‘ก้าวไกล’ จัดเวทีเปิดตัว ‘โย พงศธร’ ลงเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง เขต 3

ระยอง 14 ส.ค. – สิบกันยากาโย! ‘ก้าวไกล’ จัดเวทีเปิดตัว ‘โย พงศธร’ ลงเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง เขต 3 ‘พิธา’ ย้ำพร้อมเป็นสะพานเชื่อมคนทุกรุ่น เลือก “โย” ให้เป็นผู้แทนฯ ที่ประชาชนภูมิใจ ด้าน ‘ชัยธวัช’ ชี้การเมืองตอนนี้เกรงใจทุกคน ยกเว้นประชาชน ปลุกกาก้าวไกล ยืนยันเจ้านายมีหนึ่งเดียวคือประชาชน


วันที่ 13 สิงหาคม 2566 แกนนำพรรคก้าวไกล ประกอบด้วย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค เบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหาร สัดส่วนภาคตะวันออก และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยนายนครชัย ขุนณรงค์ อดีต สส.ระยอง เขต 3 ซึ่งลาออกไปก่อนหน้านี้ ร่วมเวทีปราศรัยที่ตลาดนัดคลองถมแกลง อ.แกลง จ.ระยอง เพื่อเปิดตัว นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ เป็นว่าที่ผู้สมัคร สส. ในการเลือกตั้งซ่อม จ.ระยอง เขต 3

นายวิโรจน์ ปราศรัยช่วงหนึ่งว่า ตอนนี้คนไทยทั้งประเทศอยากกากบาทใหม่ การเลือกตั้งที่ผ่านมาประชาชนลังเลตัดสินใจไม่ถูก จึงกาใบหนึ่งให้พรรคหนึ่ง และกาอีกใบให้อีกพรรค เพราะทั้งสองพรรคบอกว่าไม่เอาลุง แล้ววันนี้เป็นอย่างไร เหลือพรรคเดียวที่กล้าประกาศว่าไม่เอาลุง คือพรรคก้าวไกล


วันนี้เป็นสิทธิของชาว อ.แกลง และ อ.เขาชะเมา จะได้กากบาทใหม่ให้กับพรรคก้าวไกล นี่คือโอกาสอันดีที่จะส่งสัญญาณถึงความไม่พึงพอใจกับการเมืองที่เราถูกหักหลัง การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นจุดวัดใจว่าประชาชนคิดอย่างไร ไม่ใช่กาเพียงเพื่อสะท้อนเสียงของชาวระยองเขต 3 แต่จะเป็นกระบอกเสียงของคนไทยทั้งประเทศว่าสัจจะวาจายังคงยึดมั่น พรรคก้าวไกลไม่เคยเปลี่ยนแปลง “มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง”

ต่อมา นายนครชัย ปราศรัยว่า ในฐานะที่ประชาชนแสดงเจตจำนงเลือกตนให้เป็นผู้แทนฯ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งแรกที่ตนต้องทำคือขอโทษพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตาม ยืนยันจะรับใช้ประชาชนต่อไปไม่ว่าอยู่ในบทบาทไหน

ตอนนี้ตนกำลังทำงานอีกบทบาทหนึ่งซึ่งมีความสำคัญ คือการส่ง “โย พงศธร” เป็นผู้แทนฯ นำความเดือดร้อนของประชาชนเข้าไปพูดในสภาฯ เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหา โย พงศธร ไปหาเสียงที่ไหน ทุกท่านจะเห็นตนอยู่เคียงข้างแน่นอน เราจะเดินคู่กันในบทบาทผู้ที่อาสาเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชน วันที่ 10 กันยายน ออกมากาเพื่อยืนยันเจตจำนงอีกครั้งว่าท่านได้เลือกแล้วและจะไม่เปลี่ยนใจจากพรรคก้าวไกล


นายพงศธร กล่าวว่า ตนผูกพันกับพื้นที่นี้ตั้งแต่ 22 ปีที่แล้ว อ.เขาชะเมา เคยมีกรณีโรงโม่หินจะระเบิดเขาชะอางกลางทุ่ง เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ขณะนั้นลุงนรินทร์ โพธิ์แดง เป็นแกนนำออกมาคัดค้านโรงโม่หินอย่างแข็งขัน แต่ต่อมากลับถูกยิงเสียชีวิตหน้าบ้านของตัวเอง นี่คือหนึ่งในหลายเหตุการณ์ที่ผลักดันให้ตนซึ่งเป็นนักศึกษาในเวลานั้น เข้ามาทำงานทางการเมือง ทำงานเคลื่อนไหวกับพี่น้องประชาชนตลอดมา

ที่ผ่านมาตนทำงานเบื้องหลัง ตั้งใจสร้างพรรคตั้งแต่อนาคตใหม่มาถึงก้าวไกล วางแผนยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง จนการเลือกตั้งที่ผ่านมา ระยองเป็นสีส้มยกจังหวัด วันนี้ตนพร้อมเข้ามาทำงานเพื่อผลักดันเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของ อ.แกลง และ อ.เขาชะเมา ให้ก้าวหน้าก้าวไกลกว่าเดิม

“การเลือกตั้งครั้งนี้ขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาความหวัง ตอนนี้ระยองไม่มีบ้านใหญ่แล้ว มีแต่บ้านของประชาชน บ้านของพวกเราทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ระยองเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนเลย เชื่อว่าครั้งนี้จะรักษาฐานที่มั่นของเราไว้ได้” นายพงศธร ระบุ

จากนั้น นายชัยธวัช ปราศรัยว่า ย้อนกลับไปวันที่ 14 พฤษภาคม จ.ระยอง เป็นอีกที่หนึ่งที่พรรคก้าวไกลได้รับแรงสนับสนุนอย่างล้นหลาม ส้มยกจังหวัดเป็นประวัติศาสตร์ ตนทราบดีว่าพี่น้องทั่วประเทศช่วยกันเลือกก้าวไกลให้ชนะการเลือกตั้ง เป็นพรรคอันดับหนึ่ง เราต่างตื่นเต้นรอว่านายกฯ คนใหม่จะชื่อพิธา ทั้งประเทศคาดหวังจะเห็นรัฐบาลก้าวไกลมาสร้างความเปลี่ยนแปลง มาวันนี้ชักไม่แน่ใจว่าให้เราเลือกพิธาหรือหลอกให้เราไปเลือกตั้งพอเป็นพิธี

“เราต้องการระบบการเมืองแบบไหน เลือกตามที่ประชาชนเลือก หรืออนุญาตให้เลือกตั้งทุก 4 ปี พอเป็นพิธี เลือกเสร็จก็ให้ผู้มีอำนาจไม่กี่คนมาคอยตัดสินกำกับว่าใครจะเป็นนายกฯ คนนี้อนุญาต คนนี้ไม่อนุญาต เราจะอยู่กันแบบนี้หรือ” นายชัยธวัช กล่าว

เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวต่อว่า หลังจากที่เราเลือกตั้งกันด้วยความหวังและผลการเลือกตั้งก็สมหวัง แต่สิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ได้เปิดเผยให้เห็นว่าการเมืองตอนนี้เป็นการเมืองที่เกรงใจทุกคนยกเว้นประชาชน เกรงใจนายทุนใหญ่ เกรงใจผู้มีอำนาจนอกระบบ เกรงใจ สว.ผู้ทรงเกียรติ เกรงใจผู้มีอำนาจทุกฝ่าย ยกเว้นไม่เคยเกรงใจอำนาจประชาชนเลย อาจเรียกได้ว่าเป็นการเมืองที่ไม่เห็นหัวประชาชน

ทำไมการเมืองที่เห็นหัวประชาชนจึงสำคัญ ตอนนี้เขาอ้างว่าต้องมีรัฐบาลแบบพิเศษ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชน แต่เราลองจินตนาการดูว่าการเมืองที่เกรงใจทุกคนยกเว้นประชาชน จะนำพาประเทศไปสู่รูปร่างหน้าตาแบบไหน

รัฐธรรมนูญใหม่ที่บอกว่าจะรีบทำ นักการเมืองที่ไม่เห็นหัวเราจะนำไปสู่รัฐธรรมนูญแบบไหน นำไปสู่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบไหน จะแก้ปัญหาของพี่น้องภาคตะวันออก ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาที่ดินที่อยู่มาเป็น 10 ปี ยังไม่เคยมีโฉนด ปัญหาสารพิษขยะผิด จะแก้ได้ไหม การปฏิวัติการศึกษาให้ทันโลกออกนอกกะลา ปฏิรูปกองทัพให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอยู่เหนือกองทัพเพื่อป้องกันไม่ให้มีรัฐประหารอีก จะทำได้หรือไม่

“พี่น้องลองจินตนาการดูว่าต้องการการเมืองแบบไหน ต้องการการเมืองแบบก้าวไกลที่ตรงไปตรงมา คำไหนคำนั้น ไม่ใช่เป็นเพียงการโฆษณาเพื่อหาเสียง เอาปัญหาของประชาชนเป็นที่ตั้ง คิดนโยบายเพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลง หรือการเมืองที่กลับกลอก วันนี้พูดอย่าง เมื่อวานพูดอย่าง พรุ่งนี้พูดอีกอย่าง เวลาตัดสินใจจะทำอะไร คุยกันเกรงใจกันในหมู่ผู้มีอำนาจไม่กี่คน ตนเชื่อว่าพี่น้องชาวระยองและคนส่วนใหญ่ทั่วประเทศไม่อยากเห็นการเมืองแบบนั้นอีกแล้ว เพราะปัญหาที่สำคัญและเรื้อรังแก้ไม่ได้มาเป็นสิบปี มันพิสูจน์แล้วว่าแก้ด้วยการเมืองแบบนั้นไม่ได้ แต่ต้องการการเมืองแบบก้าวไกล ที่ย้ำแล้วย้ำหนาว่าประชาชนคือเจ้านาย เพราะประชาชนเท่านั้นคือผู้ทรงอำนาจสูงสุดในประเทศ” นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวทิ้งท้ายว่า วันที่ 10 กันยายน กาก้าวไกลด้วย 2 เหตุผล หนึ่งคือเราจะได้มีผู้แทนราษฎรก้าวไกลทั้งจังหวัดและทำงานอย่างเป็นเอกภาพไร้รอยต่อ รวมพลังขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเพื่อพี่น้องชาวระยองทุกคน และสองเป็นเหตุผลที่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศฝากมายังพี่น้องระยองเขต 3 คือช่วยระบายความรู้สึกคับข้องใจใส่คูหาเลือกตั้งซ่อม ว่าพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกอย่างไรกับการเมืองตอนนี้

“การเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จะเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ลงคะแนนเพื่อแสดงออกว่าเราต้องการการเมืองที่เห็นหัวประชาชน 10 กันยากาก้าวไกลให้ถล่มทลาย บอกว่าเจ้านายไม่มีใครนอกจากประชาชน บอกกับผู้มีอำนาจตัวปลอมทั้งหมดว่าประชาชนคือผู้มีอำนาจที่แท้จริง” นายชัยธวัช กล่าว

จบแล้วนายชัยธวัชได้เชิญ สส.ระยองทุกเขต และ สส.ภาคตะวันออก พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายพิธาขึ้นบนเวที

นายพิธา กล่าวว่า ทุกการเลือกตั้งมีความหมาย ยิ่งฝ่ายที่ต้องการให้การเลือกตั้งไม่มีความหมาย ประชาชนยิ่งต้องทำให้เห็นว่ามีความหมาย โย พงศธร ทั้งชัดและพร้อมที่จะเป็นผู้แทนของทุกคน 10 กันยา กาโยให้เป็นตัวแทนที่ทุกคนจะภาคภูมิใจ เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบที่ประชาชนถวิลหา ตอนนี้ไม่มีแล้วขั้วแบบเดิม มีแต่ขั้วอนาคตกับขั้วอดีต พี่น้องประชาชนต้องอยู่กับอนาคต พาระยองไปข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม รู้ว่ายังมีคนที่ไม่ได้เลือกพรรคก้าวไกลในครั้งที่แล้ว อยากบอกว่าหลังจากที่ตนได้เป็นแคนดิเดตนายกฯ และมีโอกาสพูดคุยกับประชาชนทุกฝ่าย ผู้สูงอายุที่อาจจะกังวล ฝั่งที่อาจเรียกว่าอนุรักษนิยมอาจไม่เข้าใจตน และกลัวการเปลี่ยนแปลงที่เร็วเกินไป ตนยืนยันว่าเป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่ดีขึ้นเพราะพวกเขา พร้อมรับฟังให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้

“เพราะฉะนั้น เลือกตั้งครั้งนี้และครั้งต่อๆ ไป ขออย่ากังวล อย่ากลัวอนาคต ต่อไปนี้ถ้าพิธาเป็นผู้นำ จะมีพวกคุณอยู่ด้วยเสมอ เราคือพรรคคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจคนรุ่นใหญ่ ตนคือสะพานของประเทศไทยไปสู่ต่างประเทศ เป็นสะพานของคนรุ่นใหม่เชื่อมคนรุ่นใหญ่ เป็นสะพานเชื่อมภาคธุรกิจกับภาครัฐ สลัดความกลัวแล้วมาอยู่ข้างอนาคต ที่จะมีทั้งคุณและลูกหลานของคุณอยู่ กาก้าวไกลประเทศไทยไม่เหมือนเดิมไปกับพวกเรา” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กระเช้าหลุด ช่างทาสีร่วงตึก 5 ชั้น ตาย 1 สาหัส 1

พัทลุง 2 ส.ค. – เกิดเหตุสลด กระเช้าปลายบูมหลุดจากเครน ช่างทาสีร่วงจากตึก 5 ชั้น เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 1 ที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียน จ.พัทลุง เกิดเหตุสลดกลางไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อกระเช้าที่ผูกติดกับหัวเครนเกิดหัก หลุดจากตึกสูง 5 ชั้น ส่งผลให้ช่างทาสี 2 คน ที่อยู่บนกระเช้าร่วงตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 คน คือ นายธวัชชัย อายุ 36 ปี และนายชุติเดช อายุ 43 ปี บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองข้างหักละเอียด แขนซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุงอย่างเร่งด่วน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนงานทั้ง 2 เป็นช่างทาสี ได้ขึ้นกระเช้าเหล็กเพื่อขึ้นไปทาสีบริเวณชั้น 5 ของอาคาร ซึ่งมีความสูงประมาณ 26 เมตร แต่ด้วยน้ำหนักของคนงานทั้งสองคน […]

รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final […]

EOD เก็บกู้ระเบิดฝังอยู่ใกล้ปั๊มที่ถูกกัมพูชายิงใส่

ศรีสะเกษ 2 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายหัวระเบิด HE ของจรวด BM 21 ที่ฝังอยู่บนถนนกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อทำลายระเบิดที่ฝังอยู่ในถนน บ้านน้ำเย็น-บ้านผือ ฝั่งมุ่งหน้าเขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือน โดยจุดที่ระเบิดถูกฝังบนถนนอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นระเบิดที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พร้อมกับเหตุการณ์ยิงกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมาทำเป็นบังเกอร์ล้อมรอบจุดที่ระเบิดฝังอยู่ในถนน เจ้าหน้าที่ชุดจากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC โดยมีการปิดถนนรัศมี 1 กิโลเมตร […]

กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธไฮเทคสำหรับยิงโดรน

นครราชสีมา 2 ส.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้ทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เรียบร้อยแล้ว ด้านชาวอุดรธานี แห่บริจาคหนังสติ๊กพร้อมลูกแก้ว ตามที่ทหารขอมาจำนวนมาก หลังทหารกัมพูชายังก่อกวน ยั่วยุ ทั้งขว้างก้อนหินใส่ และมีโดรนปริศนามาบินอีก จากกรณีที่ช่วงนี้ มีการตรวจพบโดรนไม่ทราบฝ่าย เข้ามาบินตรวจการณ์ในพื้นที่ที่ตั้งทางทหาร ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวล และสงสัยว่าอาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงจากประเทศเพื่อบ้าน ที่กำลังมีปัญหาระหว่างประเทศกับประเทศไทย ทำให้เมื่อวานเพจกองทัพภาคที่ 2 ได้แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้มีการทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.68) เฟซบุ๊กเพจ กองทัพภาคที่2 ได้แชร์ข้อมูลเพจ SMART Soldiers Strong ARMY พร้อมระบุข้อความว่า “หากศัตรูซ่อนตัวในเงามืด เราจะเป็นแสงที่มองเห็นมันก่อนใคร”เลเซอร์พร้อมยิง — ทหารไทยพร้อมรบโดยอาวุธชนิดนี้ คือ Directed Energy Weapon หรือ (DEW) เป็นอาวุธยุคใหม่ที่กองทัพอากาศไทยพัฒนาขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง […]