“เสรี​พิศุทธ์​”​ ติงก้าวไกล​ ยกมาตรฐานสูง​ปิดกั้นตัวเอง

กรุงเทพ 15 ก.ค. – “เสรี​พิศุทธ์​”​ ติง​ “ก้าวไกล”​ ยกมาตรฐานสูง​ปิดกั้นตัวเอง​ ปล่อยด้อมส้ม​มีอำนาจเหนือการตัดสินใจ​ทำเสียกระบวนการ ยันรวมได้ทุกขั้วยกเว้น “พล.อ.ประยุทธ์”​


พลตำรวจเอกเสรี​พิศุทธ์​ เตมียเวส​ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย​ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี​ที่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล นัดหารือเพื่อหาทางออกเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรี​ช่วงเย็นวานนี้​ (14 ก.ค.) หลังหลายฝ่ายมีความกังวลว่าหากเสนอชื่อนายพิธา​ ลิ้มเจริญรัตน์​ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล เพียงคนเดียวอาจจะไม่ผ่านการโหวต​ ในฐานะที่เป็นหนึ่งใน 8 พรรคร่วม​จัดตั้งรัฐบาล​ มองว่าควรเสนอชื่ออื่นด้วยหรือไม่​ ว่า​ จะเสนอกี่คนก็ได้ทั้งนั้น เพราะไม่มีข้อบังคับ จะมีคนเสนอชื่อใหม่เป็น​ พลเอกประวิตร​ วงษ์สุวรรณ​ รองนายกรัฐมนตรี​ ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ หรือพลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นมาก็ได้ หรือจะเสนอชื่อของนายพิธา อีกก็ได้ ซึ่งข้อบังคับที่ ส.ว.นำมาอ้าง เป็นข้อบังคับเกี่ยวกับการประชุม เป็นคนละส่วนกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เวลาอ่านหนังสือต้องอ่านให้ครบ ต้องอ่านทั้งเล่มไม่ใช่อ่านข้อเดียวแล้วมาคุย ถ้าอ่านข้อเดียวก็จะเจอข้อที่ 41 ที่กำหนดไว้ว่าญัตติที่เสนอไปแล้ว ถูกตีตกห้ามนำญัตติเดิมมาพิจารณาใหม่ เว้นแต่ประธานสภาฯ จะอนุญาต แต่จะเถียงกันอย่างไรก็เป็นอำนาจของประธานสภาฯ​

ส่วนมีข้อกังวลหรือไม่ หาก ส.ส.และส.ว. อภิปรายจนทำให้ ไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้อีก หรืออาจนำไปสู่ปัญหาอื่น พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ถ้าตนเป็นประธานสภาฯ​ จะไม่ให้อภิปรายแล้ว เพราะอภิปรายกันไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรจะพูด อภิปรายซ้ำๆเดิมๆ ครั้งที่แล้วก็เป็นการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่กลับอภิปรายเรื่องมาตรา 112 มันไม่ใช่ ตนก็เลยต้องอภิปรายตามไปด้วย​ เพราะคนยังไม่เข้าใจเรื่องมาตรา 112 ทั้งส.ว.​ และ ส.ส.​ มีความรู้ขนาดไหนก็ไม่เข้าใจ​ ความจริงมาตรา 112 เป็นกฎหมายอาญาถึงอย่างไรก็แก้ได้ตามรัฐธรรมนูญ และมีการแก้มาหลายครั้งแล้ว ไม่ใช่ไม่รู้เรื่องอะไรแล้วมาแสดงความคิดเห็น


ส่วนในรอบที่ 2 จะเสนอชื่อนายพิธา ได้อีกหรือไม่ และหากไม่ได้ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะทำอย่างไร พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ก็ยังเสนอได้ นายพิธาไม่ได้หมดสิทธิ์ ใครก็เสนอได้ พรรคก้าวไกลจะเป็นผู้เสนอหรือตนเสนอก็ทำได้

เมื่อถามต่อว่าการโหวตรอบแรกเสียงของนายพิธายังไม่ได้ แล้วรอบ 2 จะได้หรือไม่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์​ กล่าวว่า​ ถึงได้มีการเว้นระยะเวลาการโหวตทั้ง 2 ครั้งไว้ จากวันที่ 13 กรกฎาคม​ เป็นวันที่ 19 กรกฎาคม เพื่อให้มีเวลาประสาน​ พร้อมมองว่าพรรคก้าวไกลมีโอกาสไม่มาก เพราะส่วนใหญ่จะปิดกั้นตัวเอง อันนี้ก็ไม่ได้​ อันนั้นก็ไม่ได้​ ไปยกมาตรฐานไว้สูงเลย ยกตัวอย่างเช่น

“พอมี 312 เสียง จะไปหาเพิ่ม ไปติดต่อพรรคชาติพัฒนากล้า ที่มี 2 เสียง แต่พอด้อมส้มทั้งหลายที่ไม่รู้เรื่องพูดมาหน่อยก็ถอยแล้ว​ไปฟังเสียงพวกนี้ทำไม​ พวกนี้มีอะไรกับพรรคก้าวไกล​ ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรหรอก​ ไปฟังใครก็ไม่รู้” พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าว


ส่วนความเป็นไปได้ที่ 8 พรรคร่วมจะเสนอยุทธวิธีใหม่​ ด้วยการเปลี่ยนชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นนายเศรษฐา​ ทวีสิน​ หรือนางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย เพราะหากเป็นแคนดิเดตจากพรรคก้าวไกลจะไม่ได้เสียงจากส.ว.อีก​ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์​ กล่าวว่า​ ยังหรอก​ อย่างไรวันนั้นเพื่อไทยก็ยังไม่แข่งด้วย​ เปิดโอกาสให้พรรคก้าวไกลอย่างเต็มที่​ คบหากันมา​ คุยกันมา​ ทำ​ MOU​ กัน​ เพื่อเปิดสิทธิให้พรรคก้าวไกลเป็นนายกฯ​ เราก็คิดอย่างนั้น​ เพื่อไทย ก็คิดอย่างนั้น​ ก็หนุนกันเต็มที่ จะ​ 2 ครั้ง​ 3 ครั้ง​ 4​ ครั้ง​ ก็ได้​ก็แล้วแต่ พร้อมย้ำว่า วันที่ 19 กรกฎาคม อย่างไรก็เสนอพรรคก้าวไกลแน่ๆ​ เพื่อไทยก็ไม่แข่งด้วย​

ส่วนการโหวตเลือกนายกฯ ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ หากยังไม่ได้นายกรัฐมนตรี พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์​ กล่าวว่า ทั้ง 2 พรรคก็ต้องคุยกัน​ ว่าโหวต​ 2 ครั้งแล้วยังไม่ได้​ ก้าวไกลจะถอยหรือไม่​ ถ้าก้าวไกลถอย เพื่อไทยจะได้เสนอแคนดิเดต​ แต่ถึงแม้จะเปลี่ยนไปเป็นเพื่อไทย​ ในขั้นต้น​ พรรคเพื่อไทยก็จะยังต้องเอาพรรคก้าวไกลไว้พูดมาตลอดจะเสียคำพูดได้อย่างไร เพราะหากเสียคำพูดก็คบกันไม่ได้ พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลต้องคุยกันไปเรื่อยๆ

ส่วนมองฉากทัศน์​สถานการณ์ทางการเมืองอย่างไรหากเพื่อไทยและก้าวไกลแยกกัน​ พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน​ พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล​ พรรคเสรีรวมไทยจะมีจุดยื่นอย่างไร พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์​ กล่าวว่า​ ขอให้ไปย้อนฟังการสัมภาษณ์​ของตนได้ทุกครั้ง​ ตนบอกมาตลอดว่าไม่เอาเผด็จการ​ ไม่เอาพลเอกประยุทธ์​ ผมบอกว่าถ้าเป็นพลเอกประวิตรผมเอาได้ คนมาวิพากษ์วิจารณ์ผม ก็ผมจะเอาแล้วทำไม พอ พลเอกประยุทธ์ ไม่อยู่​ ผมก็รวมได้หมด​ ถึงพลเอกประยุทธ์จะอยู่ ถ้าเขาไม่เอารวมไทยสร้างชาติผมก็รวมได้ ผมไม่ใช่คนปิดกั้นตัวเอง ผมเปิดได้หมด

เมื่อถามย้ำว่าเงื่อนไขคือพลเอกประยุทธ์คนเดียว พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์​ กล่าวว่า ก็ผมบอกว่าคนรัฐประหาร​คือพลเอกประยุทธ์​ พลเอกประวิตร เพียงแค่ถูกเชิญมาร่วมรัฐบาลเฉยๆ ก็ไม่ใช่คนรัฐประหาร​ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

อัญเชิญเรือพระที่นั่งกลับพิพิธภัณฑ์

หลังสร้างความตราตรึงให้กับชาวไทยและคนทั้งโลก กับความงดงามของขบวนพยุหยาตราทางชลมารค กองทัพเรือ และกรมศิลปากร เริ่มอัญเชิญเรือพระที่นั่ง และเรือพระราชพิธี กลับเข้าสู่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี ซึ่งแต่ละขั้นตอนต้องใช้ความละเอียด รอบคอบ เพราะเรือทุกลำถือเป็นสมบัติล้ำค่าของแผ่นดิน

ย้อนรอยเส้นทางชีวิต “บิ๊กโจ๊ก”

เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วที่เส้นทางตำรวจของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ต้องยุติลง หลังถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ จากนี้ชะตาชีวิต “บิ๊กโจ๊ก” ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช. ว่าจะได้กลับมาสวมชุดตำรวจอีกหรือไม่

“ปานเทพ” เปิดหลักฐานสัญญาชัด 71 ล้านเป็นชื่อ “มาดามอ้อย”

“อ.ปานเทพ” เปิดหลักฐานหนังสือสัญญาบอกชัด 71 ล้านบาท เป็นชื่อ “มาดามอ้อย” เปิด 3 รายชื่อให้เร่งตรวจสอบ หวั่นโยกย้ายทรัพย์สิน