ลงพื้นที่พบเกษตรกร ไม่ได้ตั้งแก๊งฟื้นวังน้ำยม

รัฐสภา 17 ส.ค.-“สมศักดิ์” ไม่สบายใจข่าวฟื้นกลุ่มวังน้ำยม ยันไม่เป็นความจริง ลงพื้นที่กับกลุ่ม สส.เพื่อรับฟังปัญหาเกษตรกรนำมาส่งต่อรัฐบาลแก้ไข รับถนัดงานก.เกษตร คาดดีลพรรคร่วมจบ 1-2 วันนี้


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  ชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวเดินสายเปิดตัวกลุ่มวังน้ำยมภาคใหม่ หวังนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ว่า เห็นการวิเคราะห์ของสื่อมวลชนแห่งหนึ่งถึงประเด็นการรื้อกลุ่มวังน้ำยมกลับมา ทำให้รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เพราะการวิเคราะห์ที่พยายามเชื่อมโยงว่าตนกำลังรวบรวมขุมกำลัง เพื่อต่อรองตำแหน่งนั้นไม่เป็นความจริง และอาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้งขึ้นภายในพรรคเพื่อไทยได้ รวมถึงมีการนำรายชื่อส.ส.ที่ร่วมลงพื้นที่ในหลายจังหวัดมานำเสนอให้ดูมีน้ำหนักว่ารวมกลุ่มกันต่อรองตำแหน่ง ซึ่งอาจส่งผลให้ส.ส.ได้รับความเสียหาย เพราะคณะยุทธศาสตร์การเกษตร พรรคเพื่อไทยลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาและนำไปสู่การแก้ไข ไม่ใช่การตั้งก๊กหรือ รวมกลุ่ม

“การลงพื้นที่รับฟังปัญหาเกษตรกรของผมกับคณะยุทธศาสตร์การเกษตร พรรคเพื่อไทยนั้น สส.ทุกคนมีความตั้งใจมากที่จะทำงานให้กับพรรคและสังคม ประกอบกับผมเองเป็นคนไม่เคยหยุดนิ่งตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งยันเลือกตั้งจบก็ทำงานรับฟังปัญหาของประชาชนมาตลอด ทำให้พี่น้องประชาชนรับทราบว่าพรรคเพื่อไทยมีความใส่ใจในความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรเป็นอย่างมาก จึงรีบลงพื้นที่ เพื่อรวบรวมปัญหาและเตรียมนำเสนอต่อรัฐบาลให้แก้ปัญหาต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน แต่การถูกนำไปวิเคราะห์ทางการเมืองในลักษณะนี้ ผมมองว่าไม่เป็นผลดี เพราะจะทำให้คนทำงานในพื้นที่ต่าง ๆ เสียกำลังใจ ผมจึงขอปฏิเสธตรงนี้และขอยืนยันว่าไม่เคยไปตั้งกลุ่มตั้งแก๊งรวมก้อน เพื่อไปต่อรองตำแหน่งใด ๆ ทั้งสิ้น มีแต่ช่วยกันลงพื้นที่พบปะกับพี่น้องประชาชนเท่านั้น” นายสมศักดิ์ กล่าว


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวและเรื่องราวดี ๆ ของตนมาโดยตลอด แต่การวิเคราะห์ของสื่อมวลชนแห่งหนึ่งครั้งนี้ ทำให้ต้องรีบออกมาอธิบาย เพราะอาจจะส่งผลเสียให้กับเพื่อนสมาชิกส.ส.ที่ตั้งใจทำงานอย่างหนัก โดยการวิเคราะห์ที่พยายามเชื่อมโยงต่าง ๆ นั้น ขอย้ำว่า ไม่มีมูลความจริงแม้แต่น้อย เพราะไม่เคยไปต่อรองตำแหน่งใด ๆ ทั้งสิ้น การแต่งตั้งรัฐมนตรีเป็นอำนาจของพรรคการเมือง ที่ต้องสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถพร้อมทำงาน โดยจะเห็นได้ว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของพรรค ตนไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำได้ตอนนี้ คือทำงานในนามพรรคให้หนัก ในเรื่องที่ถนัด คือ การเกษตร เพื่อหวังว่าพี่น้องเกษตรกรจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีรายได้เพิ่มมากขึ้น จึงขออย่านำความตั้งใจดีของส.ส.ไปเชื่อมโยงทางการเมืองให้เกิดบรรยากาศที่ไม่ดีขึ้น เพราะเหมือนจะเป็นการด้อยค่าการตั้งใจทำงานของเรา ที่คิดถึงแต่ผลประโยชน์ของพี่น้องเกษตรกรเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อตัวเราเอง

เมื่อถามย้ำว่า สถานะของกลุ่มวังน้ำยทตอนนี้มีจริงหรือไม่ นายสมศักดิ์ ยืนยันว่าไม่มีกลุ่มดังกล่าว การเขียนข่าวแบบนี้ไม่ทันสมัยและเหมือนวู่วามไปหน่อย

เมื่อถามว่าสนใจเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เก้าอี้รัฐมนตรีเป็นเรื่องธรรมดาของนักการเมือง ทุกคนอยากทำงานในส่วนที่ตัวเองคิดว่าช่วยประชาชนได้ คงไม่ใช่แค่ตนหรือคนใดคนหนึ่ง ทุกคนล้วนอยากทำงานที่ตัวเองถนัด ไม่อยากทำแล้วถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องงาน และตนไม่ใช่คนอยู่นิ่ง อย่างรัฐบาลที่แล้ว ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คนก็ตั้งข้อสังเกตว่าตนจะทำได้ไหม แต่เมื่อทำตนก็ไม่อยู่นิ่ง จะต้องทำให้เดินหน้าให้ได้


ส่วนจำเป็นหรือไม่ที่เก้าอี้กระทรวงเกษตรฯ จะต้องอยู่กับพรรคเพื่อไทย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่สามารถตอบได้ แต่ดูเหมือนว่าหลายพรรคอยากได้ แต่ในการจัดตั้งรัฐบาลรู้อยู่แล้วว่าอะไรจำเป็น ไม่จำเป็น ขอให้ดูความต้องการ แต่คนต่างจังหวัดอยากได้กระทรวงเกษตรฯ คนในเมืองอาจจะไม่เห็นความสำคัญเท่ากระทรวงอื่น เพราะคนต่างจังหวัดผูกพันกับเรื่องของเกษตรกรรมมาก

ส่วนความคืบหน้าการดีลจัดตั้งรัฐบาล และจัดสรรตำแหน่งเก้าอี้รัฐมนตรีนั้น นายสมศักดิ์ ระบุว่า เมื่อมีการกำหนดวันโหวตเลือกนายกฯ 22 ส.ค. 66 ก็เชื่อว่าการตกลงเก้าอี้รัฐมนตรีจะจบภายใน 1-2 วันนี้

เมื่อถามว่า การดีลไม่ลงตัวหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะตนไม่ได้อยู่ในทีมเจรจา และข่าวที่ออกมาแต่ละวันสร้างความสับสนให้กับผู้คน แต่มองว่าดีลจะจบก่อนโหวตเลือกนายกฯ เพราะพรรคร่วมต้องการอย่างนั้น พรรคแกนหลักก็ต้องตอบสนองในส่วนที่ทำได้

ส่วนความชัดเจนพรรครวมไทยสร้างชาติจะมาร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่  หลังจากนายสมศักดิ์ไปพูดคุยกับ นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ไปเชิญมาร่วมรัฐบาล เพียงแค่เจอกันก็พูดคุยกัน แต่ใน 1-2 วันนี้ ไม่มีความคืบหน้า.-สำนักข่าวไทย      

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]