fbpx

นายกฯ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้นำ-นักธุรกิจแถวหน้าของโลก

สหรัฐ 22 ก.ย. – สำหรับภารกิจนายกรัฐมนตรีในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ใช้ช่วงเวลาพบปะพูดคุยระดับทวิภาคี เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้นำและนักธุรกิจระดับแถวหน้าของโลก รวมถึงมีโอกาสได้ไปพบปะชุมชนชาวไทยที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา พร้อมรับฟังปัญหาจากคนไทยในต่างแดน


ภารกิจวันที่ 3 ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 โดยมีโอกาสได้หารือทวิภาคีกับนายอันโตนิอู กุแตเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งการพูดคุยในครั้งนี้ เลขาธิการสหประชาชาติให้ความสำคัญเรื่องของสิทธิมนุษยชน และ กรีนไฟแนนซ์เชียล ซึ่งประเทศไทยก็ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรียังได้ชื่นชมหน่วยงานราชการไทยที่สามารถเตรียมข้อมูลมานำเสนอได้เป็นอย่างดี

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังได้หารือทวิภาคีกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้มีการพูดคุยถึงการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปัญหาการค้าระหว่างประเทศที่เกี่ยวกับความมั่นคง โอกาสนี้นายรัฐมนตรีได้ตอบรับคำเชิญไปเยือนประเทศมาเลเซียด้วย เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์มาอย่างยาวนาน


จากนั้นนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมทีมประเทศไทย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ ข้าราชการไทยที่ปฏิบัติงานอยู่ในสหรัฐอเมริกา เพื่อมอบหมายนโยบายที่เน้นย้ำภารกิจหลักของรัฐบาล คือการเดินหน้าเปิดประเทศ สนับสนุนการทำธุรกิจ รวมทั้งรักษาจิตใจของคนไทยที่มีความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน ให้อยู่ร่วมกันภายใต้กรอบของกฎหมายร่วมกันอย่างสันติ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังได้เน้นย้ำเรื่องการสนับสนุนการพัฒนา Soft power ซึ่งมีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง จึงขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเดินหน้าช่วยพัฒนา Soft power และเผยแพร่ไปยังนานาประเทศ

ในโอกาสที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่สหรัฐอเมริกา นายกรัฐมนตรีและภริยา ได้พบกับชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกา เพื่อพูดคุยและรับฟังปัญหาต่างๆ โดยนายกรัฐมนตรีบอกว่ารัฐบาลมีความจำเป็นที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เนื่องจากตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา การเปิดตลาดทางการค้าของประเทศไทยมีจำนวนที่น้อยมาก รัฐบาลจึงต้องเชื้อเชิญนักลงทุนให้มาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลหวังว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนที่อยู่ต่างแดนที่จะนำความรู้ ความสามารถที่มีกลับไปช่วยงานให้กับประเทศชาติได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง