8 พรรคมีมติเข็น “พิธา” โหวตนายกฯ รอบ 2

ตึกไทยซัมมิท 17 ก.ค. – 8 พรรคมีมติเข็น “พิธา” โหวตนายกฯ รอบ 2 เจ้าตัวลั่นคะแนนได้ไม่ถึง 344 ถึงยอมถอยให้ “เพื่อไทย” รับคุยพรรคต่างขั้วจริง แต่ไม่ได้ชวนร่วมรัฐบาล ย้ำสัมพันธ์​ 8 พรรคยังแน่น เดือนหน้าตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย พร้อมมั่นใจไร้งูเห่า


ที่อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ 8 พรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาล นัดหารือกันภายใน โดยไม่ได้แจ้งต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ เพื่อหารือทิศทางในการลงมติเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ โดยมีการนัดหมายแกนนำทั้ง 8 พรรค มาพบกันในเวลา 17.00 น. ทำให้ผู้สื่อข่าวทุกแขนงมาดักรอทำข่าว เกาะติดทั้งที่ลานจอดรถและบริเวณด้านหน้าทางเข้าอาคาร จึงพบว่ามีแกนนำ 8 พรรค ทยอยเดินทางมา ทั้งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคเพื่อไทย นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการ​พรรค​ก้าวไกล​ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล​ นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.พรรคเป็นธรรม นายสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทยรวมพลัง ทำให้สื่อมวลชนแน่ใจว่ามีการประชุมเกิดขึ้นที่นี่

จนกระทั่งเวลา 18.30 น. แกนนำของทั้ง 8 พรรค ได้ลงมาร่วมแถลงข่าว นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการ​พรรค​ก้าวไกล​ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย นายทวี สอดส่อง ตัวแทนจากพรรคประชาชาติ นายสุพันธ์ มงคลสุธี ตัวแทนจากพรรคไทยสร้างไทย และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้า​พรรค​ ลงมาแถลงข่าวอย่างพร้อมเพรียง​


นายพิธา กล่าวถึงผลการหารือว่า ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ยังคงเสนอชื่อของตนเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่กังวลเรื่องข้อกฎหมายที่เกรงว่าจะเป็นการเสนอญัตติซ้ำ แต่หากมีการตีความกฎหมายที่ต่างกัน เสนอชื่อนายพิธาไม่ได้ ก็ต้องมีการหารือกัน ส่วนตัวเชื่อว่าญัตติคือญัตติการเสนอชื่อนายกฯ เป็นคนละเรื่องกัน โดยพรุ่งนี้จะมีการประชุมวิปสองฝ่าย รอฟังเหตุและผลของวิป รวมถึงฝ่ายตรงข้ามก่อน

เมื่อถามว่าจะตั้งหลักอย่างไรหากเสียงไม่พอในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ นายพิธา กล่าวว่า จะได้เป็นไปตามที่แถลงผ่านวิดีโอ โดยในสมรภูมิแรกหากคะแนนไม่ได้เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ หรือเพิ่มร้อยละ 10 คือ 344 เสียง ก็พร้อมถอย ถอยให้กับประเทศชาติและพรรคการเมืองอันดับ 2 ที่อยู่ใน MOU เดิม ส่วนจะเพิ่มเท่าไร ขอให้รอดู ยังทำงานและยังสู้อยู่

ขณะเดียวกันยังมีเรื่องของการแก้ไขมาตรา 272 ที่ยื่นเข้าไปแล้วและต้องบรรจุภายใน 15 วัน ขอย้ำว่าเป็นการดำเนินการของพรรคก้าวไกลเพียงพรรคเดียว ไม่ได้ผูกมัดกับพรรคอื่น


นายพิธา ยังย้ำว่า ความสัมพันธ์ของ 8 พรรคร่วมยังเป็นไปได้ด้วยดี ยืนยันจะตั้งรัฐบาลของประชาชนให้ได้ใน 8 พรรค จึงมีมติออกมาในวันนี้ ส่วนการพูดคุยกับพรรคชาติไทยพัฒนา ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นมติของ 8 พรรค รวมถึงยังไม่ได้มีการเตรียมชื่อสำรองเอาไว้ ยังเป็นชื่อตนเพียงคนเดียวอยู่

