รัฐสภา 28 ก.ย.-“น.ต.ศิธา” ระบุไทยสร้างไทยงดแสดงความเห็นเรื่อง “ปดิพัทธ์” หาพรรคใหม่สังกัดเพื่อคงตำแหน่งรองปธ.สภาฯ แต่พร้อมปเดรับถ้าจะมาอยู่ด้วยกัน แนะตร.ทำทุกอย่างให้ถูกต้อง
น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรคไทยสร้างไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง อาจจะย้ายพรรค พรรคไทยสร้างไทยพร้อมเปิดรับเหมือนพรรคเป็นธรรมหรือไม่ ว่า เป็นกระบวนการตัดสินใจภายในของพรรคก้าวไกล และเป็นเอกสิทธิ์ของนายปดิพัทธ์ที่จะออกจากพรรคก้าวไกล อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลสามารถมีมติให้นายปดิพัทธ์ลาออก
“ถ้าไม่ลาออก พรรคก้าวไกลก็ต้องขับนายปดิพัทธ์ออกจากพรรคเพื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านต่อไปได้ ขณะที่นายปดิพัทธ์ต้องสังกัดพรรคใหม่ให้ได้ภายใน 30 วัน เพื่อรักษาสถานะส.ส. และดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ต่อไป พรรคไทยสร้างไทยไม่แสดงความคิดเห็น ถือเป็นเอกสิทธิ์ของนายปดิพัทธ์ตัดสินใจที่จะเข้าไปสังกัดพรรคการเมืองใด แต่ถ้านายปดิพัทธ์จะมาเข้าร่วมพรรคก็ยินดีต้อนรับ แค่ไม่ได้แสดงความเห็นว่าอยากให้มาอยู่ด้วยกัน” น.ต.ศิธา กล่าว
เมื่อถามถึงปัญหาภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) น.ต.ศิธา กล่าวว่า ประเด็นที่ไม่ถูกต้องต้องปรับให้ดีขึ้นและลงตัว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนติดตามและรับฟังจากกลุ่มต่าง ๆ มองว่าทั้งสองฝ่ายควรพูดความจริง ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องให้ถูกต้องก็จะปลอดภัย ไม่ถูกดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ทำให้สิ่งที่อยู่ใต้ดินกลับขึ้นมาบนดิน
“มีคนบอกว่าควรเห็นใจ และปล่อยให้ตำรวจมีที่ยืนบ้าง ซึ่งส่อให้เห็นว่า แสดงว่ามีอะไรที่ไม่ถูกต้องอยู่หรือไม่ หรือที่ระบุว่า จะต้องตรวจสอบทั้งหมดหรือไม่ จะได้ตายกันทั้งหมด ฐานะที่เป็นประชาชนคนหนึ่ง เมื่อไปบริโภคข่าวสารก็จะมองว่า ผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของเว็บหรือเครือข่ายที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ใช่ตัวแม่จริงหรือไม่ ซึ่งมันต้องมีอะไร ต้องตรวจสอบแล้วร่วมมือกันทำให้ถูกต้อง ยิ่งรัฐบาลนี้เปิดมาจะทำเรื่องใต้ดินมาอยู่บนดิน ทำเรื่องพนันออนไลน์ และกาสิโน ให้ถูกกฎหมาย เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องบอกว่าไม่มีการพนันและกาสิโนเลย เป็นเรื่องที่ถูกที่สุด แต่ที่แย่ที่สุดคือ มีแล้วฝังไว้ใต้ดิน แม้แต่ประเทศที่เคร่งกว่าเราก็เอาเรื่องนี้มาทำให้ถูกหมดแล้ว ซึ่งรัฐบาลควรทำให้ถูกกฎหมายเพื่อจัดเก็บภาษี ” น.ต.ศิธา กล่าว มื่อถามถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศไม่รับเงินเดือนและเบี้ยประชุม โดยจะมอบให้มูลนิธิต่างๆ น.ต.ศิธา กล่าวว่า ทุกคนก็เสียสละอยู่แล้ว เพียงแต่นายกรัฐมนตรีมีฐานะที่ดีกว่า.-สำนักข่าวไทย