รัฐสภา 12 ก.ย.- “จุรินทร์” ชี้นโยบายรัฐบาลยังคลุมเครือ รับทำงานกับก้าวไกลได้ ไร้ปัญหา แม้จุดยืนต่างกันเรื่อง ม.112 ย้ำเพื่อประโยชน์ประชาชน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายนโยบายรัฐบาลเมื่อวานว่า อย่างน้อยๆ รัฐบาลก็ฟัง สิ่งที่ตนพูดนั้นก็คือเรื่องประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในเรื่องของการไม่แก้ไขหมวด 2 เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งตนเห็นด้วยและสนับสนุน แต่ในส่วนของหมวด 1 ซึ่งระบุว่า ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่สามารถแบ่งแยกได้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะแก้หรือไม่แก้ แต่เมื่อวานนายกฯ ก็ได้ออกมาบอกชัดเจนแล้วว่าจะไม่มีการแก้ไขหมวด 1 และ 2 ตอนนี้ก็มีความชัดเจน และตนก็สนับสนุน
“นโยบายอื่นๆ ยังถือว่ามีความคลุมเครือ คำตอบหลายนโยบายก็ยังไม่ชัดเจน ตัวอย่างเช่น ค่าแรงของผู้ใช้แรงงาน แนวทางการแก้ไขราคาพืชผลการเกษตร ทั้งหมดนี้ยังไปผูกกับเงื่อนไขว่า ถ้าเศรษฐกิจดีขึ้น ก็จะทำตามนโยบายเป็นขั้นๆ ต่อไป แต่ไม่ได้บอกว่าเมื่อไหร่ อย่างไร ตามที่หาเสียงไว้ช่วงก่อนการเลือกตั้ง นโยบายการเกษตรก็ยังคลุมเครือไม่ชัดเจน มีแค่พักหนี้ ซึ่งต่อจากนี้จะทำอย่างไรก็ยังคลุมเครืออยู่” นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในส่วนของเงินดิจิทัลวอลเล็ต ก็ยังคลุมเครือว่าจะเอางบฯ มาจากไหน เบื้องต้นได้คำตอบมาว่าจะไม่กู้ และจะไม่มีการนำเงินกองทุนต่างๆ มาใช้ จึงมีคำถามว่า สุดท้ายแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ ยังขาดความชัดเจน ตอนหาเสียงเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่กำหนดนโยบายต้องแจ้ง กกต.อยู่แล้ว ทำไมวันนี้จึงตอบไม่ได้ ตนก็มาทวงถามแทนประชาชน
เมื่อพูดถึงกระแสความชื่นชมที่มีต่อการทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้ นายจุรินทร์ กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วน สำหรับคำชื่นชมที่มีให้กับพรรคและตน พร้อมกล่าวว่า เมื่อมีหน้าที่อะไร ตนก็ทำตามหน้าที่นั้นอย่างสุดความสามารถเสมอ เมื่อครั้งเป็นรัฐบาลก็ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรองนายกฯ และรัฐมนตรีเสมอ เมื่อมาเป็นฝ่ายค้านก็มีหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน พร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ
เมื่อถามถึงการทำหน้าที่ฝ่ายค้านกับพรรคก้าวไกลว่ามีปัญหาหรือไม่ นายจุรินทร์ ตอบว่า ไม่มีแน่นอน เพราะถือเป็นวิถีทางประชาธิปไตย พรรคการเมืองที่ไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ต้องมารวมกันเป็นฝ่ายค้าน ไม่สามารถเลือกพรรคเลือกพวกได้ เราต้องรู้หน้าที่ จับมือกันช่วยกันตรวจสอบรัฐบาล หากไม่ทำแบบนั้น น้ำหนักในการตรวจสอบถ่วงดุลก็จะหายไป ผลเสียจะตกแก่ประชาชน เราสองพรรคทำงานร่วมกันได้ ไม่มีปัญหา ยกเว้นจุดยืนบางอย่าง เช่น การแก้ไขมาตรา 112 ไม่ว่าจะเป็นพรรคฝั่งไหนเสนอ ทั้งฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุนแน่นอน แต่เรื่องอื่นเราทำหน้าที่ร่วมกันได้ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพื่อประชาชน.-สำนักข่าวไทย