‘ก้าวไกล’ จัดเวทีเปิดตัว ‘โย พงศธร’ ลงเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง เขต 3

ระยอง 14 ส.ค. – สิบกันยากาโย! ‘ก้าวไกล’ จัดเวทีเปิดตัว ‘โย พงศธร’ ลงเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง เขต 3 ‘พิธา’ ย้ำพร้อมเป็นสะพานเชื่อมคนทุกรุ่น เลือก “โย” ให้เป็นผู้แทนฯ ที่ประชาชนภูมิใจ ด้าน ‘ชัยธวัช’ ชี้การเมืองตอนนี้เกรงใจทุกคน ยกเว้นประชาชน ปลุกกาก้าวไกล ยืนยันเจ้านายมีหนึ่งเดียวคือประชาชน


วันที่ 13 สิงหาคม 2566 แกนนำพรรคก้าวไกล ประกอบด้วย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค เบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหาร สัดส่วนภาคตะวันออก และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยนายนครชัย ขุนณรงค์ อดีต สส.ระยอง เขต 3 ซึ่งลาออกไปก่อนหน้านี้ ร่วมเวทีปราศรัยที่ตลาดนัดคลองถมแกลง อ.แกลง จ.ระยอง เพื่อเปิดตัว นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ เป็นว่าที่ผู้สมัคร สส. ในการเลือกตั้งซ่อม จ.ระยอง เขต 3

นายวิโรจน์ ปราศรัยช่วงหนึ่งว่า ตอนนี้คนไทยทั้งประเทศอยากกากบาทใหม่ การเลือกตั้งที่ผ่านมาประชาชนลังเลตัดสินใจไม่ถูก จึงกาใบหนึ่งให้พรรคหนึ่ง และกาอีกใบให้อีกพรรค เพราะทั้งสองพรรคบอกว่าไม่เอาลุง แล้ววันนี้เป็นอย่างไร เหลือพรรคเดียวที่กล้าประกาศว่าไม่เอาลุง คือพรรคก้าวไกล


วันนี้เป็นสิทธิของชาว อ.แกลง และ อ.เขาชะเมา จะได้กากบาทใหม่ให้กับพรรคก้าวไกล นี่คือโอกาสอันดีที่จะส่งสัญญาณถึงความไม่พึงพอใจกับการเมืองที่เราถูกหักหลัง การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นจุดวัดใจว่าประชาชนคิดอย่างไร ไม่ใช่กาเพียงเพื่อสะท้อนเสียงของชาวระยองเขต 3 แต่จะเป็นกระบอกเสียงของคนไทยทั้งประเทศว่าสัจจะวาจายังคงยึดมั่น พรรคก้าวไกลไม่เคยเปลี่ยนแปลง “มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง”

ต่อมา นายนครชัย ปราศรัยว่า ในฐานะที่ประชาชนแสดงเจตจำนงเลือกตนให้เป็นผู้แทนฯ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งแรกที่ตนต้องทำคือขอโทษพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตาม ยืนยันจะรับใช้ประชาชนต่อไปไม่ว่าอยู่ในบทบาทไหน

ตอนนี้ตนกำลังทำงานอีกบทบาทหนึ่งซึ่งมีความสำคัญ คือการส่ง “โย พงศธร” เป็นผู้แทนฯ นำความเดือดร้อนของประชาชนเข้าไปพูดในสภาฯ เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหา โย พงศธร ไปหาเสียงที่ไหน ทุกท่านจะเห็นตนอยู่เคียงข้างแน่นอน เราจะเดินคู่กันในบทบาทผู้ที่อาสาเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชน วันที่ 10 กันยายน ออกมากาเพื่อยืนยันเจตจำนงอีกครั้งว่าท่านได้เลือกแล้วและจะไม่เปลี่ยนใจจากพรรคก้าวไกล


นายพงศธร กล่าวว่า ตนผูกพันกับพื้นที่นี้ตั้งแต่ 22 ปีที่แล้ว อ.เขาชะเมา เคยมีกรณีโรงโม่หินจะระเบิดเขาชะอางกลางทุ่ง เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ขณะนั้นลุงนรินทร์ โพธิ์แดง เป็นแกนนำออกมาคัดค้านโรงโม่หินอย่างแข็งขัน แต่ต่อมากลับถูกยิงเสียชีวิตหน้าบ้านของตัวเอง นี่คือหนึ่งในหลายเหตุการณ์ที่ผลักดันให้ตนซึ่งเป็นนักศึกษาในเวลานั้น เข้ามาทำงานทางการเมือง ทำงานเคลื่อนไหวกับพี่น้องประชาชนตลอดมา

ที่ผ่านมาตนทำงานเบื้องหลัง ตั้งใจสร้างพรรคตั้งแต่อนาคตใหม่มาถึงก้าวไกล วางแผนยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง จนการเลือกตั้งที่ผ่านมา ระยองเป็นสีส้มยกจังหวัด วันนี้ตนพร้อมเข้ามาทำงานเพื่อผลักดันเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของ อ.แกลง และ อ.เขาชะเมา ให้ก้าวหน้าก้าวไกลกว่าเดิม

“การเลือกตั้งครั้งนี้ขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาความหวัง ตอนนี้ระยองไม่มีบ้านใหญ่แล้ว มีแต่บ้านของประชาชน บ้านของพวกเราทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ระยองเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนเลย เชื่อว่าครั้งนี้จะรักษาฐานที่มั่นของเราไว้ได้” นายพงศธร ระบุ

จากนั้น นายชัยธวัช ปราศรัยว่า ย้อนกลับไปวันที่ 14 พฤษภาคม จ.ระยอง เป็นอีกที่หนึ่งที่พรรคก้าวไกลได้รับแรงสนับสนุนอย่างล้นหลาม ส้มยกจังหวัดเป็นประวัติศาสตร์ ตนทราบดีว่าพี่น้องทั่วประเทศช่วยกันเลือกก้าวไกลให้ชนะการเลือกตั้ง เป็นพรรคอันดับหนึ่ง เราต่างตื่นเต้นรอว่านายกฯ คนใหม่จะชื่อพิธา ทั้งประเทศคาดหวังจะเห็นรัฐบาลก้าวไกลมาสร้างความเปลี่ยนแปลง มาวันนี้ชักไม่แน่ใจว่าให้เราเลือกพิธาหรือหลอกให้เราไปเลือกตั้งพอเป็นพิธี

“เราต้องการระบบการเมืองแบบไหน เลือกตามที่ประชาชนเลือก หรืออนุญาตให้เลือกตั้งทุก 4 ปี พอเป็นพิธี เลือกเสร็จก็ให้ผู้มีอำนาจไม่กี่คนมาคอยตัดสินกำกับว่าใครจะเป็นนายกฯ คนนี้อนุญาต คนนี้ไม่อนุญาต เราจะอยู่กันแบบนี้หรือ” นายชัยธวัช กล่าว

เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวต่อว่า หลังจากที่เราเลือกตั้งกันด้วยความหวังและผลการเลือกตั้งก็สมหวัง แต่สิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ได้เปิดเผยให้เห็นว่าการเมืองตอนนี้เป็นการเมืองที่เกรงใจทุกคนยกเว้นประชาชน เกรงใจนายทุนใหญ่ เกรงใจผู้มีอำนาจนอกระบบ เกรงใจ สว.ผู้ทรงเกียรติ เกรงใจผู้มีอำนาจทุกฝ่าย ยกเว้นไม่เคยเกรงใจอำนาจประชาชนเลย อาจเรียกได้ว่าเป็นการเมืองที่ไม่เห็นหัวประชาชน

ทำไมการเมืองที่เห็นหัวประชาชนจึงสำคัญ ตอนนี้เขาอ้างว่าต้องมีรัฐบาลแบบพิเศษ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชน แต่เราลองจินตนาการดูว่าการเมืองที่เกรงใจทุกคนยกเว้นประชาชน จะนำพาประเทศไปสู่รูปร่างหน้าตาแบบไหน

รัฐธรรมนูญใหม่ที่บอกว่าจะรีบทำ นักการเมืองที่ไม่เห็นหัวเราจะนำไปสู่รัฐธรรมนูญแบบไหน นำไปสู่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบไหน จะแก้ปัญหาของพี่น้องภาคตะวันออก ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาที่ดินที่อยู่มาเป็น 10 ปี ยังไม่เคยมีโฉนด ปัญหาสารพิษขยะผิด จะแก้ได้ไหม การปฏิวัติการศึกษาให้ทันโลกออกนอกกะลา ปฏิรูปกองทัพให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอยู่เหนือกองทัพเพื่อป้องกันไม่ให้มีรัฐประหารอีก จะทำได้หรือไม่

“พี่น้องลองจินตนาการดูว่าต้องการการเมืองแบบไหน ต้องการการเมืองแบบก้าวไกลที่ตรงไปตรงมา คำไหนคำนั้น ไม่ใช่เป็นเพียงการโฆษณาเพื่อหาเสียง เอาปัญหาของประชาชนเป็นที่ตั้ง คิดนโยบายเพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลง หรือการเมืองที่กลับกลอก วันนี้พูดอย่าง เมื่อวานพูดอย่าง พรุ่งนี้พูดอีกอย่าง เวลาตัดสินใจจะทำอะไร คุยกันเกรงใจกันในหมู่ผู้มีอำนาจไม่กี่คน ตนเชื่อว่าพี่น้องชาวระยองและคนส่วนใหญ่ทั่วประเทศไม่อยากเห็นการเมืองแบบนั้นอีกแล้ว เพราะปัญหาที่สำคัญและเรื้อรังแก้ไม่ได้มาเป็นสิบปี มันพิสูจน์แล้วว่าแก้ด้วยการเมืองแบบนั้นไม่ได้ แต่ต้องการการเมืองแบบก้าวไกล ที่ย้ำแล้วย้ำหนาว่าประชาชนคือเจ้านาย เพราะประชาชนเท่านั้นคือผู้ทรงอำนาจสูงสุดในประเทศ” นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวทิ้งท้ายว่า วันที่ 10 กันยายน กาก้าวไกลด้วย 2 เหตุผล หนึ่งคือเราจะได้มีผู้แทนราษฎรก้าวไกลทั้งจังหวัดและทำงานอย่างเป็นเอกภาพไร้รอยต่อ รวมพลังขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเพื่อพี่น้องชาวระยองทุกคน และสองเป็นเหตุผลที่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศฝากมายังพี่น้องระยองเขต 3 คือช่วยระบายความรู้สึกคับข้องใจใส่คูหาเลือกตั้งซ่อม ว่าพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกอย่างไรกับการเมืองตอนนี้

“การเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จะเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ลงคะแนนเพื่อแสดงออกว่าเราต้องการการเมืองที่เห็นหัวประชาชน 10 กันยากาก้าวไกลให้ถล่มทลาย บอกว่าเจ้านายไม่มีใครนอกจากประชาชน บอกกับผู้มีอำนาจตัวปลอมทั้งหมดว่าประชาชนคือผู้มีอำนาจที่แท้จริง” นายชัยธวัช กล่าว

จบแล้วนายชัยธวัชได้เชิญ สส.ระยองทุกเขต และ สส.ภาคตะวันออก พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายพิธาขึ้นบนเวที

นายพิธา กล่าวว่า ทุกการเลือกตั้งมีความหมาย ยิ่งฝ่ายที่ต้องการให้การเลือกตั้งไม่มีความหมาย ประชาชนยิ่งต้องทำให้เห็นว่ามีความหมาย โย พงศธร ทั้งชัดและพร้อมที่จะเป็นผู้แทนของทุกคน 10 กันยา กาโยให้เป็นตัวแทนที่ทุกคนจะภาคภูมิใจ เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบที่ประชาชนถวิลหา ตอนนี้ไม่มีแล้วขั้วแบบเดิม มีแต่ขั้วอนาคตกับขั้วอดีต พี่น้องประชาชนต้องอยู่กับอนาคต พาระยองไปข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม รู้ว่ายังมีคนที่ไม่ได้เลือกพรรคก้าวไกลในครั้งที่แล้ว อยากบอกว่าหลังจากที่ตนได้เป็นแคนดิเดตนายกฯ และมีโอกาสพูดคุยกับประชาชนทุกฝ่าย ผู้สูงอายุที่อาจจะกังวล ฝั่งที่อาจเรียกว่าอนุรักษนิยมอาจไม่เข้าใจตน และกลัวการเปลี่ยนแปลงที่เร็วเกินไป ตนยืนยันว่าเป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่ดีขึ้นเพราะพวกเขา พร้อมรับฟังให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้

“เพราะฉะนั้น เลือกตั้งครั้งนี้และครั้งต่อๆ ไป ขออย่ากังวล อย่ากลัวอนาคต ต่อไปนี้ถ้าพิธาเป็นผู้นำ จะมีพวกคุณอยู่ด้วยเสมอ เราคือพรรคคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจคนรุ่นใหญ่ ตนคือสะพานของประเทศไทยไปสู่ต่างประเทศ เป็นสะพานของคนรุ่นใหม่เชื่อมคนรุ่นใหญ่ เป็นสะพานเชื่อมภาคธุรกิจกับภาครัฐ สลัดความกลัวแล้วมาอยู่ข้างอนาคต ที่จะมีทั้งคุณและลูกหลานของคุณอยู่ กาก้าวไกลประเทศไทยไม่เหมือนเดิมไปกับพวกเรา” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

มือยิงถล่ม “กำนันเล้น” สารภาพแค้นส่วนตัว

ตรัง 22 ส.ค.- ตำรวจแถลงคดียิง “กำนันเล้น” แห่งตำบลนาวง จ.ตรัง ผู้ต้องหาสารภาพยิงถล่มจนตายเพราะแค้นส่วนตัว คุมตัวฝากขังศาล พร้อมค้านประกัน ที่ สภ.ห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมตำรวจ ร่วมกันแถลงรายละเอียดผลการจับกุมนายธวัชชัย ผู้ต้องหาคดีฆ่านายบัณฑิต หรือ “กำนันเล้น” กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา การสืบสวนสอบสวนแกะรอยจนรู้ตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายธวัชชัย จึงยื่นขอศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ในข้อหา”ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยผิดกฎหมาย และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากการสืบสวนสอบสวนร่วมกันของตำรวจหลายหน่วยกระทั่งทราบแหล่งกบดาน จนนำไปสู่การจู่โจมจับกุมที่ห้องเช่าในพื้นที่ ตำบลศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) โดยใช้เวลา 18 วันในการปิดคดี “ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมีสาเหตุมาจากความแค้นส่วนตัวที่สะสมจนถึงจุดแตกหักและลงมือก่อเหตุ” ขณะเดียวกันวันนี้ พนักงานสอบสวน ได้ควบคุมนำตัวนายธวัชชัย ส่งขออำนาจศาลจังหวัดตรัง ฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยระหว่างคุมตัวลงมาขึ้นรถ […]

บุกจับปลัด อบจ. เรียกเงินผู้รับเหมา

22 ส.ค.- รวบคาโต๊ะทำงาน ตำรวจบุกจับปลัด อบจ.มุกดาหาร เรียกรับเงินผู้รับเหมา 7 โครงการ วงเงินกว่า 12 ล้านบาท แลกอนุมัติเบิกจ่ายงบฯ เจ้าหน้าที่บุกอ่านหมายจับ ว่าที่ร้อยเอก วัทธิกร ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่ง โดยมิชอบ, ข่มขืนใจ บุคคลใดมอบให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง  และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และมาตรา 157 เป็นการเข้าทำการตรวจค้น จับกุมที่ห้องทำงานปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร  ก่อนหน้านี้ ผู้รับเหมาเข้าร้องเรียนกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4  ว่า ในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในตำแหน่งปลัด อบจ.มุกดาหาร ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.มุกดาหาร ระหว่างนั้น ผู้เสียหายได้เข้าเป็นคู่สัญญา รับจ้างในโครงการปรับปรุงถนนลาดยางผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตฯ 1 โครงการ วงเงินงบประมาณ 9,780,000 บาท โครงการเสริมผิวทางแอสฟัลท์ติกคอน กรีตฯ จำนวน 6 โครงการ วงเงินงบประมาณ […]

ผบ.ทอ. บินสวีเดน ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 ส.ค.นี้

22 ส.ค.- กองทัพไทยเพิ่มแสนยานุภาพ เสริมความแข็งแกร่ง ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” กับสวีเดน อย่างเป็นทางการ 25 สิงหาคมนี้ การลงนามครั้งนี้ นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ จะลงนามกับบริษัท SAAB AB ที่ประเทศสวีเดน ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ตามมติ คณะรัฐมนตรี ที่อนุมัติหลักการโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง ( วงเงิน 19,500 ล้านบาท ) การจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนครั้งนี้ ไม่เพียงเพิ่มขีดความสามารถด้านความมั่นคงทางทหาร ในการเสริมศักยภาพป้องกันประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทยทุกคน และยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และเทคโนโลยี ในการลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 สิงหาคมนี้ ทางประเทศสวีเดน จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน เข้าร่วมในฐานะสักขีพยาน “มาริษ” ร่วมเป็นสักขีพยานจัดซื้อ “กริพเพน” […]