พล.อ.ประยุทธ์ ประทับใจตลอด 9 ปีที่ทำเนียบฯ

ทำเนียบรัฐบาล 31 ส.ค.-พล.อ.ประยุทธ์ พบสื่อพร้อมร่วมกินข้าวมื้อกลางวัน ขอทุกคนช่วยกันทำบ้านเมืองสงบ เดินหน้า 9 ปีที่ทำเนียบฯ ประทับใจหลายเรื่อง หลังหมดวาระไม่เหงา อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย เลี้ยงสุนัข ยืนยันวางยุทธศาสตร์ชาติ ไม่ใช่สืบทอดอำนาจ สื่อ-ข้าราชการ แห่มอบดอกไม้ล้นหลาม


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายธนกร วังบุญคงชนะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อมาร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับสื่อมวลชน ในโอกาสเข้าปฎิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นวันสุดท้าย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากนี้จะต้องไปออกกำลังกาย เพื่อสร้างกล้ามเนื้อเนื่องจากไม่ออกกำลังกายเป็นเวลานาน ซึ่งที่ผ่านมาจนเป็นของตนแบบนี้ แต่ก็พยายามทำงานให้ดีที่สุดแม้จะพูดไม่เพราะบ้าง หลังจากนี้ให้เหตุการณ์นิ่งสักระยะก็อาจจะไปพักผ่อน  ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะไปถูกหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเดินทางแค่บ้านและทำเนียบ และอยากกลับไปอยู่กับครอบครัวเพราะชีวิตที่ผ่านมาหายไป 8-9 ปี  หากช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อยเอาไว้ได้ประเทศชาติก็จะเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งขณะนี้ความสงบเรียบร้อยอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งหลายอย่างได้ตั้งหลักเอาไว้แล้วแต่จะปรับเปลี่ยนอะไรต้องดำเนินการให้มีความต่อเนื่อง


ส่วนกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ปรึกษาว่าอยากมีห้องส่วนตัวไว้พักผ่อนจะเหมาะสมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้ตอบไปว่าแล้วแต่นายกฯ เศรษฐา ที่ทำเนียบรัฐบาลมีห้องสำหรับนอนพักผ่อนอยู่แล้ว แต่ตนไม่ได้ใช้ เนื่องจากมัวแต่รบกับสื่อมวลชน บางครั้งก็นอนไม่หลับพูดไปโมโหไป ก็กลับมานึกรู้สึกเสียใจ ไม่ควรพูดแต่เชื่อว่าต่างคนก็ต่างเข้าใจกัน ยอมรับว่าส่วนตัวเป็นคนขี้โมโห การคิดเร็วทำเร็ว บางครั้งอาจไม่เหมาะสม ขอให้ดูที่ผลงาน

“หลังหมดวาระจากนายกรัฐมนตรีไปจะไม่เหงา เพราะเป็นคนช่างคิดช่างอ่าน เพราะตนเองชอบอ่านหนังสือไปเรื่อย และเลี้ยงสุนัข ขอพักสมองบ้างเนื่องจากเจอเอกสารมา9 ปี ส่วนเพลงที่ตนเองแต่งย้ำว่าชอบทุกเพลงเพราะมันเป็นสิ่งที่เคยทำมา ร้อยเรียงจากบทกวีเขียนจากถ้อยคำที่ต้องพูดคุยกับผู้ใต้บังคับบัญชาปลุกเร้าอารมณ์ ให้มีจิตใจในการสู้รบมีสาระบ้าง ตลกบ้าง วันนึงพูดได้เป็น 2- 3 ชั่วโมง ส่วนเทคนิคการแต่งเพลง ต้องเขียนเนื้อก่อนค่อยเอาทำนองมาใส่ ซึ่งต่างจากคนอื่นที่มีทำนองก่อนแล้วค่อยใส่เนื้อเพลง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

สื่อมวลชนขอให้นายกรัฐมนตรีร้องเพลงหนึ่งผลงานเพลง พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธเพราะจำเนื้อเพลงไม่ค่อยได้ และอธิบายถึงเพลงคืนความสุขให้ประเทศไทย ท่อนที่ร้องว่า ‘เราจะทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นาน” ตนคิดอย่างนั้นจริง ๆ หากสถานการณ์ในประเทศสงบเรียบร้อย ตนไปนานแล้ว ไม่ได้ตั้งใจจะอยู่จนถึงขนาดนี้ ยืนยันว่าที่ต้องอยู่จนถึงขนาดนี้ เป็นไปตามกลไกของการเลือกตั้ง


“อำนาจมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ซึ่ง 9 ปีที่ผ่านมา ผมและครม. ระมัดระวังตัวมาโดยตลอด แนวคิดทางการเมืองหลายคนอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ต้องทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ หากแบ่งแยกเป็นกลุ่มจะเกิดอันตราย จึงต้องมีหลักพื้นฐานสำคัญ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์อะไรมาก เพราะส่วนตัวไม่มีอำนาจอะไรอยู่แล้ว และไม่เคยคิดว่าตนมีอำนาจ ทุกอย่างมาตามขั้นตอนและระเบียบของกฎหมาย รัฐบาลขณะนี้ไม่ใช่รัฐบาลปรองดองแต่ทุกคนต้องมีความปรองดองกัน และมีส่วนร่วมกัน เพราะไม่สามารถสั่งใครให้ปรองดองกันได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างพูดคุยกับสื่อมวลชนเจ้าหน้าที่ได้เปิดเพลงสะพาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งเองและได้ร้องคลอพร้อมโอบไหล่นายอนุทินและนายธนกรไปด้วย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังฝากถึงชาวโซเชียลมีเดียด้วยว่า ขอฝากความรักความคิดถึง ตนไม่โกรธเคืองใครทั้งสิ้นไม่ว่าจะรัก จะชมหรือจะชอบหรือไม่ชอบ จะด่า จะว่า เพราะเป็นโลกโซเชียลมีเดีย แต่ทุกคนต้องมีภูมิคุ้มกันเอาไว้บ้าง ไม่ใช่ใครเกลียดก็เกลียดด้วย ทุกอย่างต้องมีเหตุมีผล หากทุกคนบิดเบี้ยวไปหมดจะเป็นอันตรายกับประเทศ

“สื่อโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะเป็น Facebook TikTok ไม่เคยทำเอง เพราะไม่ชอบ แต่ต้องติดตามเพราะเป็นเรื่องของการพัฒนา โดยเน้นอ่านสิ่งที่เป็นประโยชน์จะดีกว่าสิ่งที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง เพราะบางทีไม่รู้จักหน้ากัน โกรธกัน ทะเลาะกันได้อย่างไรก็ไม่ทราบ เพราะสังคมบูลลี่กันไปแล้ว  คำว่าประชาธิปไตยก็ต้องมีรูปแบบ และบริบทที่เหมาะสม กับประเทศไทย เพราะหากไม่มี บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร บ้านเมืองจะสงบแบบนี้และจะมีการพัฒนาหรือไม่ การพัฒนาโดยใช้งบประมาณอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงต้องสรรหาวิธีการต่าง ๆ ซึ่งก็ขอให้ติดตามดูเพราะเชื่อว่าอย่างไรก็คงต้องทำอยู่แล้ว”นายกรัฐมนตรี กล่าว  

ส่วนในอนาคตหากชาติต้องการ นายกรัฐมนตรีจะกลับมาอีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่สมมติ เพราะควรสมมติแต่สิ่งที่ดี ควรสมมติว่าให้ไปได้ด้วยดี เพราะถ้าคิดสิ่งที่ดี ก็จะไปได้ด้วยดี  เพราะถ้าสมมติสิ่งที่ดีก็จะดี แต่ถ้าสมมติสิ่งที่ไม่ดี ก็จะไม่ดี

“ที่ผ่านมาสิ่งที่ประทับใจคือความรักความสามัคคี และความเข้าใจว่าเราทำหน้าที่เพื่อใคร เพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชนและสถาบัน สิ่งใดที่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วก็จะดำเนินการ แต่หลายอย่างยังติดขัดข้อกฎหมายทำให้ยังไม่เรียบร้อย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนหวังอะไรกับเรือลำใหม่ที่จะมาดูแลประเทศ นายกรัฐมนตรี ย้อนถามสื่อมวลชนว่า แล้วพวกเธอหวังอะไร  เมื่อสื่อตอบว่าหวังให้ประเทศพัฒนา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ฉันก็หวังเหมือนเธอ

ส่วนหลังจากนี้จะแสดงความเห็นทางการเมืองอย่างไร เพราะหลายคนที่พ้นจากตำแหน่งแล้วมักแสดงความเห็นทางการเมือง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องพิจารณาว่าอะไรควรหรือไม่ควร เพราะไม่อยากให้ความขัดแย้งมากไปกว่านี้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับพวกเราที่จะทำให้บ้านเมืองสงบสุข ซึ่ง ปัจจุบันมีสื่อโซเชียลจำนวนมาก และทุกคนก็แสดงความคิดเห็น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความมุ่งหวังว่าบรรยากาศในวันข้างหน้าจะสงบสุข  แต่ก็ไม่สามารถตอบได้ว่าความขัดแย้งจะกลับมาอีกหรือไม่ แต่ส่วนตัวไม่อยากให้กลับมาขัดแย้งกันอีกเลย สิ่งใดที่ผิดพลาดและทำให้เกิดความเสียหาย ก็อย่าไปทำกันอีก

“9 ปีที่ผ่านมาประทับใจทุกวัน ส่วนเหตุการณ์ที่ประทับใจก็มีนับพัน ประทับใจการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ ที่ทุกคนเห็นชอบโครงการต่าง ๆ ร่วมกัน ทุกคนได้เสนอโครงการให้เข้าไปอยู่ในกรอบที่ได้วางไว้ ในเรื่องการปฏิรูป ซึ่งทุกอย่างไม่ได้ไปบีบรัดใครหรือเพื่อเป็นการสืบทอดอำนาจ เพราะต่างประเทศก็ใช้เช่นเดียวกัน 9 ปีที่ผ่านมามองว่าความสำเร็จมีเกินครึ่ง เพราะหลายเรื่อง เป็นเรื่องยาก ติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย และมีความพึงพอใจกับทุกโครงการของรัฐบาล เพราะเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์กับประชาชน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

จากนั้นสื่อมวลชนขอให้นายกรัฐมนตรีเซ็นหนังสือ “มาเหนือเมฆ” ที่นายกรัฐมนตรีเขียนพร้อมมอบดอกกุหลาบสีแดงเป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขอบคุณทุกคนจากหัวใจ ไม่เคยโกรธใคร ขอให้มีความสุข

เมื่อถามว่า มีอะไรอยากจะฝากบอกประชาชนที่สนับสนุนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ช่วยให้กำลังใจการทำงานร่วมกันด้วยความรักความสามัคคี ภายใต้พื้นฐานกรอบกฎหมาย

ส่วนที่ประชาชนหลายคนใจหายที่นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รู้สึกใจหายเช่นกัน ฝากประเทศชาติบ้านเมืองไว้ในมือทุกคนด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนขึ้นห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า นายกรัฐมนตรีได้โบกมือส่งสัญลักษณ์ไอเลิฟยู มินิฮาร์ทและวายทูเคให้สื่อมวลชนด้วย และช่วงที่ขึ้นไปยังห้องทำงาน บนตึกไทยคู่ฟ้า ก็ได้หยุดแล้วโบกมือลาสื่อมวลชนอีกครั้ง ก่อนขึ้นไปสักการะพระพรหมเจ้าที่บนตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้น เปิดโอกาสให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในทำเนียบรัฐบาล นำดอกไม้เข้าอำลา โดยนายกรัฐมนตรีได้มีการให้โอวาทและถ่ายรูปร่วมกัน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

เปิดปมสังหารยกครัว 4 ศพ แค้นชู้สาว

เปิดปมเหตุสลดฆ่ายกครัว 3 ศพ ก่อนผู้ก่อเหตุยิงตัวเองเป็นศพที่ 4 ใน จ.สมุทรปราการ พบข้อมูลว่าความแค้นครั้งนี้มาจากเรื่องชู้สาว แต่ลูกชายของผู้ตายยังไม่เชื่อว่าแม่มีความสัมพันธ์กับมือปืน แต่ยอมรับมือปืนให้เงินแม่ใช้ทุกวัน

ศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” ชี้พฤติการณ์ร้ายเเรง

ทนายเผยศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” เพราะพฤติการณ์ร้ายเเรง เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกัน ด้าน “แม่สามารถ” วอนผู้มีอำนาจอย่าเอาความลูกชายตน ลั่นหลังจากนี้จะสู้เพื่อความยุติธรรม