มหาดไทยไม่แบ่งงาน อยู่กันแบบพี่น้อง

กระทรวงมหาดไทย 7 ก.ย.-“อนุทิน” ไม่แบ่งงาน มั่นใจรัฐมนตรีช่วยทุกคนทำงานภายใต้คำสั่งรัฐมนตรีว่าการได้ ยืนยันมหาดไทยโปร่งใส ต้องไม่มีการขายตำแหน่ง เตรียมข้อมูลสนับสนุนการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงมหาดไทย ซึ่งถือว่าเป็นการเข้าทำงานที่กระทรวงฯ วันแรก ว่า รัฐมนตรีทุกคนจะเตรียมข้อมูลเพื่อสนับสนุนการแถลงนโยบายของรัฐบาล และการตอบคำถามในกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีข้อสงสัย ส่วนการทำงานที่กระทรวงฯ จะใช้เวลา 3-4 วัน ทำความคุ้นเคยกับงานและข้อมูล จะเริ่มอย่างเป็นทางการหลังแถลงนโยบายรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว วันนี้เข้ามาทำความรู้จักกับส่วนราชการในกระทรวงฯ

“ผมถือว่าโชคดีที่มีรัฐมนตรีช่วยคุ้นเคยกับประชาชน เพราะทุกคนเป็น สส. กระทรวงมหาดไทยยุคนี้จะเข้าใจวิถีชีวิตและคุณภาพชีวิตของประชาชน มีความแน่วแน่ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน กระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงที่มีรัฐมนตรีที่มาจากประชาชน เข้าถึงได้ ต้องลงไปถึงหน้างาน จะทำงานอยู่ในพื้นที่มากที่สุด โดยได้รับการสนับสนุนจากนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งคุ้นเคยกันมานาน ตั้งแต่รุ่นพ่อผม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในช่วงปี 2552-2554 เป็นทีมงานเดียวกันหมด ซึ่งหลังจากเข้ากระทรวงแล้ว ผมจะเข้าไปกราบคุณพ่อที่บ้านวันนี้ อย่างไรก็ตาม ในการดำรงตำแหน่งของผม จะไม่มีคำว่าท่าน ไม่มีคำว่านาย มีแต่พี่น้องในหมู่ข้าราชการกระทรวงฯ ทำงานด้วยเป้าหมายเดียวกัน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว


ส่วนเรื่องการแบ่งงานให้รัฐมนตรีช่วยฯ นายอนุทิน กล่าวว่า ขอรอฟังบรรยายสรุปจากหน่วยงานที่รับผิดชอบก่อน อย่างไรก็ตาม ทุกคนเป็นรัฐมนตรีเหมือนกันหมด ช่วยกันทำงาน แต่แบ่งงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบและสายงาน พวกเราจะร่วมกันทำงาน โดยไม่แบ่งงานเป็นสายไหน ซึ่งต้องรอการแถลงนโยบายก่อน แต่สไตล์การทำงานของตน ที่ผ่านมาในหนังสือที่มีการแบ่งงาน ข้อ 9 นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ สั่งการได้ทุกอย่าง จึงอยากให้เกิดบรรยากาศเช่นนั้น เราทำงานแบบเป็นพี่เป็นน้องกัน เชื่อมั่นไม่มีปัญหา ทุกอย่างเป็นงานที่ท้าทาย การทำงานของตนไม่มีขีดจำกัดในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ต้องทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ ทุกอย่างเป็นเรื่องเร่งด่วน ซึ่งผลมาจากกระทรวงสาธารณสุข เพราะเป็นงานต่อเนื่องกัน ต้องดูแลคุณภาพชีวิต จะประสานงานต่อเนื่องจากกระทรวงสาธารณสุข เช่น การถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพ.สต. ทำให้ประชาชนพึงพอใจการรักษาพยาบาลที่ไม่มีรอยต่อ

“งานทางด้านเศรษฐกิจ มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการการท่องเที่ยว ทำให้เม็ดเงินหมุนเวียนมากที่สุด หลังจากนี้นำนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มาใช้ จึงต้องขอความร่วมมือปลัดกระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด จัดเตรียมสินค้า นำเงินดังกล่าวมาใช้ ไม่นำเงินไปใช้ในต่างประเทศ คือ ไทยทำ ไทยใช้ ใช้เงินไทย ซื้อของคนไทย ผลิตโดยคนไทย ซึ่งเงินจะหมุนเวียนในประเทศ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

ส่วนแนวนโยบายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็น CEO นายอนุทิน กล่าวว่า  ปัจจุบันเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เพราะการทำงานทุกอย่างต้องผ่านการกำกับดูแลจากผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งพวกเราพร้อมทำงานร่วมกับข้าราชการกระทรวงมหาดไทย


“ส่วนการโยกย้ายข้าราชการ หลังนายกรัฐมนตรีมีแนวคิดที่จะต้องโปร่งใส ไม่มีการซื้อขายตำแหน่งนั้น ต้องไม่เกิดขึ้น นายกรัฐมนตรีย้ำเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ ซึ่งตรงกับความตั้งใจของรัฐมนตรีทุกคน ยุคนี้ต้องไม่มีการกลั่นแกล้ง ไม่ว่าจะเป็นประชาชน นิติบุคคล ต้องได้รับความเป็นธรรม ถ้ามีการปฏิบัติไม่เป็นธรรม เดี๋ยวเจอกับผม” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

ส่วนเหตุการณ์กำนันยิงตำรวจจากเหตุฝากตำแหน่งไม่ได้ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนต้องเชื่อมั่นในหน่วยงานราชการ ปลัดกระทรวงต้องนำนโยบายของรัฐมนตรีไปปฏิบัติ ตนไม่ก้าวก่าย หากมีปัญหา มั่นใจว่าเมื่อโทรศัพท์หาปลัดกระทรวง หรือรัฐมนตรีช่วยต่าง ๆ จะได้รับการตอบสนองอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องห่วง สั่งการวันนี้ ต้องเสร็จตั้งแต่เมื่อวาน

นายอนุทิน กล่าวถึงนโยบายรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า ขอให้ใจเย็น ๆ ยังไม่ได้พบกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แต่ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าเรื่องใดเป็นเรื่องเร่งด่วน ต้องได้รับการแก้ไข ส่วนการสานต่อนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ ยืนยันเป็นไปตามกฎหมาย ต้องไปดูในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทสส.นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คาด “ผบ.ทบ.” รับผิดชอบโดยตรง เตรียมแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ในเวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกการมาทำข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุม และคาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ.-313-สำนักข่าวไทย

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย