“ภูมิธรรม” รับต่อสายคุยตลอดกับ “รวมไทยสร้างชาติ”

พรรคเพื่อไทย 17 ส.ค.-“ภูมิธรรม” รับต่อสายคุย “รวมไทยสร้างชาติ” เจรจาหนุนเพื่อไทยตลอด บอกก่อนโหวต 22 ส.ค. ทุกพรรคต้องประกาศชัด ปัดดีลไม่จบเพราะแบ่งเก้าอี้ ครม.ไม่ลงตัว ย้ำไม่หวั่น “ชูวิทย์” ขู่แฉ “เศรษฐา” ภาคจบ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามาที่พรรคเพื่อไทยในช่วงเวลา 16.00 น. หลังมีกระแสข่าวว่าวันนี้(17 ส.ค.) พรรคเพื่อไทยได้ไปพูดคุยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ในการจัดตั้งรัฐบาล


โดย เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในวันนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรครวมไทยสร้างชาติใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า “ก็คุยกันอยู่เรื่อยๆ”

เมื่อถามถึงกรณีที่นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ทำนองว่า ไม่อยากให้นัดแถลงจิบกาแฟโชว์บ่อย ชาวบ้านรำคาญ แนะ 3-4 วันนี้เอาให้จบทีเดียวนั้น จะดูเหมือนเป็นคำพูดที่แรงไปหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลก็คุยกันอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะพรรคที่อยากจะร่วมมือกัน ก็ต้องหารือกันต่อเนื่อง แล้วต้องใช้เวลาคุยกันไปเรื่อยๆ


ส่วนความเห็นของ สว.ที่ระบุว่า อยากให้นายอนุทิน ชาญวีรกุล เป็นนายกฯ เพราะว่ามีความสดกว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายภูมิธรรม ตอบว่า อย่าไปคิดอะไรที่มันข้ามขั้นตอน แล้วยังเชื่อว่านายเศรษฐา ไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่าทำไมตอนนี้ยังไม่มีการคุยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนก็ไม่ได้บอกว่าไม่ได้คุย พร้อมย้ำว่า ยังคุยกันเรื่อยๆ และเชื่อมั่นว่าเป็นไปในทางที่ดี สิ่งที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล และพรรคเพื่อไทยก็เลือกคนที่มีความเหมาะสม ความสามารถที่มีอยู่จะแก้ไขปัญหาของประเทศในยามความวิกฤตได้

“ส่วนพรรคร่วมที่จะตั้งรัฐบาลด้วยกัน ก็คุยกันมาอย่างต่อเนื่อง และคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร ที่ว่าอย่างนู้นอย่างนี้ก็เป็นสิ่งที่ ของจริงมันอยู่ที่การคุยกันจริงๆ” นายภูมิธรรม กล่าว


เมื่อถามย้ำว่า เหมือนพรรครวมไทยสร้างชาติ อยากจะให้มีการนัดเจรจาอย่างเป็นทางการ นายภูมิธรรม ตอบว่า ตนไม่ทราบว่าใครมีอำนาจพูดคุยตรง เพราะว่าการพูดคุยกันต้องมีการสื่อสารภายใน แต่อย่างไรก็ตามการพูดคุยกันต้องเอาวาระของประเทศเป็นที่สิ่งสำคัญ และจะร่วมมือกันอย่างไร

ส่วนบางกระแสข่าวที่มองว่า การจับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติจะเป็นไปได้ยาก นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่น่าจะไปฟังการคาดการณ์อะไร อยู่ที่ความเป็นจริงมากกว่า ขอให้รอความเป็นจริง

ผู้สื่อข่าวถามถึงการพูดคุยกันนั้น ที่ยังเจรจาต่อรองกันไม่ได้เป็นเพราะโควตากระทรวงต่างๆ ที่ยังไม่ลงตัวหรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันยังไม่เคยลงลึกไปถึงเรื่องกระทรวงต่างๆ เพียงแค่คุยว่าทั้งหมดจะร่วมกันจับมือเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติกันไปได้อย่างไร ที่สำคัญคือวิกฤติที่เป็นปัญหาของประชาชน รวมถึงการสลายความขัดแย้ง ถ้าหากได้ทำงานร่วมกันก็จะเป็นสิ่งที่ดี

ส่วนกรณีที่พรรคร่วมหลายพรรคต้องการที่จะมีการจัดสรรแบ่งกระทรวงให้จบก่อนจะโหวตนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม ถามกลับว่า “ใคร ครับที่ว่า” ก่อนย้ำว่าตนได้ยกหูโทรศัพท์ คุยกันทุกวันแต่ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ตนก็ยังงงอยู่ เราก็เปิดใจคุยกันตรงๆ อยู่แล้ว ไม่น่าจะกังวลอะไรอย่างที่สื่อกังวล

ส่วนกรณีที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา มีความกังวลเรื่องคุณสมบัติของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม ระบุว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกันจนกว่าจะถึงวันโหวต เราก็พร้อม แคนดิเดตนายกฯ ของเราก็พร้อมที่จะชี้แจงตรงนี้ ยืนยันไม่น่ากังวล

ส่วนมั่นใจว่าในการโหวตวันที่ 22 สิงหาคมนี้ พรรคเพื่อไทยจะได้เสียงตามที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่ รวมถึงต้องรอดูท่าทีพรรครวมไทยสร้างชาติด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่า ตนยังเชื่อมั่นว่าดุลยพินิจของสมาชิกวุฒิสภา และ สส. ถ้าเห็นความตั้งใจและความพยายามของพรรคเพื่อไทยในการที่จะทำงาน ก็คิดว่าจะให้ความไว้วางใจ และพรรคเพื่อไทยก็ได้ประกาศจุดยืนชัดเจนแล้วว่าเรามาครั้งนี้พร้อมจะแก้ไขปัญหาวิกฤติประเทศ และคนของเราไม่ได้มีความสามารถหรือศักยภาพแค่แคนดิเดตเพียงคนเดียว พรรคเพื่อไทยก็พร้อมที่จะคลี่คลายเรื่องนี้ ส่วนเรื่องความร่วมมือตนคิดว่าทุกอย่างเป็นไปในทางบวก ทุกคนรู้ว่าปัญหาสั่งสมมา จะต้องรีบแก้ไข ที่ตนยืนยันคือเราคุยกันในกรอบใหญ่ๆ ว่ามองเห็นวิกฤตเหมือนกันหรือไม่ และการมาร่วมมือกัน จะทำงานร่วมกันได้อย่างไร เรื่องที่เคยไม่เข้าใจกัน มีปัญหากัน ควรจะคลี่คลายไป เพราะวิกฤตที่เป็นความขัดแย้งอยู่มานานเกือบ 2 ทศวรรษแล้ว ตนมองว่าถ้าทำทำใจให้กว้าง มองปัญหาประเทศเป็นหลัก การแก้วิกฤตต่างๆก็จะมีโอกาสแก้ได้ แต่ถ้ายังติดขัดอยู่ที่ความรู้สึกว่า เราไม่ชอบเขา เขาไม่ชอบเรา คนนั้นไม่ดี คนนี้ไม่ดี ก็มีถทำให้การแก้ปัญหายากลำบากมากขึ้น วันนี้คนไทยเดือดร้อนมามากแล้ว ถ้าเปิดใจเอางานของประชาชน ประเทศเป็นหลัก ทุกอย่างจะคลี่คลายไปได้เรื่อยๆ

ส่วนมีแผนสำรองหรือไม่ หากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 สิงหาคมไม่เป็นไปตามคาดหมาย นายภูมิธรรมระบุว่าไม่มีแผน คิดว่าผ่าน 375 เสียงได้

ส่วนกรณีพรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงข่าวในช่วงเย็นวันนี้ หากยังไม่มีความชัดเจนร่วมโหวตนายกฯ ให้เพื่อไทยออกไปก่อน พรรคเพื่อไทยมีการประเมินไว้อย่างไรนั้น นายภูมิธรรมระบุว่าตนไม่อยากคาดเดาสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่เท่าที่ประสานงานกันมาตลอด ก็ไม่ค่อยรู้สึกว่าจะเป็นปัญหา รู้สึกว่ามีเป้าหมายในการทำงานร่วมกัน การคุยเป็นทางการก็ได้เริ่มต้นแล้ว และได้คุยกับทุกพรรคเรื่อยๆ การคุยต้องทำความเข้าใจกันหลายเรื่อง ที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไร เป็นไปด้วยดีทั้งหมด

เมื่อถามว่าหากไม่รวมเสียงจากพรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง จะได้เสียงถึง 375 หรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่าถ้าประกาศว่ามีกี่พรรค กี่คน ก็ได้เท่านั้น ซึ่งก่อนโหวตก็จะมีการประกาศความชัดเจน ส่วนจะเป็นรูปแบบไหนขอให้รอดู ไม่เกินวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคมนี้ แต่จะเป็นภาพแบบใดยังไม่ทราบ แต่ทุกคนต้องยืนยันสิ่งที่เขาคิด ตนเชื่อว่าวันที่ 22 ที่เป็นวันโหวต ทุกพรรคต้องแสดงจุดยืนที่ชัดเจน

ส่วนที่รวมไทยสร้างชาติบอกว่ายังไม่ได้ตั้งข้อสรุป เนื่องจากรอความชัดเจนเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีของนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์นั้น จะต้องเคลียร์เรื่องนี้อย่างไร นายภูมิธรรมบอกว่าไม่เคลียร์ เป็นเรื่องของพรรครวมไทยสร้างชาติ เราก็ต้องเคารพ คิดว่าไม่ใช่เรื่องของพรรคเพื่อไทย กระบวนการคุยยังเป็นไปเรื่อยๆ มีบางส่วนที่จบไปแล้วบ้าง เชื่อว่าเสียงน่าจะผ่าน

ส่วนวันนี้ได้มีการคุยกับหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่าก็คุยกันทุกวัน ยืนยันวันนี้ยังไม่ได้เจอกันเพราะวันนี้เดิตทางมาจากบ้าน

ส่วนที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ เตรียมแฉนายเศรษฐา ครั้งที่ 3 เป็นครั้งสุดท้าย ในวันจันทร์นี้ นายภูมิธรรมระบุว่าไม่ได้มีความกังวล นายชูวิทย์เป็นนักการตลาดที่มีความสามารถก็ทำหน้าที่ไป ใครที่ถูกกล่าวหาก็มีหน้าที่ทำความเข้าใจ ถ้าถูกละเมิดก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่ได้กังวลอะไร ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย

ส่วนการเดินทางกลับประเทศไทยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ที่มีบางกระแสระบุว่า จะกลับมาในช่วงใกล้วันโหวตนายกฯ นั้น ขอให้ไปถามคนในครอบครัว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]