แนะก้าวไกลเลิกอ้าง 14 ล้านเสียงแล้วถอย

ทำเนียบรัฐบาล17 ก.ค.-“ธนกร” ย้ำจะโหวตกี่ครั้งแต่เงื่อนไขแก้ ม.112 ทำ “พิธา” ไม่ได้เป็นนายกฯ เลิกอ้าง 14 ล้านเสียง ถ้าไม่ถอย อีกฝั่งก็ไม่ถอย แนะให้พรรคอันดับ 2 เสนอชื่อ ถ้า 2 ไม่ได้ก็ 3 ระบุโอกาสทุกพรรคจับมือดันก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านพรรคเดียวก็มี  


นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ  กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลเดิมจะไม่เสนอชื่อโหวตนายกรัฐมนตรีแข่งเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และหลายพรรคยืนยันตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่ได้เสนอ ส่วนทิศทางการโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีรอบสอง ยืนยันตั้งแต่ต้นแล้วว่าการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีควรเสนอครั้งเดียว เพราะข้อเท็จจริงทุกพรรคการเมืองรวมถึงส.ว. ทราบวิสัยทัศน์ของนายพิธาแล้ว โหวตครั้งแรกไม่ผ่าน คะแนนห่างกันเยอะมาก ดังนั้น ควรเปิดโอกาสให้พรรคที่ได้อันดับสองและอันดับสามเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี เพราะไม่เช่นนั้นจะเสนอไปเรื่อย ๆ ทำให้เสียเวลาสภาฯ ส่วนที่ ส.ว. มองว่าโหวตนายพิธาเป็นญัตติซ้ำนั้น เป็นเรื่องข้อกฎหมายต้องไปดู

“วันนี้เรารู้อยู่แล้ว ไม่ว่าพรรคที่จะจัดตั้งรัฐบาลหรือที่จะเป็นฝ่ายค้าน รู้ข้อมูลอยู่แล้วว่าวันนี้หากยังมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล ส.ว.ก็ไม่โหวตให้อยู่แล้ว ควรจะเลิกอ้างเรื่อง 14 ล้านเสียงได้แล้ว วันนี้คนไทยกว่า 70 ล้านคน และเชื่อว่าใน 14 ล้านเสียงที่เลือกพรคก้าวไกล มีเป็นล้านที่ไม่อยากให้แก้มาตรา 112 พรรคก้าวไกลก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้เพราะอะไร เมื่อไม่ถอย ฝั่งอื่นก็คงไม่ถอยเช่นกัน” นายธนกร กล่าว


ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติจะร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่าต้องพูดคุยกันในพรรค วันนี้สถานการณ์ทางการเมืองเปลี่ยนเงื่อนไข หลายพรรคพูดจากันได้มากขึ้น ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลเก่าก็พูดคุยอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะก่อนและหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีการพูดคุยติดตามข่าวสารบ้านเมืองตลอด

ส่วนช่วงเวลาใดที่พรรคร่วมรัฐบาลเดิมควรจะเสนอนายกรัฐมนตรีลงแข่ง นายธนกร กล่าวว่า ถ้าพรรคอันดับ 1 อันดับ 2 ไม่ได้ ต้องเป็นพรรคอันดับ 3 ถือเป็นความชอบธรรมของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็เป็นนายกรัฐมนตรีได้และถ้าวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ โหวตนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ไม่ควรใช้เวลานานเกินไป เพราะรู้อยู่แล้ว เราอย่าหลอกตัวเองดีกว่า วันนี้ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าการเมืองจะเดินไปในทิศทางใด การเดินเกมในลัษณะ 2 ขา ฝั่งหนึ่งเป็นเสียงของส.ว. อีกฝั่งหนึ่งมีมวลชนไปบูลลี่ล่าแม่มด หรือปลุกม็อบลงถนนคิดว่าไม่ควร เราน่าจะเข้าใจระบบการเมือง ถ้าไม่ได้ก็เป็นฝ่ายค้าน

“ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกล ก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านดีในการตรวจสอบรัฐบาล ถ้าเป็นฝ่ายค้านรอบหน้าพรรคพรคก้าวไกลอาจจะได้ส.ส.มากกว่าเดิม คิดว่าควรเป็นแบบนี้ ถ้าเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ก็ควรปล่อยให้การเมืองเดินหน้าต่อไป อย่าไปปลุกกระแสมวลชนลงถนน วันนี้ บ้านเมืองมีความสงบ หลายอย่างกำลังดีขึ้น ในสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมวางรากฐานไว้ รักษาประเทศไว้ดีกว่า” นายธนกร กล่าว


