คาร์ม็อบ จี้ ส.ว.ลาออก ปมไม่โหวตนายกฯ   

กทม. 19 ก.ค.-ผู้ชุมนุมคาร์ม็อบบุกยื่นหนังสือถึง ส.ว.ผู้นำเหล่าทัพ และ ส.ว.ที่ไม่เข้าร่วมประชุมโหวตนายกฯ เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ให้ลาออก ระบุข้อความว่า ‘ใบลาออกถึงสมาชิกวุฒิสภาจากประชาชน’


เวลา 14.00 น. ผู้ชุมนุมคาร์ม็อบ นำโดยนายอานนท์ นำภา และนายธัชพงษ์ แกดำ นำมวลชนเคลื่อนขบวนคาร์ม็อบออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยทำกิจกรรมยื่นหนังสือถึง ส.ว.ผู้นำเหล่าทัพ และ ส.ว.ที่ไม่เข้าร่วมประชุมให้ลาออกโดยจุดแรกเริ่มที่กองบัญชาการกองทัพบกถนนราชดำเนิน โดยตลอดเส้นทาง ทั้งรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ที่ร่วมขบวน ต่างส่งเสียงบีบแตรเป็นสัญลักษณ์การขับไล่ ส.ว.

เมื่อมาถึงหน้ากองบัญชาการกองทัพบก ตำรวจสน.นางเลิ้ง ได้เข้ามาแจ้งกำชับให้การชุมนุมเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย จากนั้นผู้ชุมนุมได้อ่านหนังสือหนังสือลาออกที่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ร่างมาไว้สำหรับยื่นให้ ส.ว. ผู้นำเหล่าทัพทั้ง 6 ท่าน พร้อมระบุชื่อ พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้, พลเรือเอกเชิงชาย ชมเชิงแพทย์, พลอากาศเอกอลงกรณ์ วัณณรถ, พลเอกเฉลิมชัย ศรีสวัสดิ์ และพลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติ์ประภัสร์ มีข้อความว่า ‘ใบลาออกถึงสมาชิกวุฒิสภาจากประชาชน’ มีความประสงค์ขอสิ้นสุดการทำงานสมาชิกวุฒิสภา ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.โดยผู้ชุมนุมมองว่าที่ต้องให้ ส.ว.ผู้นำเหล่าทัพลาออก เพราะการทำหน้าที่ ส.ว.ของผู้นำเหล่าทัพเป็นการกินภาษีทับซ้อนทั้ง 2 ตำแหน่ง และไม่เข้าไปทำงานในสภา ดังนั้นจึงมองว่า ไม่ควรรับเงินภาษีจากประชาชน เพราะเงินเดือนเหล่านั้นสามารถนำมาใช้กับประชาชนในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า และแกนนำกลุ่มฯ ยังได้นำของเล่นรถถังมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อสื่อถึงทหารบก รวมถึงนำตุ๊กตาหมู มาแสดงออกสัญลักษณ์ เพราะมองว่า หมูเปรียบเหมือนทหารบกที่เกียจคร้านไม่ทำงาน คิดแต่เรื่องงบประมาณ และหมูเป็นตัวละครเอกของหนังสือ “แอนิมอล ฟาร์ม” ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยอ่าน ซึ่งหมูเป็นตัวละครที่ไม่สนใจประชาธิปไตยแต่กลับปกป้องเผด็จการ นอกจากนี้ผู้ชุมนุมยังได้โปรยกระดาษที่เป็น ‘ใบลาออกถึงสมาชิกวุฒิสภา’ บริเวณหน้าประตูกองบัญชาการกองทัพบกด้วย


จากนั้น นายทหารเวรของกองบัญชาการกองทัพบก เป็นตัวแทนมารับหนังสือดังกล่าว พร้อมยืนยันกับผู้ชุมนุมว่า หนังสือฉบับนี้จะถึงมือผู้บัญชาการทหารบกอย่างแน่นอน หลังจากยื่นหนังสือเสร็จสิ้น ผู้ชุมนุมก็ได้เคลื่อนขบวนออกจากกองบัญชาการกองทัพบก เพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดที่สองคือ กองบัญชาการกองทัพเรือ

เวลา 15.20 น. กลุ่มผู้ชุมนุมคาร์ม็อบเดินทางถึงหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ มีนาวาเอกพันณรงค์ ยุทธวงศ์ ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ เป็นตัวแทนมารอรับหนังสือ และยืนยันว่าหนังสือฉบับนี้ถึงผู้บัญชาการทหารเรืออย่างแน่นอน และสอบถามเหตุผลที่ผู้บัญชาการกองทัพเรือไม่ได้เข้าประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 13 ก.ค. โดยนาวาเอกพันณรงค์ชี้แจงว่า ตามที่ ผบ.ทร.ได้ชี้แจงกับสื่อมวลชนไปแล้วว่าวันนั้นตรงกับวันรำลึกเหตุการณ์ รศ.112 ที่จะต้องเดินทางไปร่วมงานอยู่แล้วไม่อยากให้มองว่าเป็นการรับงานซ้อน เพราะเป็นงานโดยตำแหน่งและได้ลาสภาไว้ล่วงหน้า รวมถึงประธานรัฐสภารับทราบแล้ว 

ส่วนอะไรสำคัญกว่ากันระหว่างไปเลือกนายกฯ กับงานรำลึก ไม่ขอให้ความเห็น ทำให้ผู้ชุมนุมกล่าวโจมตีว่าไม่ควรรับงานซ้อน เพราะจะทำให้ประชาชนลำบาก และแกนนำผู้ชุมนุม ยังสอบถามความคืบหน้าเรื่องเรือดำน้ำ พร้อมทั้งมอบเรือของเล่นที่สื่อถึงความเป็นสัญลักษณ์ของกองทัพเรือ และเป็นสัญลักษณ์ว่าผู้ชุมนุมยังติดตามเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำด้วย


จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้โปรยกระดาษที่เป็นข้อความ และรูปภาพเรือดำน้ำ ก่อนเคลื่อนขบวนต่อไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

เวลา 16:00 น. ผู้ชุมนุมกลุ่ม redem จำนวนหนึ่งนำรถเครื่องขยายเสียงเข้ามาจอดบริเวณถนนพระราม 1 ด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่แยกออกมาจากกลุ่มคาร์ม็อบซึ่งนำโดยนายอานนท์นำพา เพื่อเข้ามาจับจองพื้นที่บนถนนพระราม 1 และรอรับผู้ชุมนุมกลุ่มใหญ่ที่จะเข้ามาสมทบในเวลา 17.30 น.

เมื่อมาถึงผู้ชุมนุมได้เปิดปราศรัยโจมตี พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์​ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่ง จากกรณีที่ไม่เข้าร่วมโหวตเลือกนายกฯ เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้นำเสียงข้างมากได้เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 อีกทั้งยังมีการกล่าวโจมตีในเรื่องของตั๋วโยกย้ายข้าราชการตำรวจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติขอให้แสดงสปิริตเข้าร่วมการโหวตเลือกนายกฯ ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ โดยมีพันตำรวจเอกอนุสนธิ์ นิติเฉลิมวงศ์ รองผู้บังคับการผู้อำนวยการ กล่องแผนงานอาชญากรรม นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ประจำ สปก.ตร เป็นผู้รับหนังสือ

ต่อมาเวลา 17.00 น. หลังจากยื่นหนังสือเปิดผนึกถึง ผบ.ตร ​แล้ว กลุ่ม redem ได้ขึ้นขบวนไปยังลานกิจกรรมด้านหน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ เพื่อรวมตัวกับผู้ชุมนุมกลุ่มคาร์ม็อบซึ่งนำโดยนายอานนท์ นำพา โดยจะมีการเปิดเวทีปราศรัยจัดกิจกรรมเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร่วมโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 เพื่อให้เป็นไปตามมติของประชาชนส่วนใหญ่ 14 ล้านเสียง ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะจัดไปจนถึงเวลา 20:00 น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]