‘พวงเพ็ชร’ ถกทวิภาคี หาทางปราบแก็งคอลเซ็นเตอร์

เวียดนาม 23 ก.ย.- ‘พวงเพ็ชร’ นำทีมไทยหารือทวิภาคีไทย-กัมพูชา และ ไทย-เวียดนาม หาทางปราบแก็งคอลเซ็นเตอร์ ปัญหาใหญ่ทำคนไทยเสียหายหนัก พร้อมใช้ ‘การข่าวระดับอาเซียน’ ป้องกัน Fake news


นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ร่วมหารือทวิภาคี ไทย-กัมพูชา กับนายเนตร พักตรา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารกัมพูชา ในประเด็นความร่วมมือแก้ปัญหาการแก็งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งประชาชนคนไทยตกเป็นเหยื่อทั้งถูกหลอกให้ไปทำงานเป็นแก็งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงผู้อื่น และประชาชนที่เสียหายจากการถูกหลอกจนสูญเงินมหาศาล จนมีบางรายที่จบชีวิตลงเพราะหมดตัว

ประเทศไทยจึงเสนอแนวทางความร่วมมือกับกัมพูชา โดยการใช้สื่อที่ไทยกับกัมพูชามีความร่วมมือต่อกัน เช่น รายการวิทยุ TWIN Radio เพื่อสร้างการรับรู้ให้คนไทยและคนกัมพูชารู้เท่าทันและวิธีป้องกันตนเองจากการหลอกลวงออนไลน์ รวมทั้งจะประสานความร่วมมือกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในไทย ทั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานความมั่นคงตามแนวชายแดน เพื่อทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด


นายเนตร พักตรา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารกัมพูชา กล่าวว่า กัมพูชาจะพัฒนาคุณภาพของข่าวและข้อมูลข่าวสาร ความร่วมมือด้านสื่อ เน้นที่การส่งเสริมการรู้ ประชาชนแชร์ข่าวสารอย่างรับผิดชอบ รักษาความเป็นอิสระและความซื่อสัตย์ของสื่อ

นอกจากนี้ นางพวงเพ็ชร ได้เข้าร่วมการหารือทวิภาคีไทย-เวียดนาม กับนายเหงียน มั่นห์ ฮุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสารสนเทศและการสื่อสารเวียดนาม ในประเด็นความร่วมมือด้านการต่อต้านข่าวปลอม โดยได้กล่าวชื่นชมเวียดนามที่ริเริ่มข้อเสนอจัดตั้ง “คณะทำงานรับมือกับข่าวปลอม” ที่จะเป็นโมเดลทำงานร่วมกันได้อย่างต่อเนื่องในภูมิภาคอาเซียน ในส่วนของไทยได้เสนอแนวคิดต่อเวียดนามว่า อยากให้มีการแลกเปลี่ยน หรือความร่วมมือเกี่ยวกับบทความ ข่าวต่างประเทศของอาเซียนให้มากยิ่งขึ้น เช่น กิจกรรม asean information exchange ที่ประเทศไทยริเริ่ม เน้นแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานสื่อภาครัฐของประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง น่าเชื่อถือ

ด้าน นายเหงียน มั่นห์ ฮุง ได้กล่าวข้อเสนอแนะต่อไทยว่า จะต้องพัฒนาความรับผิดชอบและจริยธรรมสังคมของสื่อและเทคโนโลยีใหม่ และในอนาคตจะต้องสร้างความร่วมมือโดยใช้ความรู้เป็นแรงขับดัน พัฒนาระบบนิเวศสื่อที่แข็งแกร่ง ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งข้อมูลข่าวสารที่น่าเชื่อถือ พร้อมกล่าวขอบคุณไทยที่ร่วมมือกับเวียดนามอย่างใกล้ชิดในการต่อสู้กับข่าวปลอมและข้อมูลบิดเบือนต่างๆ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