ขณะที่การหารือกับ ส.ว. นายพิธา กล่าวว่า หลังจากวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีการพูดคุยกับ ส.ว.อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่พรรคก้าวไกล แต่เป็นพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล หวังจะได้เสียงเพิ่มจากคนที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมในวันนั้น พร้อมยอมรับว่ามีการต่อสายหาแกนนำพรรครัฐบาลเดิม เป็นเพียงการหารือถึงสถานการณ์การเมือง ไม่ได้เชิญเข้าร่วม

ส่วนที่มีกระแสงูเห่าที่จะไปเพิ่มคะแนนให้กับพรรคเสียงข้างน้อย นายพิธา กล่าวว่า เท่าที่ติดตามแต่ละพรรคบอกแล้วว่าจะไม่มีการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และในส่วนของพรรคก้าวไกลก็ติดตามตลอด จึงเชื่อว่าไม่มี ส.ส.คนใดไปเพิ่มเสียงให้ และที่ผ่านมาคนเป็นงูเห่าก็ได้รับบทเรียนแล้ว และพรรคเพื่อไทยยืนยันเช่นกัน

เมื่อถามว่าหากถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ในวันที่ 19 กรกฎาคม​นี้ นายพิธา กล่าวว่า แม้จะถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ความเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของตนไม่ได้หายไป จึงไม่ใช่เรื่องน่ากังวล

เมื่อถามว่าการแก้ไขมาตรา 112 เป็นส่วนที่ ส.ว. และพรรคการเมืองไม่โหวตให้ นายพิธา กล่าวว่า เรื่อง 112 เป็นเพียงข้ออ้างที่อยู่ข้างหน้า แต่ข้างหลังมีอีกหลายเรื่อง ซึ่งเป็นไปตามที่สื่อได้มีการวิเคราะห์กัน ที่อาจจะไปกระทบต่อผลประโยชน์ รวมถึงเรื่องที่พรรคจะไปปฏิรูปงบ กอ.รมน. จึงเชื่อว่าหากเรื่อง 112 หายไปจะมีเรื่องอื่นเข้ามาเป็นข้ออ้างอีก ขณะเดียวกันตนต้องรักษาคำพูด หาเสียงพูดไว้อย่างไรเราก็ต้องทำตามนั้น ไม่ใช่ว่าทำเพื่อต้องการเข้าสู่อำนาจในทุกวิถีทาง

นายพิธา ให้สัมภาษณ์หลังการแถลงมีกระแสโซเชียลมีเดียเปรียบสามีเพื่อไทยและเจ้าสาวก้าวไกล ถามว่ารักกันดีไหม นายพิธา บอกว่ารักกันดี ส่วนประเด็นที่มีการโยงเรื่องมือเปรียบเปรยกันว่าความรักครั้งนี้ เหมือนจะต้องเจอเมียน้อย หรือ “อีหนู ล” นายพิธาบอกว่า พรรคเราไม่มีพูดเรื่องเพศ หรือเปรียบแบบนี้อยู่แล้ว

ส่วนที่ ส.ว.เสรี บอกว่าหากพรรคก้าวไกลยังอยู่ใน 8 พรรคร่วมรัฐบาล ส.ว. จะไม่โหวตให้ นายพิธา บอกว่า เป็นเรื่องของคุณเสรี แต่คณะทำงาน 8 พรรคร่วมรัฐบาล มีวิธีดำเนินการพูดคุยอยู่แล้ว และขอบคุณ 13 สมาชิกวุฒิสภาที่โหวตให้อ่านได้แสดงเจตนารมณ์อยู่ข้างพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง รวมไปถึงมั่นใจว่าวันที่ 19 กรกฎาคมนี้จะได้รับคะแนนเสียงมากขึ้น ตนมองว่าเป็นช่วงเวลาประจวบเหมาะทุกอย่าง 4 ประตู ในการถาโถมเข้ามาพอดิบพอดีกับการโหวตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

เร่งช่วยคนพลัดตกหลุมก่อสร้างรถไฟฟ้า ลึกกว่า 10 ม.

กทม. 19 พ.ค. – เร่งช่วยคนพลัดตกหลุมลึกกว่า 10 ม. โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม เกิดเหตุคนพลัดตกลงไปในหลุมซึ่งกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า ใกล้เคียงซอยหลานหลวง 8 ขนาดความลึกประมาณ 15-19 เมตร ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างช่วยเหลือ โดยโรยตัวลงไปช่วยผู้ติดอยู่ภายในหลุม สำหรับโครงการดังกล่าว เป็นโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เบื้องต้นคาดว่าอุบัติเหตุน่าจะเกิดระหว่างขั้นตอนก่อสร้าง ซึ่งเป็นช่วงที่ดันปลอกเหล็กขึ้นลงเพื่อขุดดินก่อสร้างสถานีหลานหลวง ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดต้องตรวจสอบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

คุมตัวกรรมการบริษัท ว. และสหายฯ ส่งศาลฝากขัง

บางซื่อ 19 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวกรรมการบริษัท ว. และสหายฯ ไปฝากขังศาลอาญาแล้ว พร้อมคัดค้านประกันตัว ส่วนนิติบุคคลบริษัท ตำรวจปล่อยตัวชั่วคราว ช่วงบ่ายวันนี้ (19 พ.ค.68) พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ควบคุมตัวนายพลเดช กรรมการบริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด ขึ้นรถตู้ตำรวจไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก บรรยากาศระหว่างเจ้าหน้าที่คุมตัวนายพลเดช ออกมาจากห้องสอบสวน บริเวณชั้น 1 ของโรงพัก เจ้าหน้าที่ได้พานายพลเดช เดินขึ้นไปยังชั้น 2 ก่อนจะพาเดินอ้อมไปอีกฝั่งหนึ่งของโรงพัก แล้วพาเดินลงมาขึ้นรถตู้ของ สน.บางซื่อ โดยระหว่างการควบคุมตัวขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า กังวลหรือไม่เรื่องการยื่นขอประกันตัว และสอบถามอีกว่า ปฏิเสธข้อกล่าวหาหรือไม่ แต่นายพลเดช ไม่ได้ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด มีสีหน้าค่อนข้างกังวล ก่อนจะขึ้นรถตู้ของ สน.บางซื่อ ขณะที่นายพฤหัส มหาวรรณ ทนายความ เดินตามมาทีหลัง ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่า นายพลเดช ให้การว่าอย่างไรบ้าง ปฏิเสธหรือยอมรับข้อกล่าวหา […]

นายกฯ แพทองธาร เปิดทำเนียบต้อนรับ ปธน.อินโดนีเซีย

ทำเนียบ 19 พ.ค.- นายกฯ แพทองธาร เปิดทำเนียบต้อนรับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เดินทางเยือนประเทศไทยในรอบ 20 ปี พร้อมสานต่อความสัมพันธ์ 75 ปี ยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกันในทุกมิติ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ นายปราโบโว ซูบียันโต (H.E. Mr. Prabowo Subianto) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) ในรอบ 20 ปี ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-อินโดนีเซีย นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า และนายกรัฐมนตรี เชิญประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ถ่ายภาพร่วมกัน ณ บันไดโถงกลาง ตึกไทยคู่ฟ้า และประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ลงนามในสมุดเยี่ยมและชมของที่ระลึก ณ ห้องสีงาช้าง (ด้านนอก) ตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นผู้นำทั้งสอง หารือข้อราชการเต็มคณะ ภายใต้กลไก Leaders’ Consultation ครั้งแรก […]

สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ขณะที่ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8%

กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ขณะที่ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8% ชี้มองตามสถานการณ์จริงไม่ได้มองในแง่ร้ายเกินไป ลุ้นเงินดิจิทัลเฟส 3 – มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงประชุมวันนี้ พร้อมเตือนผู้ประกอบการฯ เตรียมรองรับความผันผวนทางการค้า ส่วนประชาชนใช้จ่ายให้มีความรอบคอบมากขึ้น นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 1/68 ขยายตัว 3.1% ต่อเนื่องจากร้อยละ 3.3 ในไตรมาส 4/2567 ปัจจัยหลักมาจากการผลิตภาคเอกชนชะลอลง ขณะที่ภาคเกษตรเร่งขึ้น ด้านการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชน และรัฐบาล การนำเข้าสินค้าและบริการ และการสะสมทุนถาวรเบื้องต้นชะลอลง ขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการขยายตัวในเกณฑ์สูง 12.3% โดยเร่งขึ้น 11.5% จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม สภาพัฒน์ฯ ได้ปรับคาดการณ์ GDP ปี 68 ลงเหลือเติบโต 1.3-2.3% หรือช่วงกลางของคาดการณ์ที่ 1.8% […]