‘ก้าวไกล’ จัดเวทีเปิดตัว ‘โย พงศธร’ ลงเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง เขต 3

ระยอง 14 ส.ค. – สิบกันยากาโย! ‘ก้าวไกล’ จัดเวทีเปิดตัว ‘โย พงศธร’ ลงเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง เขต 3 ‘พิธา’ ย้ำพร้อมเป็นสะพานเชื่อมคนทุกรุ่น เลือก “โย” ให้เป็นผู้แทนฯ ที่ประชาชนภูมิใจ ด้าน ‘ชัยธวัช’ ชี้การเมืองตอนนี้เกรงใจทุกคน ยกเว้นประชาชน ปลุกกาก้าวไกล ยืนยันเจ้านายมีหนึ่งเดียวคือประชาชน


วันที่ 13 สิงหาคม 2566 แกนนำพรรคก้าวไกล ประกอบด้วย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค เบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหาร สัดส่วนภาคตะวันออก และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยนายนครชัย ขุนณรงค์ อดีต สส.ระยอง เขต 3 ซึ่งลาออกไปก่อนหน้านี้ ร่วมเวทีปราศรัยที่ตลาดนัดคลองถมแกลง อ.แกลง จ.ระยอง เพื่อเปิดตัว นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ เป็นว่าที่ผู้สมัคร สส. ในการเลือกตั้งซ่อม จ.ระยอง เขต 3

นายวิโรจน์ ปราศรัยช่วงหนึ่งว่า ตอนนี้คนไทยทั้งประเทศอยากกากบาทใหม่ การเลือกตั้งที่ผ่านมาประชาชนลังเลตัดสินใจไม่ถูก จึงกาใบหนึ่งให้พรรคหนึ่ง และกาอีกใบให้อีกพรรค เพราะทั้งสองพรรคบอกว่าไม่เอาลุง แล้ววันนี้เป็นอย่างไร เหลือพรรคเดียวที่กล้าประกาศว่าไม่เอาลุง คือพรรคก้าวไกล


วันนี้เป็นสิทธิของชาว อ.แกลง และ อ.เขาชะเมา จะได้กากบาทใหม่ให้กับพรรคก้าวไกล นี่คือโอกาสอันดีที่จะส่งสัญญาณถึงความไม่พึงพอใจกับการเมืองที่เราถูกหักหลัง การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นจุดวัดใจว่าประชาชนคิดอย่างไร ไม่ใช่กาเพียงเพื่อสะท้อนเสียงของชาวระยองเขต 3 แต่จะเป็นกระบอกเสียงของคนไทยทั้งประเทศว่าสัจจะวาจายังคงยึดมั่น พรรคก้าวไกลไม่เคยเปลี่ยนแปลง “มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง”

ต่อมา นายนครชัย ปราศรัยว่า ในฐานะที่ประชาชนแสดงเจตจำนงเลือกตนให้เป็นผู้แทนฯ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งแรกที่ตนต้องทำคือขอโทษพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตาม ยืนยันจะรับใช้ประชาชนต่อไปไม่ว่าอยู่ในบทบาทไหน

ตอนนี้ตนกำลังทำงานอีกบทบาทหนึ่งซึ่งมีความสำคัญ คือการส่ง “โย พงศธร” เป็นผู้แทนฯ นำความเดือดร้อนของประชาชนเข้าไปพูดในสภาฯ เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหา โย พงศธร ไปหาเสียงที่ไหน ทุกท่านจะเห็นตนอยู่เคียงข้างแน่นอน เราจะเดินคู่กันในบทบาทผู้ที่อาสาเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชน วันที่ 10 กันยายน ออกมากาเพื่อยืนยันเจตจำนงอีกครั้งว่าท่านได้เลือกแล้วและจะไม่เปลี่ยนใจจากพรรคก้าวไกล


นายพงศธร กล่าวว่า ตนผูกพันกับพื้นที่นี้ตั้งแต่ 22 ปีที่แล้ว อ.เขาชะเมา เคยมีกรณีโรงโม่หินจะระเบิดเขาชะอางกลางทุ่ง เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ขณะนั้นลุงนรินทร์ โพธิ์แดง เป็นแกนนำออกมาคัดค้านโรงโม่หินอย่างแข็งขัน แต่ต่อมากลับถูกยิงเสียชีวิตหน้าบ้านของตัวเอง นี่คือหนึ่งในหลายเหตุการณ์ที่ผลักดันให้ตนซึ่งเป็นนักศึกษาในเวลานั้น เข้ามาทำงานทางการเมือง ทำงานเคลื่อนไหวกับพี่น้องประชาชนตลอดมา

ที่ผ่านมาตนทำงานเบื้องหลัง ตั้งใจสร้างพรรคตั้งแต่อนาคตใหม่มาถึงก้าวไกล วางแผนยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง จนการเลือกตั้งที่ผ่านมา ระยองเป็นสีส้มยกจังหวัด วันนี้ตนพร้อมเข้ามาทำงานเพื่อผลักดันเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของ อ.แกลง และ อ.เขาชะเมา ให้ก้าวหน้าก้าวไกลกว่าเดิม

“การเลือกตั้งครั้งนี้ขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาความหวัง ตอนนี้ระยองไม่มีบ้านใหญ่แล้ว มีแต่บ้านของประชาชน บ้านของพวกเราทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ระยองเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนเลย เชื่อว่าครั้งนี้จะรักษาฐานที่มั่นของเราไว้ได้” นายพงศธร ระบุ

จากนั้น นายชัยธวัช ปราศรัยว่า ย้อนกลับไปวันที่ 14 พฤษภาคม จ.ระยอง เป็นอีกที่หนึ่งที่พรรคก้าวไกลได้รับแรงสนับสนุนอย่างล้นหลาม ส้มยกจังหวัดเป็นประวัติศาสตร์ ตนทราบดีว่าพี่น้องทั่วประเทศช่วยกันเลือกก้าวไกลให้ชนะการเลือกตั้ง เป็นพรรคอันดับหนึ่ง เราต่างตื่นเต้นรอว่านายกฯ คนใหม่จะชื่อพิธา ทั้งประเทศคาดหวังจะเห็นรัฐบาลก้าวไกลมาสร้างความเปลี่ยนแปลง มาวันนี้ชักไม่แน่ใจว่าให้เราเลือกพิธาหรือหลอกให้เราไปเลือกตั้งพอเป็นพิธี

“เราต้องการระบบการเมืองแบบไหน เลือกตามที่ประชาชนเลือก หรืออนุญาตให้เลือกตั้งทุก 4 ปี พอเป็นพิธี เลือกเสร็จก็ให้ผู้มีอำนาจไม่กี่คนมาคอยตัดสินกำกับว่าใครจะเป็นนายกฯ คนนี้อนุญาต คนนี้ไม่อนุญาต เราจะอยู่กันแบบนี้หรือ” นายชัยธวัช กล่าว

เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวต่อว่า หลังจากที่เราเลือกตั้งกันด้วยความหวังและผลการเลือกตั้งก็สมหวัง แต่สิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ได้เปิดเผยให้เห็นว่าการเมืองตอนนี้เป็นการเมืองที่เกรงใจทุกคนยกเว้นประชาชน เกรงใจนายทุนใหญ่ เกรงใจผู้มีอำนาจนอกระบบ เกรงใจ สว.ผู้ทรงเกียรติ เกรงใจผู้มีอำนาจทุกฝ่าย ยกเว้นไม่เคยเกรงใจอำนาจประชาชนเลย อาจเรียกได้ว่าเป็นการเมืองที่ไม่เห็นหัวประชาชน

ทำไมการเมืองที่เห็นหัวประชาชนจึงสำคัญ ตอนนี้เขาอ้างว่าต้องมีรัฐบาลแบบพิเศษ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชน แต่เราลองจินตนาการดูว่าการเมืองที่เกรงใจทุกคนยกเว้นประชาชน จะนำพาประเทศไปสู่รูปร่างหน้าตาแบบไหน

รัฐธรรมนูญใหม่ที่บอกว่าจะรีบทำ นักการเมืองที่ไม่เห็นหัวเราจะนำไปสู่รัฐธรรมนูญแบบไหน นำไปสู่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบไหน จะแก้ปัญหาของพี่น้องภาคตะวันออก ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาที่ดินที่อยู่มาเป็น 10 ปี ยังไม่เคยมีโฉนด ปัญหาสารพิษขยะผิด จะแก้ได้ไหม การปฏิวัติการศึกษาให้ทันโลกออกนอกกะลา ปฏิรูปกองทัพให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอยู่เหนือกองทัพเพื่อป้องกันไม่ให้มีรัฐประหารอีก จะทำได้หรือไม่

“พี่น้องลองจินตนาการดูว่าต้องการการเมืองแบบไหน ต้องการการเมืองแบบก้าวไกลที่ตรงไปตรงมา คำไหนคำนั้น ไม่ใช่เป็นเพียงการโฆษณาเพื่อหาเสียง เอาปัญหาของประชาชนเป็นที่ตั้ง คิดนโยบายเพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลง หรือการเมืองที่กลับกลอก วันนี้พูดอย่าง เมื่อวานพูดอย่าง พรุ่งนี้พูดอีกอย่าง เวลาตัดสินใจจะทำอะไร คุยกันเกรงใจกันในหมู่ผู้มีอำนาจไม่กี่คน ตนเชื่อว่าพี่น้องชาวระยองและคนส่วนใหญ่ทั่วประเทศไม่อยากเห็นการเมืองแบบนั้นอีกแล้ว เพราะปัญหาที่สำคัญและเรื้อรังแก้ไม่ได้มาเป็นสิบปี มันพิสูจน์แล้วว่าแก้ด้วยการเมืองแบบนั้นไม่ได้ แต่ต้องการการเมืองแบบก้าวไกล ที่ย้ำแล้วย้ำหนาว่าประชาชนคือเจ้านาย เพราะประชาชนเท่านั้นคือผู้ทรงอำนาจสูงสุดในประเทศ” นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวทิ้งท้ายว่า วันที่ 10 กันยายน กาก้าวไกลด้วย 2 เหตุผล หนึ่งคือเราจะได้มีผู้แทนราษฎรก้าวไกลทั้งจังหวัดและทำงานอย่างเป็นเอกภาพไร้รอยต่อ รวมพลังขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเพื่อพี่น้องชาวระยองทุกคน และสองเป็นเหตุผลที่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศฝากมายังพี่น้องระยองเขต 3 คือช่วยระบายความรู้สึกคับข้องใจใส่คูหาเลือกตั้งซ่อม ว่าพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกอย่างไรกับการเมืองตอนนี้

“การเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จะเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ลงคะแนนเพื่อแสดงออกว่าเราต้องการการเมืองที่เห็นหัวประชาชน 10 กันยากาก้าวไกลให้ถล่มทลาย บอกว่าเจ้านายไม่มีใครนอกจากประชาชน บอกกับผู้มีอำนาจตัวปลอมทั้งหมดว่าประชาชนคือผู้มีอำนาจที่แท้จริง” นายชัยธวัช กล่าว

จบแล้วนายชัยธวัชได้เชิญ สส.ระยองทุกเขต และ สส.ภาคตะวันออก พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายพิธาขึ้นบนเวที

นายพิธา กล่าวว่า ทุกการเลือกตั้งมีความหมาย ยิ่งฝ่ายที่ต้องการให้การเลือกตั้งไม่มีความหมาย ประชาชนยิ่งต้องทำให้เห็นว่ามีความหมาย โย พงศธร ทั้งชัดและพร้อมที่จะเป็นผู้แทนของทุกคน 10 กันยา กาโยให้เป็นตัวแทนที่ทุกคนจะภาคภูมิใจ เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบที่ประชาชนถวิลหา ตอนนี้ไม่มีแล้วขั้วแบบเดิม มีแต่ขั้วอนาคตกับขั้วอดีต พี่น้องประชาชนต้องอยู่กับอนาคต พาระยองไปข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม รู้ว่ายังมีคนที่ไม่ได้เลือกพรรคก้าวไกลในครั้งที่แล้ว อยากบอกว่าหลังจากที่ตนได้เป็นแคนดิเดตนายกฯ และมีโอกาสพูดคุยกับประชาชนทุกฝ่าย ผู้สูงอายุที่อาจจะกังวล ฝั่งที่อาจเรียกว่าอนุรักษนิยมอาจไม่เข้าใจตน และกลัวการเปลี่ยนแปลงที่เร็วเกินไป ตนยืนยันว่าเป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่ดีขึ้นเพราะพวกเขา พร้อมรับฟังให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้

“เพราะฉะนั้น เลือกตั้งครั้งนี้และครั้งต่อๆ ไป ขออย่ากังวล อย่ากลัวอนาคต ต่อไปนี้ถ้าพิธาเป็นผู้นำ จะมีพวกคุณอยู่ด้วยเสมอ เราคือพรรคคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจคนรุ่นใหญ่ ตนคือสะพานของประเทศไทยไปสู่ต่างประเทศ เป็นสะพานของคนรุ่นใหม่เชื่อมคนรุ่นใหญ่ เป็นสะพานเชื่อมภาคธุรกิจกับภาครัฐ สลัดความกลัวแล้วมาอยู่ข้างอนาคต ที่จะมีทั้งคุณและลูกหลานของคุณอยู่ กาก้าวไกลประเทศไทยไม่เหมือนเดิมไปกับพวกเรา” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]

นายกฯ บอกเวลา 4 เดือน เศรษฐกิจต้องไปข้างหน้า “มีรูมีหนู”

สภาหอการค้าฯ 18 ก.ย.-นายกฯ บอกเวลา 4 เดือน เศรษฐกิจต้องไปข้างหน้า “มีรูมีหนู” ต้องผลักดันเต็มที่ พร้อมแก้ไขปัญหาภาคเอกชนสู่นโยบายรัฐบาล ยันทำทุกทางให้ไทยเป็นคู่ค้าที่ได้เปรียบ ไม่ปิดกั้นนโยบายคนอื่น ขอให้วินวินทุกฝ่าย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมหารือกับสภาหอการค้าไทยว่า ตนและทีมงานได้มาพบกับทางคณะกรรมการสภาหอการค้าไทย เหมือนกับวันที่เราไปเยี่ยมที่สภาอุตสาหกรรม เราพยายามที่จะไปพบกับภาคเอกชนก่อนที่จะเข้าไปบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อที่จะได้รับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาที่ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลได้สนับสนุนหรือแก้ไข จะรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด เพื่อเวลาเข้าไปทำงานจะได้ดำเนินการให้ทุกอย่าง ขับเคลื่อนไปด้วยความรวดเร็ว มาพบกับคณะผู้บริหารสภาหอการค้าไทย ถือว่าเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการ เรารับฟังข้อเสนอแนะข้อกังวล สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการให้รัฐบาลได้ดำเนินการ เพื่อทำให้เกิดความคล่องตัว ทั้งด้านการเงิน ภาระหนี้สิน ดอกเบี้ย พลังงาน การส่งออก แรงงาน และโอกาสต่างๆ สำหรับประเทศไทยในอนาคต ได้มีการหารือลงในรายละเอียดมากพอสมควร และจะต้องมีการพบกันเป็นประเด็นไปหากมีความจำเป็น แต่ในภาพรวมจะหาโอกาสมาหารือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อถามว่า หารือแล้วได้จัดเตรียมมาตรการความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง นายอนุทิน เผยว่า รับฟังปัญหาต่างๆ เรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการ แรงงาน ภาษี ขนส่งต่างๆ เราพยายามที่จะทะลายข้อจำกัดที่มีอยู่ ไม่จำเป็นไม่ปิดกั้นโอกาส ส่วนรายละเอียด ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนำสิ่งเหล่านี้ไปหาทางทำให้คล่องตัวขึ้น […]

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]