เพื่อไทย 28 ส.ค.-ตัวแทนชาวนาศูนย์ข้าวชุมชนระดับประเทศ จี้พรรคเพื่อไทยคุมเกษตรฯ ด้าน “หมอชลน่าน” ย้ำแม้ไม่ได้เป็นเจ้ากระทรวง แต่พรรคร่วมต้องเอานโยบายไปขับเคลื่อน ขอเวลา 6 เดือน เห็นผลงาน-ปรับเปลี่ยนได้
กลุ่มชาวนาจากศูนย์ข้าวชุมชน 20 จังหวัดภาคอีสาน นำโดยนายจารึก กมลอินทร์ ประธานกรรมการกลางศูนย์ข้าวชุมชนระดับประเทศ เดินทางมายังที่ทำการพรรคเพื่อไทย เพื่อให้กำลังใจพรรคเพื่อไทยและสนับสนุนรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ในการผลักดันนโยบายเพื่อเกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายพักหนี้เกษตรกร รวมถึงขอให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พิจารณาความเหมาะสมที่จะให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่กับพรรคเพื่อไทย โดยมีนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นผู้รับหนังสือ
หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้เป็นตัวแทนมารับมอบหนังสือ พร้อมฝากคำขอบคุณและความห่วงใยมายังพี่น้องชาวนา เพราะทราบว่าทุกท่านลำบากจากราคาพืชผลผลตกต่ำ ซึ่งพรรคเพื่อไทยเชื่อมั่นว่านโยบายด้านการเกษตรของพรรคเพื่อไทย จะเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลที่จะช่วยแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรได้
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เข้าใจถึงความประสงค์ของพี่น้องชาวนาที่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยเข้าไปดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเป็นผู้ร่วมเจรจาจัดตั้งรัฐบาล ภารกิจแรกสุดคือต้องได้นายกรัฐมนตรีให้ได้และตอนนี้เราก็ทำสำเร็จแล้ว ส่วนขั้นตอนต่อไปคือการเดินหน้ากับพรรคร่วมรัฐบาล 314 เสียง ถ้าเราอยู่ร่วมกันได้ก็จะเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็ง บริหารราชการแผ่นดินตอบสนองความต้องการของประชาชน การเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้คะแนนเพียง 141 เสียง ยังไม่ถึงกึ่งหนึ่งของ 314 เสียงด้วยซ้ำ
“การที่เราเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล รวมไปถึงความต้องการดูแลกระทรวงต่าง ๆ อย่างที่ประชาชนเสนอมา พรรคเพื่อไทยก็อยากดำเนินการ เพียงแต่เงื่อนไขคือเราเป็นรัฐบาลผสม มีพรรคร่วมรัฐบาล เราจึงต้องให้เกียรติพรรคที่เชิญเข้ามา ในฐานะแกนนำก็ต้องพิจารณาว่าจะทำวิธีใดจัดตั้งรัฐบาลให้เป็นรัฐมนตรีให้ได้ก็เป็นสิ่งที่เราคำนึง ถ้าเราเป็นรัฐมนตรีไม่ได้หรือมีเสียงเพียง270-280เสียง อาจไม่มั่นคง เราจึงต้องผลักดันให้มีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่เข้มแข็งให้ได้” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แม้จะมีพรรคร่วมรัฐบาล แต่รัฐมนตรีทุกพรรคจะต้องนำนโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นหลักในการบริหารงานในกระทรวงต่างๆ เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นโยบายพักหนี้เกษตรกร 3 ปี และนโยบายเพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่าภายในปี 2570 จะถูกนำไปเขียนเอาไว้ในนโยบายรัฐบาล จึงขอให้ความมั่นใจกับทุกท่านว่าแม้ว่าคนของพรรคเพื่อไทยไม่ได้นั่งเป็นเจ้ากระทรวง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงใด แต่นโยบายหลักของกระทรวงนั้นต้องเป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยประกาศหาเสียงเอาไว้แล้วจะกลับคืนสู่ประชาชน ภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี
“ถ้าเราไม่ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการ แต่เราจะมีรัฐมนตรีช่วยเข้าไปเพื่อผลักดันงาน หลายสิ่งหลายอย่างที่ท่านกังวล เราขอเรียนว่าภายใต้รัฐบาลที่มีเงื่อนไขภาวะวิกฤติ เราต้องทำงานร่วมกันให้ได้ก่อน ถ้าเราขับเคลื่อนไม่ได้ก็ขอให้ทุกท่านมาทวงสัญญาว่าพรรคเพื่อไทยทำไม่ได้ และในการทำงานร่วมกันก็ต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องในโอกาสที่เหมาะสม ขอให้ทุกคนรออีก 6 เดือนเห็นผล ว่าสิ่งที่เราทำเป็นนโยบาย รัฐมนตรีที่กำกับดูแล นายกรัฐมนตรีสามารถทำงานเป็นไปตามสิ่งที่ทุกคนต้องการหรือไม่ ถ้าไม่ได้ยินดีที่จะรับฟังความเห็นจากทุกคน จะมากันทั่วหล้าก็ได้” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว.-สำนักข่าวไทย