ตลาดเมืองไทยภัทร 31 ส.ค. – “เศรษฐา” ขอพิจารณาเรื่องตัวเลขลดค่าไฟก่อน ส่วนนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท เริ่มไตรมาสแรกปีหน้า มอง “พล.อ.ประวิตร” เป็นบุคคลทำประโยชน์เพื่อชาติมานาน เตรียมเชิญมากินข้าวหลังเข้าทำงานทำเนียบฯ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนบริเวณตลาดไทยภัทร ว่า วันนี้(31 ส.ค.) ตนลงพื้นที่ มาสอบถามเรื่องค่าครองชีพ ทั้งราคาน้ำมัน ราคาแก๊สหุงต้ม ค่าไฟ ต้นทุนการประกอบอาหารต่างๆ ซึ่งต้องแก้ปัญหาที่รากฐาน คือราคาพลังงาน โดยเมื่อวานก็ได้พูดคุยกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ก็มีมาตรการที่ชัดเจน และการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก จะมีการประกาศนโยบายออกไป แต่คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ก่อนในกรอบระยะเวลา 4 เดือน ตนเข้าใจว่าประชาชนคาดหวังตัวเลขการลดราคาค่าไฟ ซึ่งตนก็ยืนยันจะพยายามทำอย่างสุดความสามารถ แต่ยอมรับว่าขณะนี้ยังไม่อยากที่จะเปิดเผยตัวเลข เพราะหากเกิดการคลาดเคลื่อนผิดเพี้ยนไปจะทำให้ถูกต่อว่าภายหลังได้ ขอให้ใจเย็น ๆ ส่วนตัวอยากจะตอบแต่ก็ขอให้เกิดความมั่นใจก่อน
“การเดินทางมาโดยรถไฟฟ้าใต้ดินนั้น พบปัญหาเรื่องการรองรับจำนวนผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วนยังไม่เพียงพอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูง ได้บอกแล้วว่าจะมีการเพิ่มตู้โดยสารอีกตู้หนึ่งที่ขณะนี้กำลังสั่งซื้ออยู่ รวมถึงตนยังได้มีการพูดคุยกับผู้โดยสาร ว่าการเดินทางเป็นอย่างไรบ้าง ได้รับการตอบรับว่า ดีและสะดวกสบาย ราคาเหมาะสม แต่ยังพบปัญหาเรื่องตู้โดยสารไม่เพียงพอ ส่วนเรื่องนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้าตลอดสาย 20 บาท ต้องขอไปพิจารณาก่อน ว่าถึงแม้จะเคยบอกว่าเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย แต่เราไม่ได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียว การที่มีพรรคร่วมรัฐบาลอีก 10 พรรค ก็ต้องไปพิจารณาในเรื่องของงบประมาณโดยรวมก่อน และจะชี้แจงอีกครั้ง” นายเศษฐา กล่าว
นายเศรษฐา เปิดเผยถึงความคืบหน้านโยบายกระเป๋าเงินดิจิตอล 10,000 บาทว่า ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มารับฟังความคิดเห็น ซึ่งก็ได้ดูรายละเอียดและคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนจะกำหนดวันออกโครงการได้เมื่อไหร่นั้น คาดว่าจะสามารถออกไตรมาสที่ 1 ของปีหน้าได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐประกาศจะลาออกจากส.ส. นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตรเป็นบุคคลที่ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติมานาน และไม่ทราบเหตุผลที่จะลาออก ส่วนตัวไม่เคยพูดคุยกับพล.อ.ประวิตรโดยตรง มีเพียงพูดคุยผ่านโทรศัพท์บ้างเล็กน้อย หากตนได้เข้าทำเนียบรัฐบาล จะเชิญพล.อ.ประวิตรมารับประทานอาหาร
เมื่อถามถึงกรณีได้พบกับน.ส.นวลพรรณ ล่ำซำ หรือมาดามแป้ง ประธานสโมสรการท่าเรือเอฟซี ระหว่างลงพื้นที่ ซึ่งได้ทักทายกันและแซวว่า “ท่านนายก” นายเศรษฐา อธิบายว่าเพราะน.ส.นวลพรรณลงสมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และรู้สึกว่าใครที่จะไปแข่งกับมาดามแป้งคงถอนตัวหมด รู้จักกับมาดามแป้งมานาน เห็นถึงความมุ่งมั่นและทุ่มเท ขอเป็นกำลังใจให้ วันนี้ตนอยู่ภาคการเมืองไม่ควรชี้นำ
“ระหว่างที่ได้ลงพื้นที่ก็ได้พบกับนายตำรวจระดับชั้นผู้น้อย ตนก็ได้มีการพูดคุยกับหลายฝ่าย โดยเฉพาะกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติที่ดูแลเรื่องหนี้สินของรัฐบาลที่ผ่านมา ก็ได้ฝากให้ช่วยดูแลเรื่องหนี้สิน ของข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ซึ่งก็จะรับประเด็นนี้ไป ช่วยเหลือตำรวจชั้นผู้น้อยด้วย เช่นเดียวกันกับประชาชนผู้มีรายได้น้อยก็ต้องได้รับการดูแล ซึ่งเมื่อเช้าก็ได้พูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ผู้บริหารธกส ถึงการพักหนี้เกษตรกรซึ่งกำลังพิจารณาดูตัวเลขอยู่ ยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้เป็นการดูแลพักหนี้ชั่วคราว เพื่อให้สามารถฟื้นฟูให้ได้ก่อน” นายเศรษฐา กล่าว.-สำนักข่าวไทย