รทสช. 15 ส.ค.-โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เผยมีสัญญาณบวกจากเพื่อไทย เชิญร่วมรัฐบาล ยันพร้อมทำงาน แต่ต้องคุยก่อนโหวต และไม่ร่วมกับก้าวไกล
นายอัครเดชวงศ์ พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุม สส. และกรรมการบริหารพรรคว่าในที่ประชุม นายพีระพันธ์สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคได้พูดถึงเรื่องของการร่วมรัฐบาล ซึ่งทางพรรครวมไทยสร้างชาติได้รอให้ทางพรรคแกนนำคือพรรคเพื่อไทยติดต่อประสานงานมา เพื่อพูดคุยอย่างเป็นทางการ แต่ปัจจุบันนี้ยังไม่มีการประสานงานมา จึงยังไม่มีการพูดคุยในรายละเอียด แต่ทางพรรคมีจุดยืนว่าพร้อมที่จะทำงานกับพรรคการเมือง ที่ไม่มีพรรคก้าวไกล ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ดังนั้นหากไม่มีพรรคก้าวไกลอยู่ในแนวทางนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติก็พร้อมที่จะทำงานร่วม และในส่วนของการร่วมรัฐบาลนั้นทางพรรคได้แจ้งให้ทางส.ส.ของพรรคเตรียมพร้อมในการที่จะพิจารณาในการโหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่ง สสของพรรคก็พร้อมที่จะประชุม และลงมติ
วันนี้ หัวหน้าพรรคได้แจ้งในที่ประชุมชัดเจนว่า หากจะให้ไปร่วมในการสนับสนุนจัดตั้งรัฐบาล จะต้องมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการก่อน และที่สำคัญเราได้รับสัญญาณบวกจากทางพรรคเพื่อไทย ที่กระบวนการในการเจรจา ได้มีการส่งสัญญาณมาว่าพร้อมที่จะมาเชิญพรรครวมไทยสร้างชาติไปร่วมรัฐบาลซึ่งทางเราก็พร้อมที่จะพูดคุยเจรจาในการที่จะร่วมรัฐบาลเพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้และสร้างความมั่นคงให้กับรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
“ตอนนี้ชี้แจงชัดเจนจะต้องมีการพูดคุยและเชิญอย่างเป็นทางการก่อน และเชื่อว่ากระบวนการพูดคุยน่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้” โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าว
ส่วนเรื่องของตำแหน่งหรือสัดส่วนกระทรวงนั้น โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติกล่าวว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจากพรรคเพื่อไทย เพียงแต่ได้รับสัญญาณ จากพรรคเพื่อไทยว่าจะมาเชิญพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ทางพรรคจะต้องรอเชิญอย่างเป็นทางการ แล้วพูดคุยอย่างเป็นทางการ และยืนยันยังไม่ได้พูดถึงเรื่องของการแบ่งกระทรวง หรือแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรี และพร้อมให้ความร่วมมือ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านพรรคก็พร้อมทำหน้าที่ ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล
สำหรับสัดส่วนรัฐมนตรีนั้นหากมีการหารกันก็เป็นไปตามคณิตศาสตร์ทางการเมืองที่ สส 9 คนต่อรัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง ซึ่งพรรคมีสส 36 คนก็ลองหารดู อย่างไรก็ตาม พรรคยังไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้ กับพรรคเพื่อไทย เพียงแต่หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคได้พูดคุยกับสส. และขอยืนยันว่าพร้อมที่จะทำหน้าที่ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ส่วนการตัดสินใจว่าใครจะนั่งตำแหน่งใดนั้นเป็นเรื่องที่กรรมการบริหารพรรคจะต้องเป็นผู้พิจารณา
สำหรับวันประชุมเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น นายอัครเดชกล่าวว่า การจะ ประชุมในวันไหน ต้องอยู่ที่เงื่อนไขว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมาอย่างไร ในวันพรุ่งนี้ (16ส.ค.)จากนั้นขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภาว่าจะนัดประชุมวันไหน ซึ่งหากนัดเร็ว โอกาสในการพูดคุยก็น่าจะเกิดขึ้นเร็ว.-สำนักข่าวไทย