ส่วนการล่าแม่มดจะทำให้ส.ว.หวาดกลัว แล้วหันมาโหวตให้หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่ได้กลัวการกระทำแบบนี้และกฎหมายแรง ที่ผ่านมาพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทำให้ติดคุกหลายคนแล้ว วันนี้มีการไปฟ้องร้องและขอโทษทีหลังจำนวนมาก คิดว่าไม่ควรทำแล้ว เพราะเวลาถูกดำเนินคดีไม่มีใครช่วย ไม่ว่าใคร ทั้งฝ่ายตนก็ไม่อยากให้มีมวลชนไปเคลื่อนไหวในโซเชียล เป็นคนไทยด้วยกันควรพูดจากัน การเมืองก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของการเมือง แต่การเลือกนายกรัฐมนตรีไม่อยากให้ใช้เวลานาน ภาคเอกชนก็อยากให้มีรัฐบาลโดยเร็ว

นายธนกร กล่าวถึงการที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยระบุว่าพรรคพรรคร่วมรัฐบาลเดิมแจกกล้วย ว่า ไม่มี ลูกไม้เดิม ๆ ไม่มีหรอก ไม่มีใครทำแบบนี้แล้ว เพราะการจะดึงเสียง 60-70 เสียง ไม่ใช่เรื่องง่าย เรื่องแบบนี้ไม่มีและไม่ควรมี เชื่อว่า เป็นการพูดเพื่อดิสเครดิตมากกว่า ซึ่งไม่ควร

ส่วนหาก 8 พรรคร่วมรัฐบาลเปลี่ยนตัวผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ มีจุดยืนอย่างไร นายธนกร กล่าวว่า เป็นไปตามกลไกของสภา สามารถเสนอได้ แต่ถ้ายังมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลอยู่ เป็นเงื่อนไขพิเศษที่ผ่านยาก เพราะต้องการแก้มาตรา 112 ต้องปรับ ตนมองว่านายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีได้เหมือนที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวสพูดว่านายพิธา มีความรู้ความสามารถ พูดจาดี แต่ไม่ทราบว่ากลไกของพรรคปกคลุมด้วยอะไรเท่านั้นเอง

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้หรือไม่ที่ทุกพรรคจับมือกันจัดตั้งรัฐบาล โดยให้พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านพรรคเดียว นายธนกร กล่าวว่า เป็นไปได้หมด เพราะรู้อยู่แล้วว่าเงื่อนไขอยู่ตรงไหน คิดว่าเมื่อถึงเวลาทุกอย่างจบ วันนี้ต้องใช้เวลา แต่ไม่ควรนานเกินไป เพราะประชาชนรอนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เชื่อว่าประชาชนเข้าใจ แต่ถ้านักการเมืองพยายามชี้แจงจะเข้าใจ เพราะวันนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะ ทุกคนรู้ว่า สถานการณ์ทางการเมืองไปในทิศทางใด แต่ระบบกลไกที่ใช้โซเชียลมีเดีย หรือ AI ที่ไปสร้างความเกลียดชังในสังคม ไม่ควรทำ

“ในเมื่อพรรคอันดับหนึ่งอันดับสองไม่ได้ ก็ควรเป็นพรรคอันดับสามเท่านั้นเอง  ไม่ใช่ไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้วจะเป็นจะตาย พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ผมก็พร้อมเป็นฝ่ายค้าน ไม่เห็นเป็นอะไร วันนี้ เป็นรัฐบาลรักษาการ พรุ่งนี้ไม่ได้เป็น ก็เป็นเรื่องปกติ ชีวิตสามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนและประเทศได้ อย่าไปยึดติดกับมันมาก” นายธนกร กล่าว

นายธนกร กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่นายพีระพันธุ์บอกแล้วว่าจะไม่ลงแข่งโหวตเลือกนายกฯ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ไร้คู่แข่ง “ไชยา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1

รัฐสภา 7ส.ค. – “ไชยา พรหมา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 แบบไร้คู่แข่ง ประกาศพร้อมจับมือทุกฝ่ายทำให้สภาฯ เป็นที่พึ่งของประชาชน การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาลงมติเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 แทนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอชื่อนายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เพียงชื่อเดียว จากนั้นนายไชยา ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า ขอบคุณประธานฯ และสมาชิก ที่ให้ความไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ขอยืนยันว่าจะใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์การทำงานทางการเมืองตลอดชีวิตการทำงานเพื่อสภาฯ แห่งนี้ อย่างน้อยสถาบันนิติบัญญัติเป็นกลไกที่มีความสำคัญไม่แพ้อำนาจฝ่ายบริหาร ประธานฯ และตัวไชยาเอง อยู่สภาฯ นี้มานาน ได้ผ่านกงล้อประวัติศาสตร์ทางการเมือง สถานการณ์การเมืองที่แตกต่างกันแต่ละยุคสมัย อยากเห็นองค์กรนิติบัญญัติแห่งนี้เป็นที่พึ่งของที่น้องประชาชนต่อไป และสิ่งหนึ่งที่อยากจะเห็นในขณะที่ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 คือ อยากเห็นความร่วมมือร่วมใจ ไม่ว่าจะฝ่ายค้าน […]

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” รมช.กลาโหม เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session […]