กำจัดผู้มีอิทธิพลใช้อำนาจมิชอบ

โรงแรมรามาการ์เด้น 18 ก.ย.-รมว.มท.มอบ 10 นโยบายมุ่งพัฒนาสังคม-ส่งเสริมเศรษฐกิจ ขออาสาเป็น ‘หนู’ ช่วยภารกิจ ‘ราชสีห์’ ย้ำกำจัดผู้มีอิทธิพลใช้อำนาจมิชอบ


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประชุมมอบนโยบายและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเกรียง กัลป์ตินันท์ นายทรงศักดิ์ ทองศรี และ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ และผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัด ตลอดจนเจ้าหน้าที่ข้าราชการจากทุกภาคส่วนทั่วประเทศร่วมเข้ารับฟัง โดยนายอนุทิน กล่าวว่า “กราบเรียนรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยทั้ง 3 ท่าน และปลัดกระทรวงสาธารณสุข” ทำให้ สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พูดแก้ขึ้นมาว่า “มหาดไทยครับ” ทำให้ อนุทิน หัวเราะและกล่าวขออภัย และว่า “นี่ถือเป็นความสับสนที่ดีนะครับ แสดงว่าผมไปไหนผมก็มีความผูกพันกับทุกท่านตลอดเวลา” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนในห้องนี้ถือว่าเป็นพี่ๆ น้องๆ กัน เพราะมีความคุ้นเคยกัน ตั้งแต่ครั้งตนยังไม่มีตำแหน่งหรือมีตำแหน่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย ในหลายโอกาสก็เรียกทุกคนว่าพี่ ทั้งรัฐมนตรีช่วย ปลัดกระทรวง และเจ้าหน้าที่ในทุกหน่วยงาน กระทรวงมหาดไทยต้องปฏิบัติงานใกล้ชิดส่งผลต่อประชาชนโดยตรงในทุกมิติและบริบท จึงขอให้ทุกคนร่วมกันขับเคลื่อนทั้งภารกิจและนโยบายของรัฐบาล ประกอบด้วยแนวนโยบาย 10 ประการ คือ 1) การพัฒนาคุณภาพชีวิต และสร้างรายได้ โดยการน้อมนำแนวพระราชดำริมาประยุกต์ใช้ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมไปถึงการสร้างงาน รายได้ สร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชน 2) ลดต้นทุนจากการใช้น้ำ โดยติดตั้งเครื่องกรองน้ำสะอาดให้ประชาชนที่อยู่ไกลจากแหล่งน้ำ ร่วมกับการประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาคที่กำลังเร่งปรับปรุงคุณภาพน้ำ และในระยะยาวต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนสามารถดื่มน้ำจากก็อกได้


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า 3) ลดค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันในทุกส่วนราชการ ส่งเสริมการติดตั้งหลังโซลาร์เซลล์ หรือ Solar Roof บนหลังคาของสถานที่ราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำการปฏิบัติการด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality Roadmap) จัดหารถพลังงานสะอาด หรือรถ EV 4) มุ่งเน้นการใช้พลังงานสะอาด สนับสนุนให้มีการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ในที่อยู่อาศัย และเพิ่มรายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าส่วนเกิน ส่งเสริมให้ชุมชนสร้างรายได้จากพลังงานสะอาด เช่นการตั้งธนาคารคาร์บอน 5) จัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล เพื่อสร้างความสงบสุขเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ปลอดยาเสพติด ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สิ่งใดที่สวนทางกับเรื่องนี้ เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยต้องกำจัดให้สิ้นไป โดยต้องตั้งหลักกันว่าผู้มีอิทธิพลในที่นี้คืออะไร สำหรับ กระทรวงมหาดไทย ผู้มีอิทธิพลหมายถึงคนที่ใช้อำนาจที่ตนมีอยู่ในทางที่ไม่ชอบ

“ไม่จำเป็นต้องเป็นนักเลงหัวไม้ หรือเป็นอันธพาล คนดีๆ นี่แหละ มีอำนาจแต่ใช้ในทางมิชอบ เอาไปข่มเหงคนอื่น ก่อให้เกิดประโยชน์ส่วนตน แล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อน กีดกันโอกาส ไม่ว่าจะอำนาจภาครัฐ อำนาจบารมีในท้องถิ่น อำนาจเงิน หรืออำนาจจากสายสัมพันธ์ต่างๆ ถ้าเราใช้อิทธิพลที่คุณมีอยู่ ประกอบคุณประโยชน์ คุณงามความดี ก็เป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญ แต่การใช้อิทธิพลให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายต่อสังคมต่อประเทศชาติ เป็นสิ่งที่ต้องกำจัด” นายอนุทิน กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า 6) ใช้ระบบดิจิทัลสร้างความสะดวกสบายให้ผู้มาใช้บริการ ติดต่อราชการในระบบ One Stop Service เพื่อลดการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ และลดการทุจริต 7) อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว เพราะการท่องเที่ยวถือเป็นรายได้หลักของประเทศ 8) การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก การผลิต การตลาด และการจำหน่าย ลดรายจ่าย สร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ให้สอดคล้องกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล 9) การแก้ไขปัญหายาเสพติด ปราบปรามและรักษาอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องป้องกันให้ผู้คนห่างไกลยาเสพติดให้มากที่สุด ต้องกำหนดตัวชี้วัดให้ชัดเจน มีพื้นที่รับผิดชอบและการปฏิบัติที่เข้มข้น หากพื้นที่ใดมียาเสพติดเพิ่มขึ้นจากการละเลย เจ้าของพื้นที่นั้นต้องแสดงความรับผิดชอบ ต้องล้อมรั้วเขตปกครองของตนเอง 10) สนับสนุนการพัฒนาระบบสาธารณสุขปฐมภูมิและการเตรียมความพร้อม ท้องถิ่นรองรับสังคมผู้สูงอายุ ถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) เพราะกระทรวงสาธารณสุขแบ่งรับภาระเต็มที่อยู่แล้ว สามารถช่วยตัดขั้นตอนได้ จัดตั้งประธานชีวาภิบาลประจำท้องถิ่น


นายอนุทิน เน้นย้ำถึงแนวนโยบายผู้ว่า CEO เพื่อบูรณาการความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ที่สามารถวัดผลได้ ซึ่งผู้สื่อข่าวเคยถามเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าวหลายครั้ง ว่าเป็นการรวบอำนาจหรือไม่ ซึ่งถ้าถามตน 10 ครั้งก็ตอบเหมือนกัน 10 ครั้ง ไม่มีใครอยากรวบอำนาจเหล่านี้มาหรอก มันอยู่บนบ่าพวกเราทั้งนั้น แต่เราต้องการประสานเชื่อมโยงเครือข่ายต่างๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น คำว่า CEO คือผู้บริหาร ไม่ใช่ผู้รวบอำนาจ กระทรวงมหาดไทยเปรียบเสมือนราชสีห์ ตามสัญลักษณ์ในตราพระราชลัญจกร จึงมีภารกิจของราชสีห์ ส่วนตัวเองชื่อเล่นชื่อหนู

“ท่านเป็นราชสีห์ ให้หนูช่วยเถอะครับ อะไรที่ท่านติดขัด ท่านสามารถมาบอก แล้วก่อให้เกิดคุณประโยชน์กับคุณในทุกด้าน ผมยินดีทำให้ยินดีรับผิดชอบร่วมกับท่าน ราชสีห์คงไม่ตะปบเรา ก็เป็นหนูที่ช่วยราชสีห์และคงอยู่ด้วยกันได้อย่างสงบสุข ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีในนิทานอีสปหรอกครับ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-เจ้าคุณประสิทธิ์ สึกแล้ว

พิษณุโลก 16 ก.ค. – พระชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันสีกากอล์ฟยังทยอยสึกเพิ่ม ล่าสุด “เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก” แอบสึกแล้วที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังมีข่าวลือสะพัดมาตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระชั้นผู้ใหญ่อีก 1 รูป ที่มีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ ซึ่งในช่วงเช้ามีข่าวลือว่าจะลาสิกาในวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร มีตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ มาคอยเฝ้าดูแลตลอดเวลา กระทั่ง เวลา 12.00 น. เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏตัวในชุดขาว คาดว่าไปลาสิกขาที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก สำหรับพระราชรัตนสุธี มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงรูปหนึ่ง เพราะมีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้รุ่งเรือง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันเช่นกันว่า ขณะนี้อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ทำการลาสิกขาแล้ว และวันนี้เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก็มารายงานตัวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วยเช่นเดียวกัน กรณีเอกสารสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสาครหายออกไปจากวัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสารยังมีอยู่หรือไม่ และถ้าหากเอกสารหายไปจริงก็ถือว่าเป็นการผิดวินัย และเจ้าอาวาสบกพร่อง ต้องไปดูด้วยว่าสาเหตุที่หายเพราะอะไร เพราะเอกสารทางราชการมีการรับส่งเป็นระบบ […]

เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ”

กทม. 16 ก.ค.-เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ” ด้านอดีตพระมหาบุญเลิศ แฉถูกสีกากอล์ฟ กุเรื่องลวงไปบ้านพัก ซ้ำถูกเชิดเงิน 1 แสน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่ม พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ว่า จากการสอบปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังเป็นผัดแรก ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ว่า เบื้องต้น สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่รูปต่างๆ จริง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่รีดเอาเงิน และบังคับทิดแหล่ ให้ร่างหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีฯ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เจ้าตัวอ้างว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเป็นคนให้ทิดแหล่ร่างหนังสือดังกล่าวจริง เพียงแต่เป็นการไหว้วาน ไม่ได้เป็นการบังคับ […]

มทภ.2 เรียกร้องผู้นำเขมรขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม

สุรินทร์ 16 ก.ค.-มทภ.2 สั่ง กกล.สุรนารี จัดระเบียบนักท่องเที่ยวปราสาทตาเมือนธม หารือ พล.ต.เนี๊ยะ ได้ข้อยุติ 3 ประการ เรียกร้องผู้นำกัมพูชาตำหนิหญิงเขมร และขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม ลั่นไทยดำเนินคดีอดีตทหารพรานตามกฎหมายแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุความวุ่นวาย ที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จากกรณีที่ผู้หญิงชาวกัมพูชา เข้ามาด่าทอทหารไทย ในเขตพื้นที่ของไทยวานนี้(15 ก.ค.) ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้มีการจัดระเบียบนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเหมือนธม เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอย ป้องกันกลุ่มคนไม่หวังดี โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง รอง ผบ.กกล.สุรนารี ได้หารือร่วม พล.ต.เนี๊ยะ วงค์ ผบ.พลน้อย ร.42 เพื่อพบปะหารือ ณ ปราสาทตาเมือนธม โดยมีสรุปผลการพบปะดังนี้ 1.หากมีปัญหาจากนักท่องเที่ยวเกิดขึ้น หากเป็นนักท่องเที่ยวไทย ขอให้ฝ่ายกัมพูชาแจ้งกับฝ่ายไทยเพื่อนำนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ เช่นเดียวกันหากนักท่องเที่ยวกัมพูชา ก่อปัญหา ขอให้ฝ่ายไทยแจ้ง ฝ่าย กัมพูชาเพื่อให้ฝ่ายกัมพูชา นำตัวนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ 2.หากมีปัญหาในพื้นที่ การแก้ปัญหาให้ชุดประสานงานในพื้นที่ […]

“แพทองธาร” ยินดีมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027

กระทรวงวัฒนธรรม 16 ก.ค.- “แพทองธาร” ยินดีความสำเร็จมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 อย่างเป็นทางการ ชี้ เป็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมุ่งมั่นของคกก.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา-กองทัพไทย-สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผลักดันสู่เวทีกีฬาสากล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่ายกระดับมวยไทยสู่เวทีโลกอีกขั้น ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง กับความสำเร็จล่าสุดของประเทศไทย — #มวยไทย ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขัน CISM World Summer Games 2027 (กีฬาทหารโลก 2027) อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ การแข่งขันกีฬาทหารโลก จัดโดย สภากีฬาทหารระหว่างประเทศ เป็นมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีประเทศในสมาชิก 141 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 1st CISM Military Muaythai Challenge เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดเวทีระหว่างประเทศให้มวยไทยเข้าสู่การแข่งขันของกองทัพนานาชาติ การบรรจุมวยไทยในกีฬาทหารโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของประเทศไทย และเป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ด้านกีฬา ร่วมกับกองทัพไทย และสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่ผลักดันให้ “มวยไทย” […]