“กิตติศักดิ์” ท้าให้ฟ้อง ปมวัดบางคลาน

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “กิตติศักดิ์” ย้ำ สว. ไม่ได้อุ้มปมวัดบางคลาน เพราะไม่ได้ทำผิด ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล ทำหน้าที่ สว.ดูแลประชาชน ชี้เงื่อนงำเจ้าอาวาสปั๊มพระขายไม่ผ่านพิธี ไม่เอาเงินเข้าวัด ท้าถ้าไม่จริงให้ฟ้อง มั่นใจเรื่องจบด้วยกฎหมาย ข้อมูลอยู่ในมือ “บิ๊กโจ๊ก” แล้ว


นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภากล่าวถึงกรณีที่มีเสียงวิจารณ์ ว่า สว.อุ้มนายกิตติศักดิ์ ว่าไม่ผิดจริยธรรมกรณีที่มีความเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งที่วัดบางคลานหรือ วัดหิรัญญาราม จ.พิจิตร โดยกล่าวพร้อมหัวเราะไปด้วยว่า ตนน้ำหนักตั้ง 84 กิโล ใครจะอุ้มไหว และยืนยันว่าในการประชุมวุฒิสภาที่มีการลงมติเรื่องร้องเรียน จริยธรรมสมาชิกวุฒิสภา ของคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา ซึ่งตนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมประชุมจึงไม่ทราบว่า ผลออกมาเป็นอย่างไร มาทราบจากสื่อเท่านั้น และไม่ทราบบรรยากาศในห้องประชุม

“เห็นว่าคนที่ไปร้องกล่าวหาตนไม่ได้มีข้อมูล ดังนั้นตนจะผิดได้อย่างไร โดย เฉพาะกรณีที่กล่าวหาว่าเป็นผู้มีอิทธิพลไปขัดขวาง การดำเนินการของเจ้าอาวาสคนใหม่ ซึ่งก็มีการสอบแล้ว ไม่เป็นความจริง พร้อมพูดติดตลกว่า”ตนน่ารักจะตาย” นายกิตติศักดิ์ กล่าว


สำหรับกรณีที่มีชาวบ้านออกมาขับไล่ไม่ให้ตนเข้าไปยุ่งเกี่ยว นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามเจ้าอาวาสคนใหม่ เพราะสืบแล้วว่าเจ้าอาวาสคนใหม่ ไปจ้างคนที่อื่นมา ไม่ใช่ชาวบ้านจริงๆที่อยู่ในวัด 400-500 คน และการที่มาชูป้ายขับไล่ตนก็ไม่มีผลอะไร เพราะตอนไปตะโกนขับไล่ตนอยู่ที่สภา แต่มีความพยายามใส่ร้ายตน อย่างไรก็ตาม ตนให้ทนายความเก็บรวบรวมข้อมูลทุกอย่างไว้แล้ว และให้ดำเนินคดีกับทุกคน

“ความจริงแล้วเจ้าอาวาสกับกลุ่มนี้ไม่กี่คนเขามีคนมีปัญหากับชาวบ้านไม่ได้มีปัญหากับสว.จะมาบุกวัดไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งแล้ว แต่สว.ไม่เคยอยู่ สว.ก็ติดประชุมก็มีงาน มีวันนั้นแหละไปชี้หน้านั้นแหละไม่ตบเอาก็บุญแล้วพระนั้นนะ เพราะอะไรผมไม่รู้มาก่อนว่าจะไป ไปถึงปุ๊บบอกโยมมาทำไม มาก็ดีแล้ว เปิดประตูให้ด้วย เป็นพระเล็กๆแล้วมาชี้นิ้วใช้ผมให้เปิดประตู มันใช่ไหมละ ในคลิปมีหนิ เปิดประตูเลย เปิดประตูให้หน่อย มันใช่ไหมละ แล้วผมเป็นผู้ใหญ่ เรา ไม่เคยไปพูดไปอะไรกับเจ้าอาวาสเลย แต่กลับเดินปรี่มาหาผมแล้วบอกว่าโยมมาทำไม ผมจึงตอบไปว่า “เอ๊ะ นี่วัดเข้ามาไม่ได้หรืออย่างไร”ดังนั้นเราต้องฟังความจริงนะ และอีกอย่างนึงคือถ้าพระดีทำไมเข้าวัดไม่ได้” นายกิตติศักดิ์ กล่าว

นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องจบแน่นอน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.งานเบาลง แล้วเข้ามาตรวจสอบทรัพย์สินและดำเนินคดีกับกลุ่มเจ้าอาวาสเหล่านี้เพราะมีการทุจริตมีการจำหน่ายพระหลายร้อยล้าน ซึ่งได้ตรวจสอบแล้วไม่นำเงินเข้าวัด ดังนั้นต้องถูกดำเนินคดีหมด พร้อมยืนยีนว่าชาวบ้านและอดีตเจ้าอาวาสที่ได้มรณภาพไปแล้ว ปฏิบัติตามคำสั่งศาลฎีกา และที่อ้างว่าส่งมอบทรัพย์สินไม่หมด ขอยืนยีนว่าส่วนสุดท้ายที่มีงาช้างก็ส่งมอบแล้วโดยเจ้าอาวาสคนใหม่เซ็นรับ จึงถือว่าชุดเก่าได้ส่งมอบทรัพย์สินไปหมดแล้วต่อไปนี้จะเป็นการตรวจสอบ เจ้าอาวาสชุดใหม่และพวก ถึงสินทรัพย์ที่ส่งมอบไปทั้งหมด พร้อมทั้งเปิดเผยได้ว่าที่ไม่พอใจตน เป็นเพราะมีการจัดทำพระที่ไม่ได้เข้าพิธีกรรม โดยมีสายแจ้งมาที่ตนว่าน่าจะมีมูลค่า 100 ล้านบาท ซึ่งทราบว่าขณะนี้พระดังกล่าวกองอยู่จำนวนมาก เจ้าอาวาสและพวกจึงพยายามจะเข้ามาขน พระเครื่องเหล่านี้ซึ่งเก็บไว้เต็ม3-4ห้อง


นายกิตติศักดิ์ ยืนยันที่ออกมาคัดค้านเรื่องนี้เพราะเป็นส.ว.ที่ดูแลประชาชน ซึ่งพระเหล่านี้ใช้เงินบริจาคมาจ้างทนายไว้ 3 คนเตรียมฟ้องร้องชาวบ้าน เพราะไม่อยากให้มาเห็นว่ามีการทำพุทธพาณิชย์ ขายพระแล้วเอาเงินไปแบ่งกัน และในส่วนของคณะกรรมการชุดเก่า และเจ้าอาวาสที่มรณภาพไปแล้วได้ส่งมอบบัญชีเงิน 106 ล้านบาทไม่รวมดอกเบี้ย พร้อมวัตถุมงคลจำนวนมากครบทุกชิ้นแล้ว ดังนั้น อย่า กล่าวหาว่ามีประโยชน์เลย เข้าไปทำบุญยังถูกแจ้งจับ

ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นจะกู้ศรัทธามาได้อย่างไร นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่าความจริงก็คือความจริงซึ่งตนอยู่กับความเป็นจริง และทราบว่าสำนักพระพุทธศาสนาได้ขึ้นบัญชีดำพระเหล่านี้ไว้แล้ว แต่ยังดื้อดึงไม่ยอมทำตามมติของมหาเถรสมาคม “คนเหล่านี้กระด้างกระเดือง ไม่ยอมรับคำตัดสินใดๆ” ดังนั้นสิ่งที่จะจบได้ก็คือกฎหมาย โดยดำเนินคดีกับคนที่ทุจริตเงินวัด จำหน่ายวัตถุมงคลแล้วเงินไม่เข้าบัญชีวัด

“ให้เจ้าอาวาสคนใหม่และคณะฟ้องร้องผมได้ในสิ่งที่ผมนำมาเปิดเผย เพราะมีหลักฐานทั้งหมด จะได้ไปพิสูจน์กันในชั้นศาล รวมถึงมีข้อทูลว่าเจ้าอาวาสซื้อที่ดินข้างวัดโดยไม่จำเป็นราคาไร่ละ 5-6 หมื่นบาท แต่กลับนำเงินบริจาคไปซื้อไร่ละ 1 ล้านบาท และมีเงินทอน ซึ่งหลักฐานเหล่านี้ถึงมือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์แล้ว” นายกิตติศักดิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]