‘ก้าวไกล’ เปิดเวทีใหญ่หาเสียงเลือกตั้งซ่อม เขต 3 ระยอง

ระยอง 8 ก.ย.- ‘ก้าวไกล’ เปิดเวทีใหญ่หาเสียงเลือกตั้งซ่อม เขต 3 ระยอง ขอชาวแกลง-เขาชะเมา เลือกผู้แทนรักษาคำพูด-ตรงไปตรงมา แก้ปัญหาระยอง-ผลักดันนโยบายประเทศไทย แสดงพลังแทนคนทั้งประเทศเลือกการเมืองแบบใหม่ที่ประชาชนมีความหมาย ไม่ใช่แค่เครื่องมือกากบาท


วันที่ 8 กันยายน 2566 ที่ตลาดนัดคลองถม อ.แกลง จ.ระยอง พรรคก้าวไกล จัดเวทีปราศรัยใหญ่ทิ้งท้ายการเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 3 จ.ระยอง ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 10 กันยายนนี้ โดยพรรคก้าวไกลได้ส่ง พงศธร ศรเพชรนรินทร์ (เบอร์ 1) เป็นผู้สมัครสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยนอกจาก สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ทั้ง 4 เขตแล้ว ยังมีแกนนำและ สส.พรรคก้าวไกล ร่วมเวทีปราศรัยในวันนี้ด้วยหลายราย ไม่ว่าจะเป็น ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กรุงเทพฯ, กรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ, เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ, วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ, ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค และ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมปราศรัยท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมเวทีในครั้งนี้อย่างคับคั่ง

เริ่มต้นด้วยการปราศรัยของ สส.ระยอง ทั้ง 4 เขต โดยหนึ่งในนั้น คือ สว่างจิตต์ เลาหะโรจนพันธ์ สส.ระยอง เขต 5 พรรคก้าวไกล ที่ระบุว่าขอให้ในวันที่ 10 ก.ย. นี้ ชาวระยอง เขต 3 ทุกคนช่วยกันไปยืนยันว่าประชาชนต้องการการเมืองแบบไหน เขาบอกว่าเราไม่มีเพื่อนคบ แต่เรามีประชาชนเป็นเพื่อน ประชาชนเลือกเราเพราะประชาชนต้องการการเมืองที่ใสสะอาด คำไหนคำนั้น ตรงไปตรงมา ดังนั้น วันที่ 10 ก.ย. ทุกคนต้องออกไปแสดงพลังของประชาชนคนธรรมดา และเมื่อหลังเลือกตั้งเสร็จแล้ว ขอให้ไปช่วยสังเกตการณ์การนับคะแนนกันต่อ


ด้าน เบญจา ระบุว่า จากเหตุการณ์น้ำมันรั่วที่มาบตาพุด ชาวระยองในเขต 3 ก็ได้รับผลกระทบอย่างสาหัสไม่แพ้กัน โดยเฉพาะที่แหลมแม่พิมพ์ อ.แกลง ซึ่งนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้นมา พงศธรได้ร่วมติดตามปัญหาและการชดเชยเยียวยาให้ประชาชนมาสม่ำเสมอ ชาวระยองไม่ควรต้องอยู่กับวิกฤติที่เป็นระเบิดเวลาแบบนี้ ไม่ควรต้องอยู่กับการพัฒนาที่ไม่มีสิทธิเลือกแบบนี้ พงศธรคือคนที่จะไปยกมือผ่านกฎหมายส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้กับพวกเราอีกคน และพงศธร ก็คือคนที่จะไปยกมือผ่านกฎหมายปฏิรูปที่ดินให้กับประชาชนชาวเขาชะเมา ที่ถูกแย่งพื้นที่ เพิกถอนสิทธิในที่ดิน ขับไล่ออกจากที่ดินทำกิน จากการถูกป่าเขาชะเมาประกาศทับที่ดินทำกิน

ขณะที่ วิโรจน์ ระบุว่าการเมืองวันนี้ได้เดินทางมาถึงจุดที่เกิดการผสมพันธ์ุข้ามขั้ว โดยพรรคการเมืองกลุ่มหนึ่งที่เคยถูกเรียกว่าฝ่ายประชาธิปไตย เวลานี้กลับมองการเลือกตั้งเป็นแค่พิธี มองว่าสัญญาใดๆ ที่ให้ไว้กับประชาชนเป็นเพียงเทคนิคในการหาเสียง และถดถอยในความทะเยอทะยานและกล้าหาญที่จะรับปากประชาบน ตกต่ำเหลือแค่ความขี้ขลาดหวาดกลัว การเลือกตั้งที่แกลงและเขาชะเมา จึงไม่ใช่แค่การเลือกตั้งในพื้นที่ เมื่อเส้นแบ่งใหม่เกิดขึ้นระหว่างการเมืองแบบเก่ากับการเมืองแบบใหม่ การเลือกตั้งที่นี่จึงกลายเป็นการเลือกตั้งระหว่างพรรคก้าวไกล สู้กับฝ่ายที่มองว่าประชาชนเป็นแค่เครื่องมือกากบาท หากก้าวไกลชนะ มันคือชัยชนะของประชาชนทั้งประเทศ ต่อไดโนเสาร์ที่อยากรักษาการเมืองแบบเก่าเอาไว้ ดังนั้น ในวันที่ 10 ก.ย. นี้ จะเป็นศึกสำคัญระหว่างฝ่ายประชาชนกับศักดินาอนุรักษนิยม ตนจึงขอให้ชาวแกลงและเขาชะเมาทุกคน ช่วยเป็นแรงกายแรงใจ เป็นผู้กากบาทแทนให้กับประชาชนทั้งประเทศ

ในส่วนของ พงศธร ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัคร สส.ระยอง เขต 3 พรรคก้าวไกล ระบุว่าตลอดการเดินทางหาเสียงที่ผ่านมา ตนได้รับทั้งแรงกายและแรงใจจากประชาชนมากมายตลอดเส้นทาง นี่คือสิ่งที่ทำให้ตนและพรรคก้าวไกลเดินหน้าอย่างสุดใจมาจนถึงวันนี้ เพื่อแทนคำขอบคุณ ตนพร้อมทำงานเต็มที่ เพื่อผลักดันนโยบายตามที่หัวหน้าพรรคก้าวไกลฝากมาให้ในเรื่องของ ‘4 ส.’ ทั้งเรื่องสาธารณสุข ที่มีปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ขาดแคลน ค่าตอบแทนที่ไม่เป็นธรรม ทั้งที่ระยองเป็นจังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวประชากรสูงเป็นอันดับต้นของประเทศ เรื่องที่สองคือสวัสดิการ โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ ที่ปัจจุบันกำลังเสี่ยงต้องเข้าสู่เกณฑ์การพิสูจน์ความจน ซึ่งตนไม่อาจยอมรับได้


เรื่องที่สาม คือสิ่งแวดล้อม ซึ่งแกลงและเขาชะเมามีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ หล่อเลี้ยงทั้งเศรษฐกิจการท่องเที่ยว การเกษตร และการประมง ตนจะเข้าไปผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งการจำกัดการเคลื่อนย้ายสารเคมีและการจัดการสารพิษจากอุตสาหกรรม แทนชาวแกลงและชาวเขาชะเมาให้ได้ และสุดท้าย คือเรื่องของเศรษฐกิจ ที่เราจะต้องเร่งคืนชีวิตให้กับแกลงและเขาชะเมา

ผู้แทนราษฏรในวิถีก้าวไกลไม่เคยหายหัว เลือกตั้งเสร็จเราจะพบปะประชาชนอย่างต่อเนื่องแน่นอน ตนยืนยันได้ว่าแกลงและเขาชะเมามีที่มาที่หลากหลายมาก ตนและพรรคก้าวไกลเคารพและให้เกียรติชาวแกลงและเขาชะเมาที่มีที่มาที่หลากหลาย การเลือกตั้งในวันที่ 10 ก.ย. นี้ การกาเบอร์ 1 คือการเลือกตั้งเพื่อพวกเรา เพื่อชาวแกลงและเขาชะเมาทุกคน เพื่อเดินหน้าสู่วิถีก้าวไกล

ทางด้าน ชัยธวัช ระบุว่าวันนี้พรรคก้าวไกลกำลังจะเข้าสู่บทบาทฝ่ายค้านเชิงรุก ที่จะไม่ใช่แค่เป็นฝ่ายค้านอย่างเดียว เราจะใช้สถานะความเป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนสนับสนุน สถานะความเป็นผู้แทนราษฎร จับมือกับประชาชนไปผลักดันการแก้ปัญหาและนโยบายต่างๆ ไปด้วย ตอนนี้รัฐบาลยังไม่เริ่มทำงาน แต่เราเริ่มทำงานแล้วด้วยการผลักดันกฎหมายกว่า 40 ฉบับ ตามที่สัญญาไว้กับประชาชน ยื่นไปแล้ว 24 ฉบับ ที่เหลือจะทยอยยื่นทุกเดือน มาตรการใดของรัฐบาลที่ดีเราจะสนับสนุน อะไรที่ยังดีไม่พอก็ต้องวิพากษ์วิจารณ์ผลักดันให้ดีกว่านี้ อย่างเรื่องการเกณฑ์ทหาร ที่พรรครัฐบาลหาเสียงแบบเดียวกับก้าวไกลเป๊ะ แต่ตอนนี้กลับลำกลายเป็นการลดการเกณฑ์ทหาร พรรคก้าวไกลก็จะสอบถามในการแถลงนโยบายที่จะเกิดขึ้น และฝ่ายค้านเชิงรุกอย่างพรรคก้าวไกลก็จะเดินหน้าตรวจสอบกดดัน และผลักดันต่อในนโยบายด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสวัสดิการ ที่ดินป่าไม้ สิ่งแวดล้อม

การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ยังมีความสำคัญต่อการเมืองระดับชาติด้วย นี่จะเป็นหมุดหมายใหม่ของการเมืองไทย จะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่ของการเมืองไทย หลังเลือกตั้ง 14 พ.ค. เราต่างดีใจว่าจะได้การเมืองใหม่มาบริหารประเทศ แต่การจัดตั้งรัฐบาลไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง ตนอยากย้ำว่าการเลือกตั้งซ่อมที่นี่มีความหมายมาก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันเลือกตั้งจนจัดตั้งรัฐบาลเสร็จ สะท้อนว่ามีผู้มีอำนาจ ชนชั้นนำทางเศรษฐกิจ เป็นนายทุนใหญ่ มีอำนาจทางการเมือง ที่ปกครองควบคุมประเทศมาอย่างยาวนาน รวมหัวจับมือกันเพื่อขัดขวางการเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องการให้ก้าวไกลมาเป็นฝ่ายบริหาร เมื่อมีการเมืองแบบก้าวไกลก็เลิกทะเลาะขัดแย้งกัน มาร่วมมือกันเพื่อไม่ให้การเปลี่ยนแปลงในแบบที่ประชาชนต้องการเกิดขึ้น การเลือกตั้ง 10 ก.ย. จะเป็นเส้นแบ่งว่าประชาชนต้องการการเมืองแบบเดิมที่แก้ไขปัญหาของประชาขนไม่ได้ นำพาประเทศให้มีอนาคตกว่านี้ไม่ได้ หรือการเมืองแบบใหม่

ต่อมา พิธา ระบุว่าเหลือเวลาอีกไม่ถึง 48 ชั่วโมงแล้ว ที่เราจะได้ร่วมกันกำหนดอนาคตของชาวแกลงและเขาชะเมา ส่งสัญญาณไปถึงทำเนียบฯ ว่าประชาชนเลือกตั้งแบบไหนก็ต้องได้แบบนั้น เพื่อยืนยันว่าในระบบประชาธิปไตย ประชาชนไม่ใช่แค่ตัวประกอบหรือตัวประกัน แต่คือประธานที่จะบ่งบอกว่าประเทศจะเดินหน้าไปทางไหน และเราเชื่อว่าพวกเราจะทำมันได้ เพราะระยองคือก้าวไกล และก้าวไกลคือระยอง

เหตุผลแรก เพราะเราคือที่หนึ่งไม่เป็นรองใคร ในจังหวัดแห่งนี้มีรายได้เป็นอันดับหนึ่งของประเทศ แต่ประชาชนก็ยังคงเหลื่อมล้ำอยู่ วันหนึ่งที่เราได้เข้าทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ตนเป็นนายกฯ คนที่ 31 เราจะเข้าไปแก้ปัญหานี้ด้วยกัน เหตุผลที่สอง ทั้งระยองและก้าวไกลต่างโอบรับในความหลากหลาย เต็มไปด้วยทรัพยากร เต็มไปด้วยโอกาส พรรคก้าวไกลก็ไม่ต่างกัน เรามีคนที่หลากหลาย อย่างเช่น สส. ที่มาร่วมกับเราในเวทีนี้ที่นี่กว่า 30 คน มีตั้งแต่เชียงใหม่ไปจนถึงภูเก็ต เราหลากหลายแต่เรามีความตั้งใจเดียวกัน เราแยกกันทำงานเพื่อรับใช้ประชาชน ไม่มีคำว่าเหนื่อย ไม่มีคำว่าสิ้นหวัง ประชาชนเลือกเรามาทำงาน ไม่ใช่เพื่อมาผิดหวัง

และเหตุผลที่สาม พรรคก้าวไกลและระยองต่างก็คือความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เชื่อถือได้ คนระยองซื้อไม่ได้ พรรคก้าวไกลไม่ยอมให้ใครมาปลูกกล้วย 50 – 60 หวี เหมือนกับชาวระยองที่ไม่มีใครเอาเงินมาฟาดหัวได้ง่ายๆ คุณมีหัวคะแนนจ่ายเงิน แต่เรามีหัวคะแนนธรรมชาติ และจะเป็น กกต.ธรรมชาติในวันอาทิตย์นี้ด้วย

“เราคือครอบครัวเดียวกัน เรามีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แยกออกจากกันไม่ได้ วันที่ 10 ก.ย. นี้ตื่นแต่เช้าไปกาก้าวไกล คนอื่นอาจมองว่าเป็นชัยชนะเพียงเล็กน้อย แต่สำหรับเรานั่นคือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ เพื่อให้สังคมเราดีขึ้นกว่านี้ ให้ระยองดีกว่าเดิม และผมสัญญาว่าเราจะมาเปลี่ยนระยอง เปลี่ยนภาคตะวันออก เปลี่ยนประเทศไทย และเปลี่ยนโลกใบนี้ไปด้วยกัน” พิธากล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กระเช้าหลุด ช่างทาสีร่วงตึก 5 ชั้น ตาย 1 สาหัส 1

พัทลุง 2 ส.ค. – เกิดเหตุสลด กระเช้าปลายบูมหลุดจากเครน ช่างทาสีร่วงจากตึก 5 ชั้น เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 1 ที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียน จ.พัทลุง เกิดเหตุสลดกลางไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อกระเช้าที่ผูกติดกับหัวเครนเกิดหัก หลุดจากตึกสูง 5 ชั้น ส่งผลให้ช่างทาสี 2 คน ที่อยู่บนกระเช้าร่วงตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 คน คือ นายธวัชชัย อายุ 36 ปี และนายชุติเดช อายุ 43 ปี บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองข้างหักละเอียด แขนซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุงอย่างเร่งด่วน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนงานทั้ง 2 เป็นช่างทาสี ได้ขึ้นกระเช้าเหล็กเพื่อขึ้นไปทาสีบริเวณชั้น 5 ของอาคาร ซึ่งมีความสูงประมาณ 26 เมตร แต่ด้วยน้ำหนักของคนงานทั้งสองคน […]

รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final […]

EOD เก็บกู้ระเบิดฝังอยู่ใกล้ปั๊มที่ถูกกัมพูชายิงใส่

ศรีสะเกษ 2 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายหัวระเบิด HE ของจรวด BM 21 ที่ฝังอยู่บนถนนกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อทำลายระเบิดที่ฝังอยู่ในถนน บ้านน้ำเย็น-บ้านผือ ฝั่งมุ่งหน้าเขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือน โดยจุดที่ระเบิดถูกฝังบนถนนอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นระเบิดที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พร้อมกับเหตุการณ์ยิงกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมาทำเป็นบังเกอร์ล้อมรอบจุดที่ระเบิดฝังอยู่ในถนน เจ้าหน้าที่ชุดจากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC โดยมีการปิดถนนรัศมี 1 กิโลเมตร […]

กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธไฮเทคสำหรับยิงโดรน

นครราชสีมา 2 ส.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้ทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เรียบร้อยแล้ว ด้านชาวอุดรธานี แห่บริจาคหนังสติ๊กพร้อมลูกแก้ว ตามที่ทหารขอมาจำนวนมาก หลังทหารกัมพูชายังก่อกวน ยั่วยุ ทั้งขว้างก้อนหินใส่ และมีโดรนปริศนามาบินอีก จากกรณีที่ช่วงนี้ มีการตรวจพบโดรนไม่ทราบฝ่าย เข้ามาบินตรวจการณ์ในพื้นที่ที่ตั้งทางทหาร ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวล และสงสัยว่าอาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงจากประเทศเพื่อบ้าน ที่กำลังมีปัญหาระหว่างประเทศกับประเทศไทย ทำให้เมื่อวานเพจกองทัพภาคที่ 2 ได้แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้มีการทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.68) เฟซบุ๊กเพจ กองทัพภาคที่2 ได้แชร์ข้อมูลเพจ SMART Soldiers Strong ARMY พร้อมระบุข้อความว่า “หากศัตรูซ่อนตัวในเงามืด เราจะเป็นแสงที่มองเห็นมันก่อนใคร”เลเซอร์พร้อมยิง — ทหารไทยพร้อมรบโดยอาวุธชนิดนี้ คือ Directed Energy Weapon หรือ (DEW) เป็นอาวุธยุคใหม่ที่กองทัพอากาศไทยพัฒนาขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง […]