช้มาตรการทางสังคม กดดันผู้กระทำความผิด ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด


นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กำชับให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีอิทธิพลอย่างถูกต้องและเป็นธรรม เน้นย้ำ ให้ทุกส่วนราชการเดินหน้าขับเคลื่อนปราบปรามผู้มีอิทธิพลตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมกำชับให้คุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้กับประชาชนจากกลุ่มอิทธิพลที่กระทำการ หรืออยู่เบื้องหลังการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือดำรงตนอยู่เหนือกฎหมาย ซึ่งถือเป็นการบ่อนทำลายเศรษฐกิจ และสังคม และการเมืองมาโดยตลอด โดยนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำตอนมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เกี่ยวกับนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพล จำนวน 3 ข้อ ดังนี้ 1.ให้ดำเนินการจัดการผู้มีอิทธิพล 2.ให้รางวัลผู้ให้เบาะแส และ 3. ปกป้อง คุ้มครองสิทธิพยาน

นายคารม กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้จัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล หรือกลุ่มที่มีการใช้อำนาจเหล่านั้นในทางมิชอบ พร้อมกับเน้นย้ำให้ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย มุ่งเน้นจัดระเบียบสังคมเพื่อสร้างสังคมให้สงบสุข เพื่อให้บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ให้ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัย พร้อมกับกำชับให้ฝ่ายปกครองเข้มงวด วางตัวเป็นตัวอย่างที่ดี เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศจัดการผู้นำชุมชนที่มีอิทธิพล มีพฤติกรรมข่มขู่คุกคามประชาชน หรือทำเรื่องเสียหาย ทำความผิดกฎหมาย ให้เร่งดำเนินการตามกฎหมายให้เร็วที่สุด อย่าปล่อยให้ใช้ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐไปแสวงหาประโยชน์ให้ตัวเอง ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดการจัดทำบัญชีผู้มีอิทธิพลของกระทรวงมหาดไทยแล้วเสร็จ พบมีรายชื่อประมาณ 600-700 คน โดยในวันที่ 3 ต.ค.นี้ จะนำเรื่องรายชื่อผู้มีอิทธิพลเข้าในที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลต่อไป


นายคารม เน้นย้ำถึง พฤติการณ์ที่เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล ลักษณะ 16 ข้อ ดังนี้ 1.นายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ 2.ฮั้วประมูลงานราชการ 3.หักหัวคิวรถรับจ้าง 4.ขูดรีดผู้ประกอบการ 5.ลักลอบขนสินค้าหนีภาษี 6.เปิดบ่อนการพนัน 7.ลักลอบค้าประเวณี 8.ลักลอบนำคนเข้า-ออกประเทศโดยผิดกฎหมาย 9.ล่อลวงแรงงานไปยังต่างประเทศ 10.แก๊งต้มตุ๋นนักท่องเที่ยว 11.มือปืนรับจ้าง 12.รับจ้างทวงหนี้ด้วยการข่มขู่ใช้กำลัง 13.ลักลอบค้าอาวุธสงคราม/ปืนเถื่อน 14.บุกรุกที่ดินสาธารณะ/ทำลายทรัพยกรธรรมชาติ 15.เรียกรับผลประโยชน์บนเส้นทางหลวงสาธารณะ และ 16.ผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

“หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมดังกล่าว ขอให้แจ้งเบาะแสมายังศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและผู้ร้ายสำคัญ หรือ โทรสายด่วน 1195 พร้อมกับขอความร่วมมือจากประชาชนในทุกภาคส่วนของสังคม ได้ร่วมกันใช้มาตรการทางสังคม กดดันผู้กระทำผิดให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ควบคู่ไปกับการใช้มาตรการทางกฎหมายจากเจ้าหน้าที่รัฐ ในการขยายผลปราบปรามจับกุมอย่างจริงจัง พร้อมทั้งร่วมกันให้ข้อมูลข่าวสารหรือเบาะแสเพิ่มเติม เกี่ยวกับบุคคลที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น ผ่านทาง ตู้ ป.ณ. 1111 รวมทั้ง ศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่าน หมายเลข 1599 “ นายคารม กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น