เพื่อไทย มั่นใจตั้งรัฐบาลสำเร็จ

พรรคเพื่อไทย 4 ส.ค.-“ภูมิธรรม” มั่นใจตั้งรัฐบาลสำเร็จ บอกยังไม่คุยเก้าอี้รัฐมนตรี รอความชัดเจน นายกฯ ลั่นเป็นแค่ข่าวลือข่าวทิพย์

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค เพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีช่วงหลังนายเศรษฐา ทวีสิน และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค เพื่อไทยต่างเงียบทั้งคู่ ว่า ไม่ได้เงียบ ทั้งคู่ก็เดินเข้าพรรคอยู่เป็นปกติ ส่วนกรณีที่ มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่ดินของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่เกี่ยวข้อง กับนายเศรษฐา ก็มีการชี้แจงแล้ว ซึ่งคนที่จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีคนตรวจสอบอย่างเข้มข้น และถือเป็นเรื่องดีที่จะมีการตรวจสอบเพื่อที่จะได้เกิดความสบายใจ เพราะเราไม่ได้มีอะไรที่จะปิดบังอำพราง ทุกอย่างที่เราทำไป เราก็มั่นใจว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเรานั้น เราได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติก่อนที่จะมีการเสนอชื่ออยู่แล้ว


เมื่อถามถึง ความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล ที่มีกระแสข่าวว่าพรรคต่างๆ ที่ไปเจรจาต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีเป็นจำนวนมาก นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นข่าวลือข่าวทิพย์ เพราะที่ผ่านมายังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องตำแหน่งเลย มีเพียงการพูดคุยว่า ถ้าบรรยากาศเป็นเช่นนี้แล้ว พรรคก้าวไกล  ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว การที่จะมีรัฐบาลใหม่โดยมีนายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี ท่านทั้งหลายเห็นอย่างไร ซึ่งก็ให้ทราบว่าหากยอมรับ ให้นายเศรษฐาและพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ก็ช่วยสนับสนุนนายเศรษฐา และตนได้ระบุไปอย่างชัดเจนแล้วว่า วันนี้เรากำลังเลือกนายกรัฐมนตรีบนสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เป็นสถานการณ์ที่บ้านเมืองวิกฤตมามากมายพอสมควร ยิ่งปล่อยให้มีการจัดตั้งรัฐบาลช้า ก็ยิ่งทำให้ประเทศมีวิกฤตมากขึ้น

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ (3 ส.ค.) มีข่าวว่าเลื่อนโหวตนายกรัฐมนตรี กระดานหุ้นก็แดงทั้งกระดาน ซึ่งชัดเจนว่าคนต้องการที่อยากจะได้รัฐบาลใหม่เร็วเพื่อเข้ามาแก้ปัญหา ทั้งนี้ ย้ำว่าหากศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้มีการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินร้อง เราก็ไม่อยาก จะทำอะไรที่ทำให้มีความรู้สึกว่า เราไม่ได้สนใจศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราฟังคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ การเลื่อนออกไปประมาณ 10 วันก็ถือว่าดี


นายภูมิธรรม ยังกล่าวว่า ขณะนี้ประเทศของเราอยู่ในวิกฤต ซึ่งมีความขัดแย้งในมิติต่างๆ ฉะนั้น การที่จะได้นายกรัฐมนตรีมา พยายามเป็นนายกรัฐมนตรีที่ให้ทุกฝ่ายได้เห็นได้คุยและสบายใจ จนกระทั่งสามารถเลือกมาได้ จะเป็นกระบวนการที่สร้างความเชื่อมั่นและทำงานได้อย่างดีที่สุด ในส่วนนี้เรายังคุยกันอยู่ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  ก็ได้โทรศัพท์มาคุยกับตน ซึ่งก็ไม่มีอะไร

เมื่อถามว่า ได้พูดถึงเรื่องรัฐมนตรีกับพรรคต่างๆ บ้างแล้วหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปกติจะมีการพูดคุยกันถึงเรื่องตำแหน่งหลังจากที่มีการฟอร์มรัฐบาลและได้นายกรัฐมนตรีแล้ว ตอนนี้ยัง ไม่ได้เสนอเรื่องกระทรวง เราเสนอเรื่องที่ว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่จะได้นายกรัฐมนตรีเป็นนายเศรษฐา หากเห็นชอบก็ร่วมกันโหวต

“ขณะนี้แบ่งกระทรวงไม่ได้ เพราะยังไม่รู้ว่าจำนวนตัวเลขที่จะจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นอย่างไร เนื่องจากมีจำนวนที่ต้องแบ่งเฉลี่ย จนกระทั่งในสิ่งที่ชัดเจนที่สุดจึงจะมาแบ่งกระทรวงภายหลังว่าความจำเป็นเป็นอย่างไร และเรายืนยันไปแล้วว่าการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ สิ่งที่สำคัญคือนโยบายของพรรคที่จะต้องนำมาปรับนโยบายในส่วนอื่นๆ อะไรที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายของเราหรือไม่สามารถปรับได้ ก็จะทำให้เกิดความร่วมมือกันยาก ฉะนั้น เรื่องทั้งหมดจะเกิดขึ้นหลังจากที่ได้นายกรัฐมนตรีเป็นที่ชัดเจน” นายภูมิธรรม กล่าว


เมื่อถามว่า ตอนนี้เหมือนพรรคเพื่อไทยถูกบีบทั้งจากพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาลและสว.เรื่องคุณสมบัติของนายเศรษฐา นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี ที่ทำให้รู้ว่าการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะมีการบีบนั่นบีบนี่ ถึงที่สุดแล้วในฐานะที่เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่จะบริหารประเทศต้องหนักแน่นและมีวุฒิภาวะ มีความเป็นผู้นำไม่เช่นนั้น เราจะไม่สามารถนำพาประเทศ และความแตกต่างของพรรคการเมืองต่างๆ ร่วมมือกันฝ่าวิกฤตประเทศไปได้ พรรคเพื่อไทยยินดีรับฟัง ความเห็นที่แตกต่างกัน แต่ถึงที่สุดแล้วการตัดสินใจอยู่ที่ความเป็นจริงทั้งการเมือง ประเทศไทย และประชาชน ฉะนั้น การที่จะร่วมมือกันอย่างไร จะแบ่งกระทรวงอย่างไร หรือจากกำหนดนโยบายร่วมกันอย่างไรนั้น ต้องมีการพูดคุยหารือกันทุกฝ่าย รวมถึงต้องเคารพพรรคการเมืองต่างๆ

เมื่อถามว่า หากสูตรการจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่มีพรรคก้าวไกล และพรรคของ 2 ลุง ทำให้การโหวตนายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องใช้เสียงของ สว. มากถึง 100 กว่าเสียงขึ้นไป จะเป็นเรื่องยากหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรายังไม่คิดถึงบริบทนั้น วันนี้เราบอกว่าเราเอาปัญหาของประเทศชาติเป็นหลัก หากใครยินดีและเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทยก็ช่วยสนับสนุนพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล ย้ำว่า เราต้องการทำการเมืองมิติใหม่ เอาประเทศชาติเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่ความต้องการของพรรคการเมืองหรือนักการเมืองเป็นตัวตั้ง อะไรก็ตามที่ถูกกำหนดร่วมกันก็ต้องมองเห็นปัญหาร่วมกันว่า เป็นปัญหาของประชาชนที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน

“หากพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล จะเห็นว่าอะไรคือปัญหาเร่งด่วนของประชาชน และเราจะทำอะไรในกรอบระยะเวลาเท่าไหร่ ทุกอย่างที่เราพูดเรายังยืนยันว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ได้นำเสนอต่อพี่น้องประชาชนไปแล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม จะต้องถูกนำมาจัดการได้ภายในสี่ปีของพรรคเพื่อไทย” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่า หากรอความชัดเจนเรื่องบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีก่อนจะนำอะไรมาเป็นการโน้มน้าวพรรคการเมืองให้เข้ามาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และมั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถตั้งรัฐบาลได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราต้องเชื่อมั่นว่าวันนี้สถานการณ์ทางการเมือง ประชาชน และนักการเมืองได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ซึ่งทุกคนรู้ว่าปัญหาของประเทศที่เราเผชิญมาอย่างน้อย 9 ปีที่ผ่านมา รวมถึงสถานการณ์ภายนอกประเทศที่เกิดวิกฤตการณ์ต่างๆ มากมาย เป็นปัญหาที่ไม่สามารถเอาเรื่องส่วนตัวมากำหนดได้ง่ายนัก ซึ่งต้องเอาปัญหาของประเทศเป็นหลักหากประเทศรอด ทุกคนก็รอดหมด

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในสถานการณ์ขณะนี้ ไม่ใช่ว่าจะมาร่วมรัฐบาลอย่างไร แต่ยินดีให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ และยินดีให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ โดยจะโหวตให้แล้วมาร่วมเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ได้

เมื่อถามว่า สังคมจับตามองของจากที่ไม่มีพรรคก้าวไกล จะไปจับมือกับพรรคของสองลุง ความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ใช่เวลาที่ต้องคุยกันตอนนี้ วันนี้อยากได้เสียงสนับสนุนให้เราเป็นนายกรัฐมนตรีก่อน หากตรงนี้ชัดเจนแล้วขั้นต่อไปเราก็จะเคลียร์ให้ชัดเจนขึ้น เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยมั่นใจหรือไม่ว่าจะจัดรัฐบาลได้สำเร็จ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ต้องมั่นใจสิครับ ไม่มั่นใจเราจะดำเนินการมาถึงขั้นนี้เหรอครับ เราเชื่อว่าความตั้งใจ ประสบการณ์ ความสามารถของบุคลากรพรรคเพื่อไทยที่มีอยู่ และผลงานที่เคยทำมาแล้ว เป็นองค์ประกอบสำคัญ ที่ทำให้เหมาะสมกับสถานการณ์ประเทศที่กำลังวิกฤตอยู่ในขณะนี้ และความขัดแย้งที่สะสมมากว่า 20 ปี เราเชื่อว่าโดยจุดยืนของพรรคเพื่อไทย ที่อยู่กับความเป็นจริง และใช้วิธีการแก้ปัญหาที่ละมุนละม่อม ประนีประนอม เราจะช่วยกันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ และสลายความขัดแย้งไปให้ได้ และจะดีขึ้นเรื่อยๆ .- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]

คุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง

สระแก้ว 26 ส.ค.- ฝ่ายความมั่นคงคุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานประกาศปิด 2 วัน (26-27 ส.ค.) เพื่อความปลอดภัย สถานการณ์บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนกัมพูชา และเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดเมื่อวานนี้ ล่าสุดสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานได้ประกาศปิดเรียน 2 วัน ในวันที่ 26-27 สิงหาคมนี้ เพื่อความปลอดภัย ด้านฝ่ายความมั่นคงเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและปฏิบัติการตามขั้นตอน เพื่อยืนยันการรักษาอธิปไตยของไทย และความปลอดภัยของประชาชน ขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุในช่วงนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่ทางฝั่งกัมพูชายังคงมีชาวบ้านนอนเฝ้าอยู่บริเวณรั้วตลอดทั้งคืน แต่ยังไม่มีการก่อความวุ่นวายใดๆ

“ภูมิธรรม” ยันไทยทำถูกต้องปมรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันกรณีล้อมรั้วลวดหนาม พื้นที่บ้านหนองจาน ไทยทำถูกต้องภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง บอกโฆษก ทบ. แจงรายละเอียด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาใช้มวลชนมากดดัน เพื่อให้ไทยรื้อลวดหนามบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ว่า พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงไปแล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ยังกระทบกันอยู่ ก็แก้ไขปัญหาไปตามสภาพการณ์ เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว และทำทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซีย .-315 -สำนักข่าวไทย