“ภูมิธรรม” รับต่อสายคุยตลอดกับ “รวมไทยสร้างชาติ”

พรรคเพื่อไทย 17 ส.ค.-“ภูมิธรรม” รับต่อสายคุย “รวมไทยสร้างชาติ” เจรจาหนุนเพื่อไทยตลอด บอกก่อนโหวต 22 ส.ค. ทุกพรรคต้องประกาศชัด ปัดดีลไม่จบเพราะแบ่งเก้าอี้ ครม.ไม่ลงตัว ย้ำไม่หวั่น “ชูวิทย์” ขู่แฉ “เศรษฐา” ภาคจบ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามาที่พรรคเพื่อไทยในช่วงเวลา 16.00 น. หลังมีกระแสข่าวว่าวันนี้(17 ส.ค.) พรรคเพื่อไทยได้ไปพูดคุยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ในการจัดตั้งรัฐบาล


โดย เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในวันนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรครวมไทยสร้างชาติใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า “ก็คุยกันอยู่เรื่อยๆ”

เมื่อถามถึงกรณีที่นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ทำนองว่า ไม่อยากให้นัดแถลงจิบกาแฟโชว์บ่อย ชาวบ้านรำคาญ แนะ 3-4 วันนี้เอาให้จบทีเดียวนั้น จะดูเหมือนเป็นคำพูดที่แรงไปหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลก็คุยกันอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะพรรคที่อยากจะร่วมมือกัน ก็ต้องหารือกันต่อเนื่อง แล้วต้องใช้เวลาคุยกันไปเรื่อยๆ


ส่วนความเห็นของ สว.ที่ระบุว่า อยากให้นายอนุทิน ชาญวีรกุล เป็นนายกฯ เพราะว่ามีความสดกว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายภูมิธรรม ตอบว่า อย่าไปคิดอะไรที่มันข้ามขั้นตอน แล้วยังเชื่อว่านายเศรษฐา ไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่าทำไมตอนนี้ยังไม่มีการคุยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนก็ไม่ได้บอกว่าไม่ได้คุย พร้อมย้ำว่า ยังคุยกันเรื่อยๆ และเชื่อมั่นว่าเป็นไปในทางที่ดี สิ่งที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล และพรรคเพื่อไทยก็เลือกคนที่มีความเหมาะสม ความสามารถที่มีอยู่จะแก้ไขปัญหาของประเทศในยามความวิกฤตได้

“ส่วนพรรคร่วมที่จะตั้งรัฐบาลด้วยกัน ก็คุยกันมาอย่างต่อเนื่อง และคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร ที่ว่าอย่างนู้นอย่างนี้ก็เป็นสิ่งที่ ของจริงมันอยู่ที่การคุยกันจริงๆ” นายภูมิธรรม กล่าว


เมื่อถามย้ำว่า เหมือนพรรครวมไทยสร้างชาติ อยากจะให้มีการนัดเจรจาอย่างเป็นทางการ นายภูมิธรรม ตอบว่า ตนไม่ทราบว่าใครมีอำนาจพูดคุยตรง เพราะว่าการพูดคุยกันต้องมีการสื่อสารภายใน แต่อย่างไรก็ตามการพูดคุยกันต้องเอาวาระของประเทศเป็นที่สิ่งสำคัญ และจะร่วมมือกันอย่างไร

ส่วนบางกระแสข่าวที่มองว่า การจับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติจะเป็นไปได้ยาก นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่น่าจะไปฟังการคาดการณ์อะไร อยู่ที่ความเป็นจริงมากกว่า ขอให้รอความเป็นจริง

ผู้สื่อข่าวถามถึงการพูดคุยกันนั้น ที่ยังเจรจาต่อรองกันไม่ได้เป็นเพราะโควตากระทรวงต่างๆ ที่ยังไม่ลงตัวหรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันยังไม่เคยลงลึกไปถึงเรื่องกระทรวงต่างๆ เพียงแค่คุยว่าทั้งหมดจะร่วมกันจับมือเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติกันไปได้อย่างไร ที่สำคัญคือวิกฤติที่เป็นปัญหาของประชาชน รวมถึงการสลายความขัดแย้ง ถ้าหากได้ทำงานร่วมกันก็จะเป็นสิ่งที่ดี

ส่วนกรณีที่พรรคร่วมหลายพรรคต้องการที่จะมีการจัดสรรแบ่งกระทรวงให้จบก่อนจะโหวตนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม ถามกลับว่า “ใคร ครับที่ว่า” ก่อนย้ำว่าตนได้ยกหูโทรศัพท์ คุยกันทุกวันแต่ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ตนก็ยังงงอยู่ เราก็เปิดใจคุยกันตรงๆ อยู่แล้ว ไม่น่าจะกังวลอะไรอย่างที่สื่อกังวล

ส่วนกรณีที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา มีความกังวลเรื่องคุณสมบัติของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม ระบุว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกันจนกว่าจะถึงวันโหวต เราก็พร้อม แคนดิเดตนายกฯ ของเราก็พร้อมที่จะชี้แจงตรงนี้ ยืนยันไม่น่ากังวล

ส่วนมั่นใจว่าในการโหวตวันที่ 22 สิงหาคมนี้ พรรคเพื่อไทยจะได้เสียงตามที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่ รวมถึงต้องรอดูท่าทีพรรครวมไทยสร้างชาติด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่า ตนยังเชื่อมั่นว่าดุลยพินิจของสมาชิกวุฒิสภา และ สส. ถ้าเห็นความตั้งใจและความพยายามของพรรคเพื่อไทยในการที่จะทำงาน ก็คิดว่าจะให้ความไว้วางใจ และพรรคเพื่อไทยก็ได้ประกาศจุดยืนชัดเจนแล้วว่าเรามาครั้งนี้พร้อมจะแก้ไขปัญหาวิกฤติประเทศ และคนของเราไม่ได้มีความสามารถหรือศักยภาพแค่แคนดิเดตเพียงคนเดียว พรรคเพื่อไทยก็พร้อมที่จะคลี่คลายเรื่องนี้ ส่วนเรื่องความร่วมมือตนคิดว่าทุกอย่างเป็นไปในทางบวก ทุกคนรู้ว่าปัญหาสั่งสมมา จะต้องรีบแก้ไข ที่ตนยืนยันคือเราคุยกันในกรอบใหญ่ๆ ว่ามองเห็นวิกฤตเหมือนกันหรือไม่ และการมาร่วมมือกัน จะทำงานร่วมกันได้อย่างไร เรื่องที่เคยไม่เข้าใจกัน มีปัญหากัน ควรจะคลี่คลายไป เพราะวิกฤตที่เป็นความขัดแย้งอยู่มานานเกือบ 2 ทศวรรษแล้ว ตนมองว่าถ้าทำทำใจให้กว้าง มองปัญหาประเทศเป็นหลัก การแก้วิกฤตต่างๆก็จะมีโอกาสแก้ได้ แต่ถ้ายังติดขัดอยู่ที่ความรู้สึกว่า เราไม่ชอบเขา เขาไม่ชอบเรา คนนั้นไม่ดี คนนี้ไม่ดี ก็มีถทำให้การแก้ปัญหายากลำบากมากขึ้น วันนี้คนไทยเดือดร้อนมามากแล้ว ถ้าเปิดใจเอางานของประชาชน ประเทศเป็นหลัก ทุกอย่างจะคลี่คลายไปได้เรื่อยๆ

ส่วนมีแผนสำรองหรือไม่ หากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 สิงหาคมไม่เป็นไปตามคาดหมาย นายภูมิธรรมระบุว่าไม่มีแผน คิดว่าผ่าน 375 เสียงได้

ส่วนกรณีพรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงข่าวในช่วงเย็นวันนี้ หากยังไม่มีความชัดเจนร่วมโหวตนายกฯ ให้เพื่อไทยออกไปก่อน พรรคเพื่อไทยมีการประเมินไว้อย่างไรนั้น นายภูมิธรรมระบุว่าตนไม่อยากคาดเดาสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่เท่าที่ประสานงานกันมาตลอด ก็ไม่ค่อยรู้สึกว่าจะเป็นปัญหา รู้สึกว่ามีเป้าหมายในการทำงานร่วมกัน การคุยเป็นทางการก็ได้เริ่มต้นแล้ว และได้คุยกับทุกพรรคเรื่อยๆ การคุยต้องทำความเข้าใจกันหลายเรื่อง ที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไร เป็นไปด้วยดีทั้งหมด

เมื่อถามว่าหากไม่รวมเสียงจากพรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง จะได้เสียงถึง 375 หรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่าถ้าประกาศว่ามีกี่พรรค กี่คน ก็ได้เท่านั้น ซึ่งก่อนโหวตก็จะมีการประกาศความชัดเจน ส่วนจะเป็นรูปแบบไหนขอให้รอดู ไม่เกินวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคมนี้ แต่จะเป็นภาพแบบใดยังไม่ทราบ แต่ทุกคนต้องยืนยันสิ่งที่เขาคิด ตนเชื่อว่าวันที่ 22 ที่เป็นวันโหวต ทุกพรรคต้องแสดงจุดยืนที่ชัดเจน

ส่วนที่รวมไทยสร้างชาติบอกว่ายังไม่ได้ตั้งข้อสรุป เนื่องจากรอความชัดเจนเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีของนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์นั้น จะต้องเคลียร์เรื่องนี้อย่างไร นายภูมิธรรมบอกว่าไม่เคลียร์ เป็นเรื่องของพรรครวมไทยสร้างชาติ เราก็ต้องเคารพ คิดว่าไม่ใช่เรื่องของพรรคเพื่อไทย กระบวนการคุยยังเป็นไปเรื่อยๆ มีบางส่วนที่จบไปแล้วบ้าง เชื่อว่าเสียงน่าจะผ่าน

ส่วนวันนี้ได้มีการคุยกับหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่าก็คุยกันทุกวัน ยืนยันวันนี้ยังไม่ได้เจอกันเพราะวันนี้เดิตทางมาจากบ้าน

ส่วนที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ เตรียมแฉนายเศรษฐา ครั้งที่ 3 เป็นครั้งสุดท้าย ในวันจันทร์นี้ นายภูมิธรรมระบุว่าไม่ได้มีความกังวล นายชูวิทย์เป็นนักการตลาดที่มีความสามารถก็ทำหน้าที่ไป ใครที่ถูกกล่าวหาก็มีหน้าที่ทำความเข้าใจ ถ้าถูกละเมิดก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่ได้กังวลอะไร ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย

ส่วนการเดินทางกลับประเทศไทยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ที่มีบางกระแสระบุว่า จะกลับมาในช่วงใกล้วันโหวตนายกฯ นั้น ขอให้ไปถามคนในครอบครัว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด

ก.ต่างประเทศ 15 ส.ค.-กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด เผย 1 เดือน ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดแล้ว 5 ครั้ง มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเป็นทุ่นใหม่ ไม่ใช่มรดกสงคราม ย้ำไทยมุ่งใช้กลไกทวิภาคี แก้ปมชายแดน จี้หยุดบิดเบือนเฟกนิวส์ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงหลังการบรรยายสรุปแก่คณะทูต องค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านทุ่นระเบิดว่า การบรรยายสรุปในวันนี้ (15 ส.ค.) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ข้อเท็จจริงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้พหารไทยหลายท่านได้รับบาดเจ็บถึงขั้นทุพพลภาพถาวร และสร้างความเสี่ยงต่อชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดน และเพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทยในเรื่องนี้ โดยได้เชิญคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนและรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา รวมทั้งผู้แทนองค์การระหว่างประเทศและองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเข้าร่วม โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟัง 67 คน จาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การ นายนิกรเดช กล่าวว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้กล่าวเปิดผ่านวิดีโอคลิป เนื่องจากขณะนี้ท่านติดการกิจอยู่ระหวางเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ที่เมืองอันหนิง ประเทศจีน ซึ่งประเทศไทยทำหน้าที่ประธานการประชุมร่วมกับจีน หลังจากนั้นเป็นการบรรยายของนายรัศม์ […]

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย