สส. 3 พรรคโต้กันวุ่น ขณะนายกฯ ขอใจเย็น

รัฐสภา 12 ก.ย.-สภาฯ วุ่นสส.ก้าวไกลใส่ชุดไรเดอร์ ซัดนโยบายแรงงาน บอก ”เศรษฐา” เป็นนายกฯ ส้มหล่น “วิทยา” ติง สภาฯ ไม่ใช่โรงละคร ขณะเพื่อไทยโต้ขอให้ถอนคำพูด ด้าน นายกฯ ยิ้ม​ บอกยังเช้าอยู่ ให้ใจเย็น ยิ้มแย้มบ้าง พร้อมแจงเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ เตรียมหารือ 3 ฝ่าย เป้าหมายเบื้องต้น 400 บาทเร็วสุด


บรรยากาศการประชุมรัฐสภาในการแถลงนโยบายของรัฐบาล ช่วงที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม นายศิริโรจน์ ธนิกกุล สส.สมุทรสาคร พรรคก้าวไกลอภิปรายท้วงติงต่อประเด็นนโยบายด้านแรงงานของรัฐบาลที่ไม่เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้แรงงาน เช่น กลุ่มไรเดอร์ กลุ่มชาวประมง รวมถึงการนำเข้าแรงงานต่างด้าวได้จริง ทั้งนี้ ในช่วงหนึ่งได้อภิปรายพาดพิงไปยังนายเศรฐาว่าเป็นนายกฯ ส้มหล่น และระหว่างการอภิปรายในประเด็นแรงงานกลุ่มไรเดอร์ ได้นำเสื้อแจ็กเก็ตสีเขียวสวมทับสูท เพื่อประกอบอภิปรายด้วย

ทำให้นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ประท้วงการทำหน้าที่ของประธานที่ประชุม พร้อมเรียกร้องให้เคร่งครัดในการบังคับใช้ข้อบังคับประชุมรัฐสภา เพราะเวทีรัฐสภาไม่ใช่โรงแสดง


“ประธานผ่อนปรนข้อบังคับทำให้สภาไร้ระเบียบและวินัย ทั้งที่ข้อบังคับกาประชุมร่วมรัฐบาล เขียนไว้ชัดเจน ว่า การอภิปรายต้องไม่วนเวียน เสียดสี ไม่ทำให้ใครเสียหาย ไม่นำเอกสารยืนอ่านโดยไม่จำเป็น แต่ปัจจุบันพบว่ามีนักอ่านเก่ง ๆ ในสภาฯ และทำผิดข้อบังคับกการประชุม ผมขอให้เคร่งครัดเพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างกับเยาวชน ต่อการสร้างนิสัยไร้ระเบียบ วินัย และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี” นายวิทยา กล่าว

จากนั้น น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วงนายศิริโรจน์ และขอให้ถอนคำพูดที่ระบุพาดพิงนายกรัฐมนตรีว่าเป็นรัฐบาลส้มหล่น ถือเป็นการด้อยค่า ทำให้เกิดความเสียหายกับนายกรัฐมนตรีที่ยังไม่ได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ ทำให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกประท้วงเพื่อตอบโต้ โดยย้ำว่าการอภิปรายของส.ส.พรรคก้าวไกล เพื่อสะท้อนปัญหาของผู้ใช้แรงงานกลุ่มไรด์เดอร์ กรณีที่ สส.ทักท้วง แสดงว่าไม่ได้ให้ความสนใจปัญหาความเดือดร้อนและเข้าหาตอนหาเสียงเท่านั้น พร้อมย้ำคำว่า นายกฯ เศรษฐา เป็นนายกฯส้มหล่น อยู่หลายครั้ง คล้ายกับตอกย้ำในประเด็นที่ สส.พรรคเพื่อไทยทักท้วงให้ถอนคำพูด

ด้านนายพรเพชร ชี้แจงโดยยอมรับความผิดพลาดของตนเอง เพราะจำที่ สส.อภิปรายไม่ได้ทั้งหมด เพราะนอกจากทำหน้าที่ประธานที่ประชุมแล้วต้องเซ็นต์แฟ้มด้วย ส่วนการนำเครื่องแต่งกายของไรด์เดอร์มาสวมใส่นั้น ตอนแรกว่าจะห้าม แต่เห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย อย่างไรก็ดี ต่อไปจะพิจารณาให้เคร่งครัด ส่วนที่มีผู้อภิปรายนำไอแพดขึ้นมาอ่าน มองว่าขณะนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว แต่อย่าให้ถึงก้มหน้าก้มตาอ่าน


 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประท้วงจาก สส.3 พรรคตอบโต้กันไปมา เพราะ สส.ก้าวไกลไม่ยอมถอนคำพูด ทำให้นายพัฒนา สัพโส สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงนายวิโรจน์ ว่า ได้ยินข่าวว่าจะอภิปรายสร้างสรรค์  ตนให้เกียรติทางน้อง ๆ ประเด็นนี้อยากให้ถอน และจบเพื่อเดินต่อ ทำให้ นายวิโรจน์ ลุกประท้วงกลับว่า “เรียกผมว่าน้อง ๆ ผมไม่มีพี่ชายสันดานแบบเขา” ทำให้นายพรเพชร ต้องยกมือเพื่อห้ามศึกและปิดไมโครโฟนของทั้ง 2 ฝั่ง ก่อนจะวินิจฉัยให้ สส.พรรคก้าวไกล ทั้งนายวิโรจน์และนายศิริโรจน์ ถอนคำพูดที่ไม่เหมาะสมตามที่ถูกประท้วง จากนั้นให้การอภิปรายนโยบายรัฐบาลดำเนินต่อไป

ภายหลังการโต้เถียงอย่างดุเดือด ในที่ประชุมของบรรดาสมาชิก เรื่องนายกฯส้มหล่นนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงนโยบายแรงงาน โดยระบุว่า “นั่งฟังอยู่เมื่อกี้ ก็ใจเย็น ๆ กันนิดนึง ยังเช้าอยู่เลย วานนี้เราอยู่กันดึก ยิ้มแย้มบ้าง สมาชิกบางท่านหน้ายังขึงขังอยู่เลย”

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าประเทศไทยโชคดีเป็นที่ต้องการแรงงานจำนวนมาก อัตราการว่างงานต่ำกว่า 1% ถือว่าเป็นความโชคดีบนความโชคร้ายว่าประชากรนั้นมีงานทำ แต่ความต้องการแรงงานนั้นมีจำนวนมาก ดังนั้น การพึ่งพาแรงงานต่างชาติจึงนั้นมีความจำเป็น ซึ่งต้องมีเรื่องการดูแลเรื่องสิทธิมนุษยชน การดูแลเรื่องความเป็นอยู่ความปลอดภัย ความมั่นคงควบคู่กันด้วย รัฐบาลจะดำเนินการเรื่องของวันสต็อปเซอร์วิสให้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคำนึงถึงผู้ประกอบการ ผู้ใช้แรงงานและแรงงานต่างด้าวด้วย 

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เช่นการท่องเที่ยว เพื่อดึงเงินเข้าภาคบริการ และค่าแรงจะปรับขึ้นตามความต้องการของแรงงาน นอกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคบริการแล้ว จะลดค่าใช้จ่ายในด้านพลังงานของประชาชน และผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ด้วย โดยหลังจากการแถลงนโยบายแล้วเสร็จ ได้ให้แนวทางกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานดำเนินการอย่างเร่งด่วน

“ส่วนเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ถือเป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องที่หลายพรรคได้พูดกันไว้ และหลายคนมีความเป็นห่วงประชาชนที่อยู่ชายขอบของสังคม ที่ต้องได้รับการดูแล มีรายได้ที่เหมาะสมเพียงพอกับการใช้จ่ายประจำวัน เรื่องนี้จะเจรจา 3 ฝ่าย ทั้งผู้ว่าจ้าง แรงงาน และรัฐบาล เพื่อปรับค่าแรงขั้นต่ำให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยที่เป้าหมายอยู่ที่ 400 บาท โดยเร็วที่สุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงต่อรัฐสภาอีกครั้ง โดยยืนยันว่า รัฐบาลนี้มาจากประชาชน ไม่เคยลืมความยากแค้นของประชาชน ซึ่งแม้ยังไม่มีอำนาจบริหารเต็มที่ ตนก็ได้ลงไปฟังความเห็นและดูแลประชาชน มีความตั้งใจจริงใจ และขอบคุณคำเตือนของสมาชิกรัฐสภาที่ให้มาด้วย

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงแนวทางการช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการไรเดอร์ ว่า รัฐบาลมองภาพ Gig Ecomony โดยรวม ซึ่งรวมถึงแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซด์ ผู้ให้บริการขนส่งต่างๆ และรัฐบาลได้ลงไปรับฟังปัญาต่างๆ ก่อนการเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง ทั้งในด้านค่ารอบที่ไม่เป็นธรรม ค่าใช้จ่ายพื้นฐานที่ชาร์จกับผู้โดยสารที่ไม่ได้ปรับมานาน การบังคังรับงานพ่วง การแบกรับต้นทุนความเสี่ยงเอง กฏหมายแรงงานไม่คุ้มครอง กฏหมายต่างๆที่ยังล้าสมัย

“ได้ให้แนวทางกระทรวงแรงงาน เพื่อเจรจาภาคเอกชน เพื่อยกระดับสวัสดิการ และค่าแรงให้เป็นธรรมมากยิ่งขึ้น แข่งขันกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรุนแรง นอกจากนี้ รัฐบาลมีแนวทางจัดระเบียบค่าโดยสารมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ไรเดอร์และแท็กซี่ให้มีความยุติธรรม โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารและไรเดอร์ด้วย อีกทั้งมีแนวทางให้กระทรวงคมนาคม ทำการศึกษาสร้างแอพพลิเคชั่น เรียกรถของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือผู้ให้บริการแบบครบวงจร ครอบคลุมทั่วถึง” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย