“ช่อ พรรณิการ์” ยันไม่ท้อ แม้โดนตัดสิทธิตลอดชีวิต

สำนักข่าวไทย 21 ก.ย. – “ช่อ พรรณิการ์” ยืนยันไม่ท้อแม้โดนตัดสิทธิตลอดชีวิต ยังเดินหน้าภารกิจการเมืองนอกสภา เพราะเป้าหมายคือการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่การได้เป็น สส.-รมต. ลั่นหากนักการเมืองจะหมดอนาคต ควรให้ประชาชนตัดสิน ไม่ใช่มาตรฐานจริยธรรม หวังยกร่าง รธน.ใหม่


น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวไทย” ถึงกรณีที่ศาลฎีกาพิพากษา ว่า ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงกรณีโพสต์ข้อความพาดพิงสถาบันฯ โดยให้ถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดไปและไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าแม้มีคำตัดสินดังกล่าวออกมา ก็ถือว่าไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากตอนนี้ เพียงแต่ที่เคยคิดว่าจะรออีก 6ปี พอพ้นโทษตัดสิทธิตอนแรกจะกลับมาเป็น สส. และรับตำแหน่งทางการเมืองต่อ ก็คงไม่ต้องรอแล้ว แต่ยืนยันว่าบทบาทของตนที่ผ่านมาตั้งแต่ในยุคพรรคอนาคตใหม่ จนถึงขณะนี้เป็นอย่างไร ก็จะยังเป็นแบบนั้นทุกประการ  และขณะนี้ใกล้ถึงการเลือกตั้งสมาชิก อบต. ทั่วประเทศ ก็จะช่วยเตรียมงาน ทำงานลงพื้นที่ ทำนโยบายหาเสียงทั้งสามระดับ และในการเลือกตั้งส.ส.สมัยหน้า หากพรรคก้าวไกลยังใช้ตนอยู่ ก็จะยังเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้พรรคต่อไป รวมถึงการวิจารณ์ วิเคราะห์ ให้ความเห็นทางการเมืองใด ๆ ก็จะยังคงทำผ่านยูทูบ Tiktok ต่างๆ ดังนั้นอะไรที่เคยเห็นตนทำอย่างไร ก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนเรื่องการลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. ไม่ได้ ก็ไม่ได้มีความหมายอยู่แล้ว เพราะตนเข้ามาทำงานการเมืองไม่ได้หวังเป็นส.ส.และรัฐมนตรีเท่านั้น แต่อยากผลักดันสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศ และยังทำต่อได้นอกสภา

สำหรับสิ่งที่ดำเนินการจะผลัดดันผ่าน สส.พรรคก้าวไกลด้วยหรือไม่นั้น น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ความจริงก็อยากจะผลักดันผ่าน สส.ทุกพรรค เพราะไม่ใช่มีเฉพาะ สส.พรรคก้าวไกลที่พยายามสร้างความเปลี่ยนแปลง หากมีเพื่อน สส.พรรคอื่นช่วยทำก็จะสำเร็จไวขึ้น เพราะคิดว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องทางหลักการ จุดยืน ซึ่งแน่นอนว่าพรรคก้าวไกลมีจุดยืนเดียวกับตน เพราะมาจากที่เดียวกันคืออนาคตใหม่เหมือนกัน แต่หลายเรื่องก็มีพรรคการเมืองอื่นเห็นตรงกัน เช่นสมรสเท่าเทียม การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร รวมถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทุกพรรคก็เห็นตรงกันหมด ดังนั้นการขับเคลื่อนผลักดันนอกสภาคงไม่ได้เจาะจงเฉพาะพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่ในฐานะที่พรรคก้าวไกลช่วยพรรคก้าวไกลหาเสียงมา  ก็รู้สึกว่าพรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่ฝากความหวังไว้ได้มากที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่ามีพรรคเดียวที่จะทำให้ความฝันในการเปลี่ยนแปลงประเทศของเราเป็นจริงได้


ส่วนเมื่อถามว่า “ท้อ”หรือไม่ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า สะกดคำว่าท้อไม่เป็น และไม่ท้อ พร้อมทั้งเห็นว่ากรณีที่นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ และนายสิระ เจนจาคะ ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับตน ซึ่งเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองคนไหน ที่ถูกตัดสิทธิจากมาตรฐานทางจริยธรรม สามารถตัดอนาคตทางการเมืองของนักการเมืองได้ขนาดนั้นจริงหรือ ซึ่งเห็นว่าหากนักการเมืองจะไม่มีอนาคต ควรจะไม่มีจากการที่เขาไม่มีคนเลือก คือประชาชนควรเป็นผู้ตัดสินอนาคตของนักการเมือง ไม่ใช่มาตรฐานทางจริยธรรม ซึ่งตีความได้หลากหลาย จึงคิดว่าตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญมากกว่าและเป็นเรื่องที่เราต้องขับเคลื่อนต่อไป  จะมาท้อแท้ไม่ได้ และจะกลายเป็นว่าตรงนี้เป็นหนึ่งในการเพิ่มงานมากกว่าว่าจะต้องพูดเรื่องนี้ให้ชัดกับสังคมว่าไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง แต่ยอมรับว่าการมาพูดตอนที่เกิดกับตัวเอง ก็จะต้องระมัดระวัง เพราะตนไม่ถนัดในการเรียกร้องให้ตัวเอง แต่ถนัดในการเรียกร้องในเรื่องหลักการให้คนอื่นมากกว่า  พอเป็นเรื่องของตัวเองก็เกรงจะถูกมองว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ว่าเพราะตัวเองโดนหรือไม่ ซึ่งความจริงเรื่องนี้ไม่ว่าจะเกิดกับใคร ก็ไม่ถูกต้องตามหลักการทั้งนั้น

สำหรับกรณีที่ น.ส.ปารีณา โพสต์ไม่เห็นด้วยนั้น น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ความจริงตนกับ น.ส.ปารีณา ไม่ได้เคยมีประเด็นส่วนตัวอะไรกันเลย แต่เป็นบทบาททางการเมือง ซึ่งตอนที่ น.ส.ปารีณาโดนตัดสิทธิ ตนก็เป็นคนหนึ่งที่ออกมาพูดไม่เห็นด้วย และเห็นว่าเป็นเรื่องขัดต่อหลักการ ส่วนในโอกาสที่พรรคการเมืองจะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญและให้มีสสร.มายกร่างใหม่ จะให้แก้ไขในเรื่องโทษทางจริยธรรมหรือไม่นั้น น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า  ล่าสุดทางพรรคก้าวไกลออกแถลงการณ์ก็พูดถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจนว่าในการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ซึ่งคาดหวังว่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ เพราะเป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงเอาไว้เช่นกัน จึงเห็นว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการปฏิรูปองค์กรศาล และองค์กรอิสระ เรื่องนี้จะได้ถูกแก้ตลอดไป ไม่ใช่มาเรียกร้องกันเพราะคนใดคนหนึ่งโดน และถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่พรรคก้าวไกลได้พูดถึงและตระหนักถึงประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญในเรื่องศาลและองค์กรอิสระ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2568

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางขาออกเทศกาลปีใหม่ 2568 ถนนทุกสาย และระบบขนส่งสาธารณะทุกโหมด มีประชาชนทะลักเดินทางตั้งแต่เย็นวานนี้ (27 ธ.ค.) ภาพรวมเป็นอย่างไร พูดคุยกับนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม.

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น