รัฐสภา 25 ส.ค.-“ดิเรกฤทธิ์” ยินดีได้รัฐบาลใหม่ แนะทำงานให้ดี บนความคาดหวังของประชาชน เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากแต่ต้องฟังเสียงข้างน้อย มองการล็อบบี้เป็นปกติ แจกกล้วย สว.เป็นเรื่องตลก ไม่มีใครกล้าทำ ไม่มีใครกล้าเสนอ
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กล่าวถึงความเชื่อมั่นในรัฐบาลเศรษฐา 1 ว่า ยินดีกับนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีของตน และคนไทยทุกคน จึงได้ฝากความหวัง ความสำเร็จของประเทศไว้กับนายกรัฐมนตรี แต่แน่นอนว่านายกรัฐมนตรีจะต้องแบกรับภาระของประเทศไทย จึงฝากข้อคิดให้กับนายกรัฐมนตรีในเรื่องความคาดหวังของประชาชน ที่ชนะเลือกตั้งมาจนกระทั่งรวมเสียง สส.ได้มาก และรัฐสภาได้ตรวจสอบคุณสมบัติแล้วเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นเสียงข้างมาก เป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ
“ปัญหาเรื่องคุณสมบัติความซื่อสัตย์ เราก็ผ่านให้ เพราะเห็นว่าไม่ได้มีข้อมูลเป็นที่ประจักษ์ว่าเกี่ยวข้องกับนายเศรษฐาโดยตรง ซึ่งตนเอาใจช่วยการขับเคลื่อนบนความคาดหวังของประชาชนว่าอะไรจะทำได้ก่อน ถ้าเป็นไปได้ก็ต้องอธิบายประชาชน ส่วนเรื่องที่น่ากังวลก็มีอยู่บ้าง เช่น เรื่องควันหลงของการอภิปราย ควันหลงจากการตรวจสอบคุณสมบัติที่มีการกล่าวหายกหลักฐานว่าไม่ซื่อสัตย์สุจริต ถ้ามีการไปฟ้องศาลหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องก็เป็นหน้าที่ของนายเศรษฐาและผู้ที่เกี่ยวข้องที่จะต้องชี้แจงให้ประชาชนได้เข้าใจว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีผลงานที่เป็นที่ประจักษ์ ไม่ได้มีประวัติด่างพร้อยที่จะส่งผลต่อความไม่ไว้วางใจได้” นายดิเรกฤทธิ์ กล่าว
ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าหากมีมติคณะรัฐมนตรีในวันแรกให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขอให้ได้มีการพูดคุยกับทุกฝ่ายเพื่อความชัดเจนด้วย ถ้าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขทั้งฉบับ เราอาจจะไม่ต้องใช้ สสร. แต่ใช้ ส.ส.ที่เป็นตัวแทนของประชาชนสามารถที่จะแก้ไขรายมาตราได้อยู่แล้ว ซึ่งถ้าอธิบายเหตุผลความจำเป็นความคุ้มค่าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะได้รับการยอมรับให้ดำเนินการ รวมถึงเรื่องเงินดิจิตอลจะทำได้เมื่อไหร่ ทำได้อย่างไร ก็ต้องอธิบายให้ชัดเจนรวมถึงนโยบายอื่น ๆ ด้วย
“เป็นรัฐบาลของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่ของรัฐบาลของเสียงข้างมาก ฉะนั้นประชาธิปไตย เราเคารพเสียงข้างมากปกครองโดยเสียงข้างมาก แต่ต้องให้ความสำคัญและรับฟังเสียงข้างน้อยด้วย พร้อมขอชื่นชมความสามารถในการจัดตั้งรัฐบาลได้ และจะเป็นรัฐบาลในความหวังของประชาชน” นายดิเรกฤทธิ์ กล่าว
นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวถึงดีลลับก่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีว่า เป็นเรื่องปกติอาจจะเรียกว่าการดีลกัน การล็อบบี้กันหรือการให้ข้อมูลกัน การประสานงานกัน ใช้คำไหนก็ได้ แต่สำหรับตนเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่ในองค์กรมีสมาชิกจำนวนมาก ก็จะต้องใช้เสียงข้างมาก ประเด็นความไม่เข้าใจแต่ละฝ่ายก็จะต้องอธิบายกันหรือแม้กระทั่งไปเชิญชวนกัน คิดว่าไม่ได้มีประเด็นสำคัญ การล็อบบี้กันมองเป็นเรื่องปกติและในระบอบประชาธิปไตยสามารถทำได้
ส่วนที่มีการกล่าวหาว่ามีการแจกกล้วยให้ สว. นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าพูดเล่นหรือพูดจริง ซึ่งข้อกล่าวหานี้เคยมีในสภาผู้แทนราษฎรและอาจจะมาพาดพิงถึงสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งตนและสมาชิกวุฒิสภาหลายคนได้พูดคุยกันและคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องตลกมากกว่า ไม่สามารถเป็นความจริงได้ เพราะคนที่จะมาเป็นวุฒิสภา ต้องมีเกียรติภูมิ เกียรติประวัติ มีชื่อเสียงวงตระกูล สิ่งที่ทำมาจนมีอายุถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าทำในสิ่งที่ผิดศีลธรรม ผิดจริยธรรม และรับเงินเพื่อทำหน้าที่ให้ผิดเพี้ยนไป คิดว่าไม่มีใครทำและคงไม่มีใครกล้าเสนอด้วย เพราะยุคนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสารไม่มีความลับใดในโลก สุดท้ายถ้าทำผิดตัวเองก็จะมีมลทิน ชื่อชื่อเสียงวงตระกูลก็จะเสื่อมเสียไปด้วย
ส่วนที่เสียงโหวตของ สว.มีความแตกแยก จะเป็นอุปสรรคปัญหาในการทำงานในอนาคตหรือไม่ นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า การทำงานในสภาคือการทำงานของคนที่มีความเห็นต่าง และอาศัยมติของเสียงข้างมากอยู่แล้ว ไม่เห็นว่าการที่มีความเห็นต่างกันจะเป็นความผิดปกติ นี่คือความงดงามแล้ว แต่ที่มีเสียงเป็นกลุ่มเป็นก้อนนี่เป็นเรื่องของการทำงาน เวลามีประเด็นที่ต้องลงมติ ก็มีการแลกเปลี่ยนกันอาจจะมีการไปเป็นกลุ่มก้อน ไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติ จนทำให้ประชาชนเข้าใจเป็นลบ กับการทำหน้าที่สมาชิกวุฒิสภา
สำหรับจุดยืนของการทำงานร่วมกันระหว่าง สว.กับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีจุดยืนอะไรในสมาชิกวุฒิสภา จุดยืนที่เหมือนกันคือทำเพื่อประเทศชาติ ถ้าถามว่าจะมีมติที่แตกต่างกันแบบนี้ในทุกเรื่องหรือไม่ ก็ต้องดูเป็นเรื่องๆไป ตนคิดว่าประชาธิปไตยของเราไปได้สวยแล้วทุกคนเคารพกติกา แม้แต่ผู้ที่ทำรัฐประหารออกกติกาโดยการจัดให้มีการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และลงมาเล่น ในสนามเลือกตั้งเคารพประชาชน ถึงเวลาก็ลง ก็วางมือ ให้พรรคที่จะสร้างเป็นสถาบันทางการเมือง ส.ส.ที่ประชาชนเลือกเข้ามา ต่างคนต่างเป็นผู้แทนประชาชนทั้งประเทศอยู่แล้วดำเนินการร่วมกันตามกลไกปกติของประชาธิปไตย
“ยินดีมาก ๆ ยินดีกับรัฐบาลใหม่ ยินดีกับคนไทยทุกคน และขอให้เป็นรัฐบาลของประชาชนรับฟังความเห็นของคนทุกฝ่าย โดยเฉพาะเสียงข้างน้อยที่อาจจะเห็นต่าง ที่มองในมุมว่าเป็นความหวังดี เป็นประโยชน์ ให้ประชาชนได้ตรวจสอบเราได้มีฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง เสนออะไรมาไม่ใช่ว่าต้องยืนคนละฝ่าย ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลถ้าเป็นเรื่องดีๆเราก็ต้องสนับสนุน ประเทศเราก็จะไปได้ดี ทุกคนทั่วโลกกำลังจับตาดูอยู่ การลงทุน การท่องเที่ยว ต้องขอบคุณนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่อยู่นาน มีผลงานเยอะ ที่เป็นพื้นฐานไม่ว่ารัฐบาลไหนมาก็จะต่อยอดต่อไปได้” นายดิเรกฤทธิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย