กต.14 ก.ย.- “ปานปรีย์” รมว.กต. ยึดกลไกอาเซียนแก้ปัญหาการเมืองเมียนมา – ย้ำไทยให้ความสำคัญการทูตเชิงมนุษยธรรม
นายปานปรีย์ พหิทานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีสถานการณ์ทางการเมืองของเมียนมาว่า ประเทศไทย และเมียนมา ถือเป็นมิตรประเทศกัน ซึ่งสถานการณ์เมียนมานั้น ถือเป็นปัญหาภายใน ที่ควรได้รับการแก้ไขตามกระบวนการกฎหมายของเมียนมา และตามกลไกของอาเซียน โดยไม่ควรละเลยอาเซียน เพราะอาเซียน ก็ยังคงมีเอกภาพอยู่ และยังคงมี 5 ฉันทามติร่วมของอาเซียน ที่มอบหมายให้เมียนมาดำเนินการตามฉันทามตินั้น ซึ่งรัฐบาล ก็ยังคงยึดถือตามฉันตามมติดังกล่าวด้วย
แต่ปัญหาที่ประเทศไทย ที่ได้รับผลกระทบจากเมียนมา เช่น ปัญหายาเสพติด การลักลอบข้ามแดนนั้น นายปานปรีย์ ยืนยันว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศจะต้องมีการพูดคุยกัน แต่ปัญหาภายในเมียนมา ทั้งความขัดแย้ง กระบวนการทางประชาธิปไตย รวมไปถึงกรณีที่เกี่ยวข้องกับนางอองซาน ซูจี อดีตที่ปรึกษาแห่งรัฐรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติพม่า เป็นเรื่องที่เมียนมาจะต้องบริหารจัดการ โดยที่ไทยจะต้องไปหารือร่วมกับอาเซียน เพื่อช่วยให้เกิดสันติภาพในเมียนมา
ส่วนจะมีการพูดคุยกับเมียนมานอกรอบที่ไม่ได้อยู่ในกรอบอาเซียนเหมือนรัฐบาลชุดก่อนหรือไม่นั้น นายปานปรีย์ ระบุว่า จะต้องพิจารณาตามความจำเป็น และปรึกษาประธานอาเซียนก่อน ซึ่งตอนนี้ก็สามารถประชุมผ่านทางออนไลน์ได้ ไม่จำเป็นจะต้องบินไปพบปะหะรือกันโดยตรง ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องยากหากไทยจะหารือกับอาเซียนก่อนที่จะมีการพูดคุยกับเมียนมาร์ แต่หากเป็นเรื่องระหว่างประเทศ เช่นปัญหายาเสพติด ลักลอบข้ามแดน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งไทย และเมียนมาร์ ก็สามารถพูดคุยกันได้อยู่แล้ว
นายปานปรีย์ ยังกล่าวถึงการทูตเชิงมนุษยธรรมว่า ไทยทำเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นแนวทางอาเซียนที่ไทยสนับสนุน ดังนั้นเรื่องประชาธิปไตย และการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพ ประเทศไทยสนับสนุนอยู่แล้วไม่มีปัญหา.-สำนักข่าวไทย