“เศรษฐา” ร่วมประชุม สส.เพื่อไทย โปรยคำหวาน คิดถึงเสมอ

พรรคเพื่อไทย 26 ก.ย.- “เศรษฐา” ใช้เวลาหลังราชการคุย สส.เพื่อไทย วางคิวเข้าพรรคทุกวันอังคาร โปรยคำหวานบอก คิดถึงเสมอ ไม่เคยลืม ลั่น จะลงพื้นที่ถี่หลังเจอวาทกรรม “นายกฯ อินเตอร์” ด้าน “แพทองธาร” เหงาเฝ้าพรรคคนเดียว ประกาศดันพรรคให้เข้มแข็ง สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ขณะที่ประธานวิปรัฐบาล ฝากนายกฯ ดันกฎหมาย ครม. หากมีเวลาก็มาเยี่ยมสภาบ้าง ส่วน“ภูมิธรรม” เผยทาบคนร่วม คกก.ประชามติ ใกล้ครบ ย้ำเสร็จใน 4 ปี ทันใช้เลือกตั้งใหม่


เมื่อเวลา 16.30 น. พรรคเพื่อไทยมีการประชุม สส.พรรคประจำสัปดาห์ นำโดยนายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการรองหัวหน้าพรรค นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย นายอดิศร เพียงเกษ สส. บัญชีรายชื่อและ ประธานวิปรัฐบาล ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟท์พาวเวอร์แห่งชาติ เข้าร่วมประชุมด้วย

นายเศรษฐา กล่าวในที่ประชุม สส. พรรคเพื่อไทยประจำสัปดาห์ ว่า วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่พยายามจะมาเร็ว ขอโทษสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่เดินทางมาช้า เนื่องจากติดเวลาราชการ ซึ่งตั้งแต่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งบริหารราชการประเทศโดยจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตั้งแต่ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก็ครบสองอาทิตย์ ต้องขอบคุณ สส. ที่เป็นกำลังใจและช่วยตอบเรื่องในสภา พร้อมย้ำว่าเข้ามาทำงานด้วยความตั้งใจจริงและทำเพื่อประเทศชาติ


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตั้งแต่ไปอยู่ทำเนียบรัฐบาลก็บินไปต่างประเทศ เพื่อเข้าร่วมประชุม UNGA ถือเป็นภารกิจที่หนัก และไม่ได้ลืมพรรค คิดถึงเสมอ โดยเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (26 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ได้มีการพูดคุยกันไปวางตาราง ให้เข้ามาที่พรรคเพื่อไทยทุกวันอังคาร เพื่อจะได้อยู่ทานข้าวรับฟังปัญหา เชื่อมต่อกับ สส.ของพรรคในแต่ละพื้นที่ รัฐบาลมีอะไร ก็จะได้มาอธิบายว่าเราทำอะไรกันบ้าง ถือเป็นความตั้งใจของผม เวลารัฐบาลทำอะไรจะได้นำไปบอกกับพี่น้องประชาชนได้ทุๆกจังหวัด เพราะเราเป็นรัฐบาลของประชาชน ไม่ใช่แค่จังหวัดที่เรามีสส.อย่างเดียว และทุกๆจังหวัดที่เราสามารถไปได้

“ตัวผมเองก็จะพยายามลงพื้นที่ให้บ่อย พอจะมองเห็นตารางเดินทางไปต่างประเทศมา อีกฝ่ายเริ่มมีวาทกรรมว่านายกฯอินเตอร์บ้างอะไรบ้าง และลืมที่มาของเสียงตรงนี้ วันนี้จึงได้วางตารางลงพื้นที่ไปเยอะ ให้ความมั่นใจกับ สส. ว่า ไม่ลืมแน่นอนและจะพยายามกระจาย ไปทั่วทุกจังหวัด จะลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จะประสานงานกับรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ว่าเราจะเชื่อมต่อกับพรรคให้มากขึ้น “ นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ คิดว่าจะเป็นมิติใหม่ของพรรคเพื่อไทย วันนี้ตนมาในฐานะฝ่ายบริหาร ยืนยันเป็นนายกรัฐมนตรีของประชาชน และจะลงพื้นที่ให้บ่อยพูดคุยกันให้บ่อยขึ้นว่ารัฐบาลได้ทำอะไรได้บ้าง ขอฝากทุกท่านเอาไว้หากมีอะไรก็ยินดีเหมือนเดิม วันนี้ตนมาในฐานะสมาชิกพรรค ไม่ต้องเกรงใจไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรให้มาก เพราะจะเข้ามาเพียงแค่อาทิตย์ละหนจากที่เคยมาทุกวัน ทราบว่าทุกท่านคงมีเรื่องที่จะพูดคุย ส่งสารความทุกข์สุขของประชาชน ตนอยากฟังจากคนที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนจริงๆ เพื่อจะได้ช่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน


ด้านนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ขอชื่นชมทุกคนที่เข้าไปทำงานในรัฐบาล เห็นทุกคนทำงานหนัก โดยที่มีหัวหน้ารัฐบาลคนแรกที่ทำงานหนักจริงๆ ซึ่งตนได้มีโอกาสพูดคุยกับทีมงานได้เห็นผลงาน สส. รัฐมนตรีที่มีความตั้งใจอย่างมาก ตนเองรู้สึกภูมิใจไปด้วย ยอมรับว่าเหงาเมื่อเข้ามาที่พรรคเพื่อไทยเพราะทุกคนไปทำงานอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล แต่เป็นความเหงาที่มีความสุข และอยากบอกว่าตนเองพร้อมที่จะทำเพื่อพรรคให้พรรคแข็งแรงขึ้น เราจะโตไปด้วยกัน เมื่อรัฐบาลเข้มแข็งรัฐบาล ก็อยากให้พรรคของเราเข้มแข็งด้วยไม่ว่าจะมิติไหนก็ตาม มิติที่เราจะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้อย่างไร จะทำให้ประชาชนเข้าใจความตั้งใจความหวังดี ของเราได้อย่างไรตรงนี้เป็นส่วนสำคัญมากๆ และตนเอง ยินดีที่จะซัพพอร์ตพรรคในทุกๆเรื่องยังไงหัวใจของตนเองก็อยู่ที่นี่แน่นอน เราจะโตไปด้วยกันเข้มแข็งไปด้วยกันและวันที่เราเจอมรสุมต่างๆเราจะผ่านไปด้วยกัน ขอให้ทุกคนมีกำลังใจเยอะๆ เรามีกำลังใจในการซับพอร์ทนายกรัฐมนตรีของเรา รัฐบาล ที่มาจากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ และแน่นอนว่าในพรรคก็ต้องเข้มแข็งและแข็งแรงขึ้น และมั่นใจว่าเราจะเติบโตไปด้วยกันและทำให้พรรคแข็งแรง

จากนั้นนายอดิศร เพียงเกษ สส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่แต่งตั้งให้เป็นประธานวิปรัฐบาล พร้อมระบุว่า อยากฝากงานท่านนายกฯรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้สภายังไม่มีกฎหมายจาก ครม.เลย ทราบว่าท่านเพิ่งกลับจากอเมริกา จึงอยากให้ไปจัดหมวดหมู่การเสนอกฎหมายของคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้คณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยประชุมกันก็จะเสนอกฎหมายตามระบบระเบียบที่เคยศึกษาเอาไว้เพื่อไม่ให้มีช่องว่างในการพิจารณาในสภาโดยให้ความมั่นใจกับนายกรัฐมนตรีว่าเราจะดูสภาให้ท่าน ขอให้ท่านทำงานอย่างสบายใจ มีเวลาก็มาเยี่ยมสภาบ้าง ก่อนจะย้ำว่า ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ตั้งให้ตนเป็นประธานวิปรัฐบาล

ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรักษาการรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีดูแลภาพกว้างภาพรวมหลายเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับประชาชน อีกงานนึงคือไปดูแลกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งขอให้ สส.ของพรรค ว่าอะไรที่เกี่ยวข้องกับงานในกำกับดูแลของตนเอง อยากให้เป็นสะพานเชื่อมในการสะท้อนปัญหาของประชาชนมายังตนเองให้ได้รับทราบ ซึ่งตนเองก็พร้อมที่จะทำงานหลายอย่างเพื่อตอบสนองให้เต็มที่ ขณะที่นโยบายอะไรที่เป็นเรื่องต้องทำและทำเพื่อประชาชนก็อยากให้ สส. เป็นสะพานในการเชื่อมไปสู่การทำความเข้าใจกับประชาชนด้วย

นายภูมิธรรม ยังกล่าวอีกว่า อีกหนึ่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายคือการเป็นประธานคณะกรรมการศึกษาการทำประชามติ ขณะนี้มีความคืบหน้าในการรวบรวมประสานงานกับบุคคลที่จะเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการได้ 20 กว่าคน และจะคงไว้ที่ 30 คน เพราะถ้ามากเกินไปก็จะทำให้การทำงานยากลำบาก เมื่อมติ ครม. ต้องการให้การจัดทำมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายมา บางบุคคลไม่ได้เป็นคณะกรรมการก็จะเข้าไปพบไปรับฟังปัญหาให้ครบถ้วน สำหรับกรอบเวลาในการทำงานที่วางไว้เบื้องต้น คือ รัฐธรรมนูญใหม่ที่จะเกิดขึ้นต้องจัดทำภายใน 4 ปี ของรัฐบาลชุดนี้ พร้อมทั้งกฎหมายประกอบทุกอย่างเพื่อทัน ใช้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปซึ่งจะมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]