“ทวี” ย้ำกลางวงสัมมนาต้องปฏิรูปกฎหมายให้เป็นธรรม

รัฐสภา 29 ก.ย.- กมธ.การพัฒนาการเมืองฯ วุฒิสภา จัดเวทีเสวนา “บ้านเมืองไม่สงบ เมื่อไม่เคารพกฎหมาย” รมว.ยุติธรรม ชี้บังคับใช้กฎหมายบางเรื่องต้องมองตามหลักความเป็นจริง ต้องปฏิรูปกฎหมายให้มีความเป็นธรรม


คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา จัดสัมมนาในหัวข้อ “บ้านเมืองไม่สงบ เมื่อไม่เคารพกฎหมาย” โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 1 นายน้ำแท้ มีบุญสล้าง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาการสอบสวนและการดำเนินคดี สำนักงานอัยการสูงสุด และ พ.ต.อ.รชตโชค ลีวาณิชคุณ ผกก.(สอบสวน) กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) ร่วมการสัมมนา

พ.ต.อ.ทวี กล่าวถึงการวางหลักการเรื่องกฎหมายกระบวนการยุติธรรม ว่า รัฐบาลได้จัดทำนโยบายว่าจะบริหารบ้านเมืองโดยยึดหลักนิติธรรม ซึ่งคำว่าหลักนิติธรรมถูกเขียนเอาไว้ครั้งแรกในปี 2550 และปี 2560 ซึ่งหมายถึง รัฐบาล รัฐสภา ศาลและองค์กรอิสระ ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรม การที่รัฐบาลนำหลักนิติธรรมมาเขียนไว้ในนโยบาย โดยคำนึงถึงการบริหารงานต่างๆ ที่ใช้งบประมาณที่น้อยที่สุดเป็นการสร้างรากฐานให้กับประเทศ


พ.ต.อ.ทวี ยังกล่าวว่า ตนทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับคำว่า บ้านเมืองไม่สงบ เมื่อไม่เคารพกฎหมาย เพราะบางเรื่องไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป หากมองว่ากฎหมายสั่งอะไรต้องทำ หากคิดเช่นนั้นสำหรับประเทศไทยเป็นอันตราย เพราะระบบของกฎหมายไทยมีจำนวนมาก โดยในรัฐธรรมนูญ มาตรา 53 เขียนไว้ว่า รัฐต้องปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดนั้น มองว่าหากรัฐบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด บ้านเมืองอาจจะอยู่ไม่ได้

เช่น กลุ่มกฎหมายป่าไม้ มีทั้งกฎหมายอุทยานฯ อนุรักษ์ป่า สงวนป่าไม้ ซึ่งเรามีพื้นที่ประกาศเป็นแนวป่าไม้ 135 ล้านไร่ แม้แต่คำนิยามว่าป่าในกรมป่าไม้ยังมี 4 นิยาม และคนที่เข้าไปอยู่ในป่ามีถึง 15-17 ล้านคน อีกทั้งเมื่อถามว่ามีป่าเป็นจริงเท่าไหร่ กรมป่าไม้ยังละทิ้งไม่ใช้นิยามคำว่าป่าไม้ของตัวเอง และให้คณะวนศาสตร์ไปใช้นิยามสากล คือ ป่าจากความเป็นจริง ต้นไม้ต้องสูง 3 เมตรเชื่อมต่อกัน ป่าจึงมี 102 ล้านไร่ เหลืออีก 33 ล้านไร่ คือที่คนอยู่ทุกวันนี้ อีกทั้งยังมีทั้งป่าเสื่อมโทรม และป่าทิพย์ที่ไม่มีป่าอยู่จริง ถ้าเราให้เขาเคารพกฎหมาย คนจะไม่มีแผ่นดินอยู่ 10 กว่าล้านคน แล้วคนที่อยู่ ถ้าเราบังคับใช้กฏหมาย 100% คนเหล่านี้ก็จะติดคุกเมื่อไปถึงศาล เพราะเขาสู้รัฐไม่ได้ พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่มีการไปจับชาวประมงที่ตะรุเตา ในข้อหาอุทยานฯ ซึ่งปกติในทะเลทั่วไป ถ้าประกาศเขตอุทยานฯ จะไม่เกิน แต่ที่ตะรุเตา ปรากฏว่าอุทยานฯ ไปเอาที่ของราชทัณฑ์ที่ประกาศตั้งคุกไว้ พอเพิ่มเขตอุทยานฯ ก็ยาวไปถึงประเทศมาเลเซีย ทำให้ประมงพื้นบ้านที่จับปลาทุกวันนี้ออกนอกเขตอุทยานฯ แต่พอไปที่ จ.สตูล เขาเหล่านี้กลับเป็นผู้ที่กระทำผิด

“เราต้องเคารพกฎหมายก็มีความสำคัญ แต่ตนขอฝากสภาฯ ว่า เราจะบัญญัติกฎหมายอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ที่สำคัญประชาชนทุกคนต้องใช้ประโยชน์จากกฎหมาย ประชาชนทุกคนต้องได้รับความยุติธรรมจากกฎหมาย และการปฏิบัติตามกฎหมายก็คงทำไม่ได้ทุกเรื่อง ทำให้อาจถูกมองว่ามีการละเมิดกฎหมาย แต่การละเมิดกฏหมายในเรื่องข้อเท็จจริง ตนคิดว่าต้องเปลี่ยนนิยามมาใช้เรื่องความยุติธรรมตามความเป็นจริง ซึ่งความยุติธรรมตามความเป็นจริง บ้านเมืองต้องอยู่ได้ วันนี้ถึงเวลาที่เราต้องมาปฏิรูปกฎหมายให้มีความเป็นธรรม ซึ่งก็ต้องดูในเงื่อนไขว่า กฎหรือกฎหมายเป็นธรรมหรือไม่” พ.ต.อ.ทวี ระบุ


พ.ต.อ.ทวี ยังกล่าวว่า ในเรือนจำมีคนประมาณ 60,000 คน เป็นผู้ถูกขังที่อยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งในทางปฏิบัติ กลุ่มคนเหล่านี้ต้องอยู่เหมือนนักโทษเด็ดขาด แบบนี้กรมราชทัณฑ์หรือกระทรวงยุติธรรมเองก็ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนตั้งคำถามถึงเรื่องนี้ว่าจะทำอย่างไร ซึ่งฝ่ายนิติบัญญัติต้องมาดูกันว่าจะทำอย่างไรในคดีระหว่างสอบสวน หรือระหว่างที่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ยังไม่ตัดสิน ไม่ควรให้เขาอยู่เหมือนนักโทษเด็ดขาด เพราะเมื่อวัดหลักนิติธรรม ตามมาตรฐานเราอยู่ลำดับท้ายของโลก ดังนั้น เราต้องกลับมาพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย

ด้านนายน้ำแท้ กล่าวว่า หากพูดถึงเรื่องกฎหมายแบบใดควรจะเชื่อฟังและเคารพ ไม่ใช่คำถามที่เพิ่งเกิดขึ้นในยุคนี้ แต่เป็นคำถามที่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยยุคกรีกโรมัน โดยกรีกโรมันมีความเป็นประชาธิปไตย การจำกัดสิทธิเสรีภาพคนต้องมีกฎหมายมาจำกัด ดังนั้น วิธีตั้งต้นไม่ได้ทำให้เราเชื่อกฎหมาย แต่ทำให้เราคิดว่าเราอิสระ เรามีเสรีภาพ ซึ่งกฎหมายของประเทศไทยมีการพัฒนาและปฏิรูปในสมัยรัชกาลที่ 5

สำหรับกฎหมายถูกใช้เป็นเครื่องมือของการปกครอง และจะตอบสนองเพื่อผลประโยชน์ของการปกครองนั้นๆ เช่น ระบบการปกครองแบบเผด็จการ หรือระบอบกษัตริย์ กฎหมายก็จะมีรูปแบบที่ต้องการการบังคับใช้ที่เด็ดขาด เข้มงวดเชื่อฟัง แต่ถ้าเป็นกฎหมายในระบอบประชาธิปไตย ก็จะมองหาประโยชน์ของประชาชนส่วนรวมเป็นหลัก ดังนั้น การใช้กฎหมายแบบใดจะดีก็ต้องดูว่าเราอยู่ในรูปแบบการปกครองระบอบใด และทัศนคติของผู้บังคับใช้มีทัศนคติต่อคนที่ต้องเชื่อฟังแบบใด

นายน้ำแท้ กล่าวอีกว่า หลักนิติธรรม หัวใจคือความเสมอภาคของการใช้กฎหมาย และคนเราจะไม่เสมอภาคกันเลย ถ้ามีการแทรกแซง หรือให้ผลประโยชน์กับคนบางกลุ่มมากกว่า จึงเกิดคำถามต่อความชอบธรรม เช่น การให้แหล่งก๊าซธรรมชาติหรือแหล่งน้ำมันกับนายทุน และประชาชนต้องจ่ายการใช้ทรัพยากรเหล่านั้นในราคาแพง ทั้งที่เป็นทรัพยากรของชาติ เป็นต้น และเมื่อเกิดคำถามต่อความไม่ชอบธรรม จึงเกิดการประท้วงขึ้น หากเป็นแบบนี้ เราจะบอกว่าคนเหล่านี้ไม่เคารพกฎหมาย และสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองอย่างนั้นหรือ

“เพราะฉะนั้น การไม่เคารพกฎหมายหรือการต่อต้านกฎหมาย เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของการมีส่วนร่วมของประชาชนที่รู้สึกว่า เขาเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายที่ต้องตอบสนองต่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพวกเขาเหล่านั้น“ นายน้ำแท้ กล่าว

ขณะที่การจะละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ต้องมีกฎหมายที่ให้อำนาจในการกระทำนั้น เช่น การค้นบ้าน การขังใคร แต่นักกฏหมายบ้านเราแปลคำนี้ผิด เพราะเราไม่เข้าใจตรรกะของมันที่ว่า ไม่มีกฎหมายให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐ กลายเป็นว่าถ้าไม่มีระเบียบเขียน เราไม่ทำอะไรเลย นี่คือนิติวิธีที่ผิดอย่างรุนแรง ทั้งที่จริงแล้วเราเป็นเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม ท่านสามารถทำได้ทุกอย่าง เพื่อให้เกิดความยุติธรรม มีอำนาจตามกฎหมาย ยกเว้นละเมิดกฏหมาย หรือการละเมิดสิทธิเสรีภาพ และต่อมาเรื่องของกฎเลยก็มีการพัฒนาตามยุคตามสมัย โดยเฉพาะเรื่องการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล จึงมีการปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนมีฝนน้อย คลื่นลมมีกำลังอ่อน

กทม. 2 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนมีฝนน้อย คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 20% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนน้อยเนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน และตากอุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ […]

เปิดข้อเสนอสุดท้าย ทีมไทยแลนด์ ต่อรอง “ทรัมป์”

1 ส.ค. – เปิด 10 ข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลภาษีนำเข้าในอัตรา 19% จากที่ก่อนหน้านี้ถูกขู่ว่าจะเก็บสูงถึง 36% นอกจากตัวเลขภาษีนำเข้า สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าหลายคนต้องการรู้ นั่นก็คือข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลที่ 19% โดยสิ่งที่ไทยยอมแลก 10 ข้อหลักมีดังนี้ เรียกว่า ไทยยอมแลกหลายมิติ ทั้งเปิดตลาดให้สหรัฐ มากขึ้น ยกเว้นภาษีเกือบหมด, เพิ่มการนำเข้า, และร่วมมือด้านความมั่นคง แลกกับการที่ “ภาษีตอบแทน” ที่สหรัฐจะเก็บจากไทย ลดลงจาก 36% เหลือ 19%.-สำนักข่าวไทย

เคลียร์ BM21 หมู่บ้านกระสุนตก 5 ลูก อ.น้ำยืน อุบลฯ

อุบลราชานี 1 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ทำลายหัวกระสุน BM21 ที่ทหารกัมพูชายิงเข้ามาตกในหมู่บ้านชายแดน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ทั้งหมด 5 ลูก มีทั้งที่ยังไม่ระเบิด และทำงานไม่สมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิดทำลายหัวกระสุน BM21 ที่ทหารกัมพูชายิงเข้ามาตกในหมู่บ้านชายแดน ในอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ซึ่งจากการสำรวจพื้นที่ ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ใน 8 หมู่บ้าน 24 จุด พบกระสุน BM21 ทั้งหมด 5 ลูก มีทั้งที่ยังไม่ระเบิด และพร้อมทำงาน โดยในช่วงเช้าทำลาย 3 จุด จุดแรกอยู่บริเวณริมถนนสายน้ำยืน นาจะหลวย เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนนทั้ง 2 ฝั่ง ก่อนขุดดินด้านบนแล้วหย่อนระเบิด C4 ลงไปในหลุมที่หัวกระสุน BM21 ตกแต่ไม่ระเบิด จากนั้นจึงจุดชนวนทำลายระเบิด ใช้เวลาเพียง 20 นาที หัวกระสุนถูกทำลายโดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จุดที่ […]

ทูตทหาร 23 ประเทศ ลงพื้นที่จุดกัมพูชายิงถล่ม

ศรีสะเกษ 1 ส.ค. – วันนี้คณะทูตานุทูตและทูตทหาร รวม 23 ประเทศ ลงพื้นที่สังเกตการณ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ในพื้นที่ถูกกัมพูชาโจมตี และศูนย์พักพิง การลงพื้นที่ในวันนี้ทางประเทศไทยต้องการให้คณะทูตทั้ง 23 ประเทศได้เห็นข้อเท็จจริงและนำไปเผยแพร่ให้ประชาคมโลกได้รับรู้ จุดแรกคือปั๊ม ปตท.บ้านผือ ที่ถูกกัมพูชายิงจรวด BM21 โดยนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ บรรยายสรุปให้คณะได้รับฟังถึงเหตุการณ์วันแรกที่เกิดขึ้นและเหตุการณ์ต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีญาติผู้สูญเสียนำรูปผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว บอกเล่าเหตุการณ์ความสูญเสียจากที่เกิดขึ้นต่อคณะทูตานุทูตผ่านล่าม พร้อมเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิตที่ผู้บริสุทธิ์ ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย จากนั้นคณะทูตทหาร เดินทางลงพื้นที่ ต่อไปยังจุดกระสุนตกใส่พลเรือน ที่อาคารโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลชำเม็ง อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ส่งผลทำให้อาคาร รพ.สต. เสียหาย ที่นี่ ยังมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีเด็กเล็กอยู่ประจำกว่า 30 คน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากทางจังหวัดได้ประกาศให้ชาวบ้านอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยหรือศูนย์พักพิงชั่วคราว ตั้งแต่ 24 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่ทางทหารกัมพูชาเปิดฉากยิง โดยนางเข็มจิรา จันทร์ทอง ผอ.รพ.สต.บ้านชำเม็ง บอกว่าถ้าวันนั้น หากยังไม่มีการอพยพ […]