ทำเนียบรัฐบาล 11 ส.ค. – “ธนกร” รับ “สมศักดิ์” ชวนร่วมรัฐบาล แต่ต้องไปทั้งพรรค มั่นใจไม่มีงูเห่า ชี้ควรมีอารยธรรมการเมือง ยันไม่มีการต่อรองเก้าอี้ มองเป็นสัญญาณดี รอ “พีระพันธุ์” ส่งสัญญาณ เชื่อทุกอย่างใกล้จบ ระบุเจรจาตั้งรัฐบาลต้องชัด ก่อนโหวตนายกฯ
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และแกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่าได้ชักชวนเข้าร่วมรัฐบาล ว่า ตนกับนายสมศักดิ์ อยู่กันมานาน เป็นเหมือนครอบครัว แม้ว่าจะอยู่คนละพรรคกัน แต่ความสัมพันธ์ก็เหมือนเดิม ได้พูดคุยและพบกันบ่อยครั้ง มีกิจกรรมที่ชอบ เตะฟุตบอลได้เจอกันอยู่แล้ว และมีการคุยเรื่องการเมืองว่า ถ้ามาก็ต้องมาทั้งพรรค เป็นการส่งสัญญาณมาทางตน แต่ตนไม่ได้อยู่ในวงเจรจาของพรรค เพราะคนที่จะเจรจาคือหัวหน้าพรรค ตนจึงทำได้แค่ส่งสัญญาณให้พรรคทราบว่าทิศทางการเมืองเป็นแบบนี้ ส่วนการตัดสินใจ ทางพรรครวมไทยสร้างชาติอาจมีการประสานงานกันอยู่แล้ว แต่ตนไม่ทราบ เพราะหัวหน้าพรรคยังไม่ได้บอก ซึ่งนายสมศักดิ์ก็ไม่ได้บอกว่า คุยกับหัวหน้าพรรค เลขาฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ หรือไม่ แต่เท่าที่ดูมีสัญญาณที่ดี ตนเชื่อว่าการเมืองใกล้ถึงจุดที่จะจบแล้ว เท่าที่ดูบริบทต่างๆ คิดว่าอีกไม่นาน คงจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในเวลาที่เหมาะสม
สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ มีเงื่อนไขอะไรในการจะร่วมรัฐบาลเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรี นายธนกร กล่าวว่า พรรคมี สส. 36 คน คงมีการพูดคุยกัน แต่คงไม่ได้ไปต่อรองอะไร ย้ำว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามมติพรรค หากจะออกมาเป็นอย่างไร สส.ทั้ง 36 คน พร้อมทำตาม แม้ว่าวันนี้อาจจะมองว่ามีปัญหาอะไรในพรรค หรือมีการแบ่งเป็นกลุ่มๆ นั้น เพราะมาจากหลากหลายความคิดเห็นแตกต่าง ก็เป็นเรื่องปกติ แต่เชื่อว่าคุยกันได้หมด
ทั้งนี้ ส่วนตัวหากมีปัญหาอะไร แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไม่ยุ่งและเกี่ยวข้องกับพรรคแล้ว เลิกก็คือเลิกเลย แต่ตนก็ยังไปปรึกษาในหลายเรื่อง เพราะตนอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ มานาน แม้ว่าเลิกเล่นการเมืองไปแล้ว ในอนาคตทางการเมืองของตนก็ยังมีการปรึกษาทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องงาน ไม่ได้มีปัญหาอะไร และ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แนะนำในสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ทุกครั้งที่พูด ไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์ไหน ท่านจะให้นึกถึงประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก นึกถึงสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลัก ท่านพูดแบบนี้ตลอด
“ผมมั่นใจว่าไม่มีงูเห่า ถ้าไปก็ต้องไปทั้งพรรค เพราะการเมืองมันควรเป็นอารยธรรมทางการเมืองที่ดี แม้ว่าพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ไม่ควรที่จะมีงูเห่า งูจงอาง อะไรแล้ว” นายธนกร กล่าว
ส่วนที่นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ออกมาแถลงข่าวว่า พรรคพลังประชารัฐจะร่วมโหวตให้กับพรรคเพื่อไทย เป็นการชิงความได้เปรียบทางการเมืองตัดหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า คงเป็นความชัดเจน ตนเข้าใจว่ามีการเจรจาหารือกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะตอบแบบให้หล่อให้สวยยังไง สื่อก็จะทราบดีอยู่แล้ว คงไม่ไปก้าวล่วงพรรคพลังประชารัฐ
เมื่อถามว่า การตั้งรัฐบาลควรจะมีความชัดเจนก่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกอย่างคงจะต้องจบก่อนโหวตนายกฯ การเจรจาไม่ว่าจะแสดงออกมาในภาพฉากทัศน์ไหน แต่ลึกๆ สื่อก็ทราบดีอยู่แล้วว่าจะต้องมีการเจรจากันก่อน เพราะฉะนั้นมันจะไม่จบ แต่ถ้ามีการคุยนอกรอบก่อนและเจรจาจบแล้ว ทุกอย่างก็จะจบตามกระบวนการเท่านั้นเอง
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยประกาศสลายขั้วเพื่อตั้งรัฐบาลพิเศษนั้นมองอย่างไร เพราะเพื่อไทยยังมีพูดคุยกับพรรคก้าวไกลอยู่ด้วย นายธนกร ระบุว่า ตนคิดว่าวันนี้ก็ต้องเห็นใจพรรคเพื่อไทยด้วย เพราะมีข้อจำกัดหลายอย่าง ส่วนตัวมองว่า อาจจะถึงเวลาที่สีต่างๆ ที่หลากหลายความขัดแย้งต่างๆ ควรจะยุติได้แล้ว และไม่ว่าพรรคไหนควรจะร่วมกันบริหารประเทศ และมีฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล นำสิ่งดีๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ วางรากฐานไว้ไปต่อยอด ตนจึงคิดว่าสถานการณ์การเมืองหากนิ่ง เศรษฐกิจก็จะดีขึ้น นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาถึง 15 ล้านคน ตามเป้าหมายที่ พล.อ.ประยุทธ์ วางไว้ จึงเชื่อว่าโครงการต่างๆ ที่วางรากฐานไว้จะสร้างความเจริญให้กับประเทศมาก หากการเมืองนิ่งๆ และวันนี้พรรคก้าวไกลก็ต้องยอมรับในกระบวนการ ไม่ใช่ว่าเสียงข้างมากได้มากที่สุดแล้วจะได้เป็นนายกฯ ถ้าจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็ต้องเป็นอันดับ 2 เป็นกลไกตามรัฐธรรมนูญ ตามกติกาสากลทั่วไป วันนี้อีกพรรคต้องเป็นรัฐบาล และอีกพรรคก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน เพื่อถ่วงดุลการบริหารประเทศ ส่วนตัวคิดว่าบางพรรคก็เหมาะที่จะเป็นฝ่ายค้าน เพราะมีความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบ เพราะฉะนั้นจะทำให้การเมืองมีความเข้มข้นมากขึ้น และเป็นระบบการถ่วงดุลประเทศ จะได้เดินหน้าไปอย่างมั่นคง. – สำนักข่าวไทย