กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “กิตติศักดิ์” ย้ำ สว. ไม่ได้อุ้มปมวัดบางคลาน เพราะไม่ได้ทำผิด ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล ทำหน้าที่ สว.ดูแลประชาชน ชี้เงื่อนงำเจ้าอาวาสปั๊มพระขายไม่ผ่านพิธี ไม่เอาเงินเข้าวัด ท้าถ้าไม่จริงให้ฟ้อง มั่นใจเรื่องจบด้วยกฎหมาย ข้อมูลอยู่ในมือ “บิ๊กโจ๊ก” แล้ว
นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภากล่าวถึงกรณีที่มีเสียงวิจารณ์ ว่า สว.อุ้มนายกิตติศักดิ์ ว่าไม่ผิดจริยธรรมกรณีที่มีความเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งที่วัดบางคลานหรือ วัดหิรัญญาราม จ.พิจิตร โดยกล่าวพร้อมหัวเราะไปด้วยว่า ตนน้ำหนักตั้ง 84 กิโล ใครจะอุ้มไหว และยืนยันว่าในการประชุมวุฒิสภาที่มีการลงมติเรื่องร้องเรียน จริยธรรมสมาชิกวุฒิสภา ของคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา ซึ่งตนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมประชุมจึงไม่ทราบว่า ผลออกมาเป็นอย่างไร มาทราบจากสื่อเท่านั้น และไม่ทราบบรรยากาศในห้องประชุม
“เห็นว่าคนที่ไปร้องกล่าวหาตนไม่ได้มีข้อมูล ดังนั้นตนจะผิดได้อย่างไร โดย เฉพาะกรณีที่กล่าวหาว่าเป็นผู้มีอิทธิพลไปขัดขวาง การดำเนินการของเจ้าอาวาสคนใหม่ ซึ่งก็มีการสอบแล้ว ไม่เป็นความจริง พร้อมพูดติดตลกว่า”ตนน่ารักจะตาย” นายกิตติศักดิ์ กล่าว
สำหรับกรณีที่มีชาวบ้านออกมาขับไล่ไม่ให้ตนเข้าไปยุ่งเกี่ยว นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามเจ้าอาวาสคนใหม่ เพราะสืบแล้วว่าเจ้าอาวาสคนใหม่ ไปจ้างคนที่อื่นมา ไม่ใช่ชาวบ้านจริงๆที่อยู่ในวัด 400-500 คน และการที่มาชูป้ายขับไล่ตนก็ไม่มีผลอะไร เพราะตอนไปตะโกนขับไล่ตนอยู่ที่สภา แต่มีความพยายามใส่ร้ายตน อย่างไรก็ตาม ตนให้ทนายความเก็บรวบรวมข้อมูลทุกอย่างไว้แล้ว และให้ดำเนินคดีกับทุกคน
“ความจริงแล้วเจ้าอาวาสกับกลุ่มนี้ไม่กี่คนเขามีคนมีปัญหากับชาวบ้านไม่ได้มีปัญหากับสว.จะมาบุกวัดไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งแล้ว แต่สว.ไม่เคยอยู่ สว.ก็ติดประชุมก็มีงาน มีวันนั้นแหละไปชี้หน้านั้นแหละไม่ตบเอาก็บุญแล้วพระนั้นนะ เพราะอะไรผมไม่รู้มาก่อนว่าจะไป ไปถึงปุ๊บบอกโยมมาทำไม มาก็ดีแล้ว เปิดประตูให้ด้วย เป็นพระเล็กๆแล้วมาชี้นิ้วใช้ผมให้เปิดประตู มันใช่ไหมละ ในคลิปมีหนิ เปิดประตูเลย เปิดประตูให้หน่อย มันใช่ไหมละ แล้วผมเป็นผู้ใหญ่ เรา ไม่เคยไปพูดไปอะไรกับเจ้าอาวาสเลย แต่กลับเดินปรี่มาหาผมแล้วบอกว่าโยมมาทำไม ผมจึงตอบไปว่า “เอ๊ะ นี่วัดเข้ามาไม่ได้หรืออย่างไร”ดังนั้นเราต้องฟังความจริงนะ และอีกอย่างนึงคือถ้าพระดีทำไมเข้าวัดไม่ได้” นายกิตติศักดิ์ กล่าว
นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องจบแน่นอน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.งานเบาลง แล้วเข้ามาตรวจสอบทรัพย์สินและดำเนินคดีกับกลุ่มเจ้าอาวาสเหล่านี้เพราะมีการทุจริตมีการจำหน่ายพระหลายร้อยล้าน ซึ่งได้ตรวจสอบแล้วไม่นำเงินเข้าวัด ดังนั้นต้องถูกดำเนินคดีหมด พร้อมยืนยีนว่าชาวบ้านและอดีตเจ้าอาวาสที่ได้มรณภาพไปแล้ว ปฏิบัติตามคำสั่งศาลฎีกา และที่อ้างว่าส่งมอบทรัพย์สินไม่หมด ขอยืนยีนว่าส่วนสุดท้ายที่มีงาช้างก็ส่งมอบแล้วโดยเจ้าอาวาสคนใหม่เซ็นรับ จึงถือว่าชุดเก่าได้ส่งมอบทรัพย์สินไปหมดแล้วต่อไปนี้จะเป็นการตรวจสอบ เจ้าอาวาสชุดใหม่และพวก ถึงสินทรัพย์ที่ส่งมอบไปทั้งหมด พร้อมทั้งเปิดเผยได้ว่าที่ไม่พอใจตน เป็นเพราะมีการจัดทำพระที่ไม่ได้เข้าพิธีกรรม โดยมีสายแจ้งมาที่ตนว่าน่าจะมีมูลค่า 100 ล้านบาท ซึ่งทราบว่าขณะนี้พระดังกล่าวกองอยู่จำนวนมาก เจ้าอาวาสและพวกจึงพยายามจะเข้ามาขน พระเครื่องเหล่านี้ซึ่งเก็บไว้เต็ม3-4ห้อง
นายกิตติศักดิ์ ยืนยันที่ออกมาคัดค้านเรื่องนี้เพราะเป็นส.ว.ที่ดูแลประชาชน ซึ่งพระเหล่านี้ใช้เงินบริจาคมาจ้างทนายไว้ 3 คนเตรียมฟ้องร้องชาวบ้าน เพราะไม่อยากให้มาเห็นว่ามีการทำพุทธพาณิชย์ ขายพระแล้วเอาเงินไปแบ่งกัน และในส่วนของคณะกรรมการชุดเก่า และเจ้าอาวาสที่มรณภาพไปแล้วได้ส่งมอบบัญชีเงิน 106 ล้านบาทไม่รวมดอกเบี้ย พร้อมวัตถุมงคลจำนวนมากครบทุกชิ้นแล้ว ดังนั้น อย่า กล่าวหาว่ามีประโยชน์เลย เข้าไปทำบุญยังถูกแจ้งจับ
ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นจะกู้ศรัทธามาได้อย่างไร นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่าความจริงก็คือความจริงซึ่งตนอยู่กับความเป็นจริง และทราบว่าสำนักพระพุทธศาสนาได้ขึ้นบัญชีดำพระเหล่านี้ไว้แล้ว แต่ยังดื้อดึงไม่ยอมทำตามมติของมหาเถรสมาคม “คนเหล่านี้กระด้างกระเดือง ไม่ยอมรับคำตัดสินใดๆ” ดังนั้นสิ่งที่จะจบได้ก็คือกฎหมาย โดยดำเนินคดีกับคนที่ทุจริตเงินวัด จำหน่ายวัตถุมงคลแล้วเงินไม่เข้าบัญชีวัด
“ให้เจ้าอาวาสคนใหม่และคณะฟ้องร้องผมได้ในสิ่งที่ผมนำมาเปิดเผย เพราะมีหลักฐานทั้งหมด จะได้ไปพิสูจน์กันในชั้นศาล รวมถึงมีข้อทูลว่าเจ้าอาวาสซื้อที่ดินข้างวัดโดยไม่จำเป็นราคาไร่ละ 5-6 หมื่นบาท แต่กลับนำเงินบริจาคไปซื้อไร่ละ 1 ล้านบาท และมีเงินทอน ซึ่งหลักฐานเหล่านี้ถึงมือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์แล้ว” นายกิตติศักดิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย