นายกฯ กลับถึงไทย เผยบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างชาติ สนใจลงทุน

สุวรรณภูมิ 24 ก.ย.-นายกฯ กลับถึงไทย หลังประชุม UNGA เผยบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างชาติ สนใจลงทุน คาดตัวเลขพุ่ง 5 พันล้านเหรียญ ประกาศจุดยืนไทยเป็นประชาธิปไตย จ่อเปิดประตูการค้าในการประชุม APEC ตั้งเป้านำนักธุรกิจไทยไปด้วย ส่วนหารือฟีฟ่า ดันเป็นเจ้าภาพบอลโลกอีก 9 ปีข้างหน้า

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA ถึงประเทศไทย พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า จากการเดินทาง 4 วัน ต้องขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ทุกท่านรวมถึงเลขาธิการ BOI ที่ได้ดำเนินภารกิจจำนวนมาก ได้ร่วมประชุมพบปะกับผู้นำหลายประเทศ กล่าวสุนทรพจน์ 5 ครั้ง และพบองค์กรต่าง ๆ อีก 2 องค์กร บริษัทใหญ่ระดับโลก อาทิ Tesla, Google, Microsoft, Citibank, JP Morgan, Estee Luder โดยทั่วไปบริษัทเหล่านี้มีความสนใจที่จะมาลงทุน หรือลงทุนแล้วตามรูปแบบต่าง ๆ หน้าที่ของผมคือไปประกาศอีกหนหนึ่งว่าประเทศไทยเปิดแล้ว พร้อมและยินดีที่จะให้บริษัทเหล่านี้มาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังได้พบกับ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจว่าบริษัทดี ๆ หลายแห่งในไทยไม่เคยไปจดทะเบียนที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเลย ซึ่งตอนนี้ได้เห็นลู่ทางแล้ว หวังว่าปีนี้จะมีสักบริษัทได้เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขณะที่สหประชาชาติแสดงความเป็นห่วงเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ ที่มีความขัดแย้งแตกแยก และประเด็นสำคัญคือ เรื่องการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนทั้ง 17 ข้อ ซึ่งทุกประเทศให้ความสำคัญ ทั้ง 190 กว่าประเทศมีเป้าหมายเดียวกันคือมุ่งไปสู่การพัฒนาเพื่อความยั่งยืน รวมถึงเรื่องภาวะโลกร้อน ซึ่งเวลานี้กลายเป็นภาวะโลกเดือดแล้ว เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับเรื่องสิทธิมนุษยชน ประเทศใกล้เคียงต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ลี้ภัยสงครามที่อพยพมา


“หนึ่งในจุดมุ่งหมายที่ผมไป คือประกาศจุดยืนว่าเราเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราจะยึดมั่น ผลักดัน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ” นายกรัฐมนตรี ระบุ

นอกจากนี้ยังได้น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงผ่านปรัชญาอารยเกษตร สะท้อนผ่านนโยบายที่อำนายความสะดวกประชาชนให้เลือกเข้าถึงบริการสาธารณสุขของรัฐบาลได้อย่างสมเกียรติ

นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า สำหรับภารกิจเดินทางไปต่างประเทศครั้งต่อไป คือการร่วมประชุม APEC ณ เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้นัดหมายกับหลายบริษัท รวมถึงเชื้อเชิญบริษัทในไทยที่ประสงค์จะเปิดประตูทางการค้าด้วย โดยคณะผู้แทนรัฐบาลไทยจะเดินทางล่วงหน้าไปก่อน 2 วัน เพื่อเปิดให้นักธุรกิจไทยไปพบปะกับบริษัทใหญ่ ๆ ของสหรัฐอเมริกา นอกจากบริษัทด้านเทคโนโลยีที่ตนได้ไปพบปะแล้ว ยังมีบริษัทด้านการเงินที่มีความสำคัญ เพราะบริษัทต่างประเทศ ที่เข้ามาลงทุนในไทยก็ต้องการแรงสนับสนุนในด้านการเงิน


นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า นักลงทุนต่างประเทศ แทบไม่มีความกังวลการกลับมาสู่ประชาธิปไตยของประเทศไทย แต่มองไปที่ความสะดวกในการมาทำธุรกิจมากกว่า ซึ่งทางเราก็พร้อมมาก สำหรับการเข้ามาลงทุน และรับฟังความคิดเห็น ส่วนใดที่ต้องแก้ไขในเรื่องข้อกฎหมายหรือระเบียบ ก็จะมาดูความเหมาะสม

นายเศรษฐา ยอมรับว่า หากจะประมาณมูลค่าของตัวเลขที่ต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในไทยเป็นเรื่องยาก แต่หากยกตัวอย่างในภาคส่วนอุตสาหกรรมหรือเทคโนโลยี เช่น Tesla หรือ Google คาดว่ามูลค่าเบื้องต้น 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.7 แสนล้านบาท ส่วนบริษัทด้านการเงิน เชื่อว่าจะทำให้มีการลงทุนที่สูงขึ้นอีกมาก เพราะมีโอกาสนำตัวเลยทางเศรษฐกิจที่เจริญเติบโต หรือความน่าอยู่ของประเทศไทย ไปเชื้อเชิญบริษัทอื่น ๆ ให้เข้ามาอีกเยอะ

โดยในการเดินทางไปประชุม APEC ครั้งถัดไป ได้หารือกับเลขาฯ BOI ว่าอาจเชิญบริษัทที่มีขนาดกลางไปเสนอตัวกับต่างชาติ เพื่อให้เกิดการลงทุนระหว่างกันทั้งสองฝ่าย เป็นช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้พบปะกับผู้แทนของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า เพื่อพูดคุยถึงกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียน ที่จะมาเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดแข่งขันฟุตบอลโลก หรือ ฟีฟ่า เวิร์ลคัพ ปี 2032 หรืออีก 9 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นแผนการที่ไม่ง่าย อย่างไรก็ตาม ไทยต้องการความสนับสนุนจากฟีฟ่าในเรื่องของฟุตบอลรากหญ้า จากเดิมที่เคยสนับสนุนไทยปีละ 2.5 แสนเหรียญ เป็น 2 ล้านเหรียญ พร้อมกันนี้ยังคาดหวังให้พัฒนาเด็ก และเยาวชนให้ถึงจุดที่ควรจะเป็น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก