“พีระพันธุ์” ระบุรทสช.ไม่ปิดประตู

รวมไทยสร้างชาติ 3 ก.ค.-“พีระพันธุ์”​ เผย​ เพื่อไทยยังไม่ทาบทามร่วมรัฐบาล​ เปรยถ้าแนวทางเดียวกันก็ร่วมงานกันได้​ ชี้ประตูเป็นนัยว่ายังเปิดรับ ด้าน “อนุชา” ยันเป็นหน้าที่กก.บห.พรรคพิจารณา ส่วนโหวตเลือกนายกฯ ยึดมติพรรค


นายพีระพันธุ์​ สาลี​รัฐ​วิภาค​ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ​ ให้สัมภาษณ์วก่อนประกอบพิธีทางศาสนาในโอกาสครบรอบ 1 ปีการก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ กรณีพรรคเพื่อไทยติดต่อให้เข้าร่วมรัฐบาลแล้วหรือไม่มาแล้วหรือไม่ ว่า “ไม่มี ยังไม่มี” ส่วนสามารถร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ ว่า ยังไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากมีแนวทางเดียวกันก็สามารถทำได้ แต่คนละแนวทางก็ทำไม่ได้ ทั้งนี้ นายพีระพันธุ์พร้อมปฏิเสธตอบคำถามว่าจะไม่ปิดประตูใช่หรือไม่​ โดยหันมาชี้ที่ประตูพรรค​ซึ่งประตูยังเปิดอยู่

ห้วหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติยังมีจุดยืนเหมือนเดิมในฐานะที่เป็นพรรคการเมือง อยากให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้ ขณะเดียวกันก็ต้องดูตัวบุคคลที่จะมานำพาประเทศด้วยว่ามีนโยบายอย่างไรจะทำให้บ้านเมืองสงบสุขเดินหน้าและทำให้สถาบันหลักมีความมั่นคงได้หรือไม่ และขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ประสานงานมายังพรรครวมไทยสร้างชาติ มีแต่ครั้งที่แล้วที่เชิญไปพูดคุยที่พรรคเท่านั้นว่าจะสามารถรับบางพรรคการเมืองที่อยู่กับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่  และได้ตอบไปแล้วว่ารับไม่ได้


“เมื่อพรรคเพื่อไทยเปลี่ยนเงื่อนไขแล้ว ยังไม่สามารถพูดล่วงหน้าได้ เพราะยังไม่ได้รับการติดต่อ และเมื่อไม่มีพรรคก้าวไกลแล้วขอดูนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทยก่อนว่ามีนโยบายหลักอย่างไร  ต้องมาพูดคุยกันก่อน ถ้าพรรคเพื่อไทยคิดว่าเหมาะสมร่วมทำงานได้ก็เชื่อว่าจะติดต่อกลับมาเอง  เพราะตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติขึ้นมาเพื่อชาติและบ้านเมือง ไม่ใช่จะไปหวังตำแหน่งหรือหวังผลประโยชน์ให้กับพรรค ถ้าคิดว่านโยบายของพรรคที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและแนวทางไปด้วยกันได้ก็ร่วมมือทำงานได้ แต่ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ก็อยากให้พรรคแกนนำ สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว  เพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองและต้องดูแลค้ำชูเสาหลักของประเทศทั้ง 3 เสาให้มั่นคงต่อไป” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าว

ส่วนหากพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลมีเสียงจากซีกรัฐบาลเดิม 188 เสียงไปด้วยกันหรือไม่  นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน เนื่องจากที่ผ่านมาทางพรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยันมาตลอดว่าไม่สนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย  ดังนั้น แม้ 188 เสียง จะเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเมืองมากกว่าจะได้รับประโยชน์ สิ่งสำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ อยู่ที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ว่าจะตัดสินใจอย่างไร

เมื่อถามถึงกระแสข่าวส.ส.บางส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติจะโหวตสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทย นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า พรรคได้วางแนวทางไว้ว่า ต้องมีความชัดเจนในเรื่องของสถาบัน และย้ำว่าเสียงการโหวตของพรรคจะเป็นในทิศทางเดียวกัน ส่วนจะมีเสียง สส. แตกแถวหรือไม่ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า กติกาการเมืองต้องเป็นแบบนั้นทุกพรรค ส่วนที่มีกระแสข่าวสมาชิกบางคนจะย้ายพรรคก็เป็นดุลยพินิจของแต่ละคน  พรรคไม่สามารถบังคับจิตใจใครได้  ใครอยู่ที่ไหนสบายใจก็อยู่ ถ้าไม่สบายใจก็ต้องออกไป  ซึ่งทุกที่ก็เหมือนกันหมด และตอนนี้ก็ยังไม่มีใครมาบอกว่าจะขอย้ายพรรค


ส่วนวันนี้ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปีพรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคได้อวยพรอย่างไรบ้าง  นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ถือเป็นปีแรกในการก่อตั้งพรรคและไม่ได้แจ้งใคร ขณะเดียวกันมีการประชุมสภาฯ แม้แต่สมาชิกที่เป็นส.ส.บางคนก็ยังมาร่วมไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์แม้ว่าจะลาออกจากสมาชิกพรรคไปแล้ว แต่ยังมีความสัมพันธ์ส่วนตัวและรับรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของพรรค จึงส่งดอกไม้มาอวยพร แต่ยังไม่ได้พูดคุยกัน

ด้านนายอนุชา นาคาศัย  รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อมาจากพรรคเพื่อไทยร่วมจัดตั้งรัฐบาล ส่วนหากติดต่อมาพร้อมจะพูดคุยหรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ ต้องให้กรรมการบริหารพรรคเป็นฝ่ายเจรจา ส่วนการลงมติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจะยึดตามมติพรรค ซึ่งพรรคมีมติอย่างไรก็จะดำเนินการเช่นนั้น เชื่อว่าไม่มีส.ส.คนใดใช้เอกสิทธิ์ส่วนตัวโหวตหรือไม่ ทุกคนจะยึดตามมติพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการทำบุญเนื่องในโอกาสครบรอบหนึ่งปีก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยประกอบพิธีทางศาสนั้งพุทธและอิสลาม บรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบง่าย มีกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรค นายสุพัฒนพงษ์  พันธุ์มีเชาว์ สส.บัญชีรายชื่อ นายอนุชา นาคาศัย รองหัวหน้าพรรคและ สส.ชัยนาท รวมถึงบรรดาสมาชิกอดีตผู้สมัครและสส.ของพรรร่วมงาน ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้มอบหมายให้นายประทีป  กีรติเลขา  รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นำแจกันดอกไม้มาแสดงความยินดี นอกจากนี้ยังมีแฟนคลับพรรครวมไทยสร้างชาติ มาให้กำลังใจ ทั้งนี้ มีรายงานว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้ส่งคำเชิญไปยังพรรคการเมืองต่างๆ ให้มาร่วมแสดงความยินดีแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]