ก้าวไกลมั่นใจรอบ 2 ได้เสียง ส.ว.เพิ่ม

ตึกไทยซัมมิท 17 ก.ค. – “ศิริกัญญา”  ย้ำแก้ ม.272 ปิดสวิตช์ ส.ว. ใช้เวลาไม่นาน ชี้เปิดทางออกให้ ส.ว. หลังบางส่วนถูกข่มขู่เอาชีวิต มั่นใจโหวตรอบ 2 ได้เสียงหนุนจาก ส.ว. เพิ่ม ไม่รู้ใครขอ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” ทาบ ชทพ.-ปชป. ร่วมรัฐบาล


น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวก่อนการหารือระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย เพื่อหาข้อสรุปเรื่องการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบที่ 2 ว่าพรรคก้าวไกลไม่เคยมีความกังวลเลย ทุกอย่างเป็นไปตามที่ออกแถลงการณ์กับประชาชนไปแล้ว คาดว่าการโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 หลังออกแคมเปญ 2 สมรภูมิรบ เปลี่ยนใจ ส.ว. ให้อยู่ข้างประชาชนจะได้รับการตอบรับที่ดี ส่วน ส.ว. ที่ไม่เห็นด้วยให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีก็มีทางเลือกโหวตแก้ไขมาตรา 272 ถ้ายังไม่เป็นผล ทั้ง 2 สมรภูมิจะเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลต่อไป

“ในส่วนของพรรคก้าวไกล ขึ้นอยู่กับประธานสภาฯ ที่จะบรรจุวาระมาตรา 272 คาดว่าจะเป็นภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นไปตามระเบียบที่จะเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ และสัปดาห์หน้าจะทราบอีกครั้งอย่างชัดเจน ส่วนที่พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272  เพราะเห็นว่าเป็นเหมือนเป็นการมัดมือชกพรรคเพื่อไทย วันนี้จะคุยปรับความเข้าใจกัน ยืนยันว่ามาตรา 272 ไม่ใช่การมัดมือชกใคร แต่คิดว่าควรจะทำภารกิจร่วมกันทั้ง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล และเมื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ไม่ผ่านถึงจะเปิดทางให้กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นไปตามที่ได้แถลงกับประชาชน ยืนยันว่าจะไม่ยืดเยื้อ และจะทราบผลในสัปดาห์หน้า ถ้าผ่านจะผ่านกระบวนการวาระ 2 และ 3 แล้วเสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์เท่านั้น ไม่ใช่เรื่องจะยืดเยื้อระยะเวลาไปไกล เหมือนตอน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ก็ใช้เวลาเหมือนกัน จึงคิดว่าถ้าแก้มาตรา 272 ถ้าผ่าน ยืดเวลาไปอีก 2-3 สัปดาห์ ก็ไม่ได้ใช้เวลามากเกินไป” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว


น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า การที่พรรคก้าวไกลย้ำจะแก้ไขมาตรา 272 เพราะมีขบวนการบังคับข่มขู่ เอาชีวิต ส.ว.หลายท่าน เพื่อไม่โหวตให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี นี่จึงเป็นทางออกที่ดีสำหรับหลายฝ่าย รวมถึงสมาชิกวุฒิสภา

ส่วนกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่จะต้องใช้สัดส่วน ฝ่ายค้านร้อยละ 20 นั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนนั้นจะอยู่ในการโหวตวาระ 3 อีกทั้งรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดว่าเป็นฝ่ายค้าน แต่กำหนดไว้ว่าเป็นพรรคที่ไม่มีรัฐมนตรี ประธานสภาฯ รองประธานสภาฯ ซึ่งพรรคก้าวไกลคำนวณไว้แล้วว่ามีเพียงพอที่จะผ่านเมื่อถึงวาระนั้น

“พรรคก้าวไกลไม่ถอยเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 เพราะเป็นสิ่งที่ทำสัญญากับประชาชนไว้ ดิฉันมองว่าเรื่องมาตรา 112 เป็นเพียงข้ออ้างที่จะไม่โหวตให้นายพิธา การที่จะยอมถอยและเสียสัจจะกับประชาชน จึงเลือกที่จะไม่เสียสัจจะ และไม่กังวลว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรียาวนาน หากเดินหน้าแก้ไขมาตรา 272 ซึ่งคงใช้ระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี อย่างมากไม่เกิน 2 สัปดาห์ ซึ่งอยู่ในวิสัยที่จัดการได้ และไม่ใช้เวลามากเกินไป” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว


เมื่อถามถึงกระแสข่าวชวนพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมรัฐบาล น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์สื่อ ซึ่งไม่ทราบเรื่องว่าใครเป็นคนขอให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปต่อสายพูดคุย อย่างไรก็ตาม หาก 2 พรรคนี้มาร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะเติมเสียง และถึง 376 เสียงได้ง่ายขึ้น แต่ถ้ามีเงื่อนไขไม่เอามาตรา 112 ก็คงไม่สามารถเข้าร่วมกับพรรคก้าวไกลได้ ในฐานะพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

น.ส.ศิริกัญญา เชื่อว่าเป็นการหารือระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย จะราบรื่นและเป็นไปตามที่พรรคก้าวไกลคาดหวังไว้ ส่วนจะยืนยันกับพรรคเพื่อไทยเรื่องเสียงส.ว. ที่ผ่านมาสื่อสารโดยตลอดว่าได้หาเสียงไปแล้ว รวมถึงได้รวบรวมรายชื่อเพื่อแลกกับพรรคเพื่อไทย เพื่อการติดต่อจะได้ไม่ซ้ำกัน  

ส่วนรอบนี้จะมีเสียง ส.ว. มากกว่า13 เสียงหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า คิดว่าจะได้เพิ่มเติมจาก ส.ว. ที่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุม.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย