กทม. 11 ก.ค.- “ธรรมนัส” เผยที่ประชุมพปชร. ตั้งเป็น “ตัวแทนส.ส.” ประสานพรรคการเมืองอื่น ย้ำพปชร.ไม่ส่งคนชิงนายกฯ – ไม่โหวตพรรคหนุน 112 ชี้ “พิธา” ไม่ผ่านครั้งแรก ต้องปล่อยให้พรรคลำดับ 2 เชื่อ “บิ๊กตู่” วางมือการเมืองเพราะคิดดีแล้ว
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยหลังการประชุมพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมวันนี้ มีมติวาระสำคัญ 3 เรื่อง
- การเลือก ส.ส.เป็นตัวแทน ประสานงานกับพรรคการเมืองอื่น ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้ว่าอยู่ในสถานะใด โดยแต่งตั้งให้ตน เป็นประธาน ขณะที่ นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร และ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เป็นรองประธาน
- ย้ำจุดยืนของพรรคชัดเจนว่า จะไม่เสนอชื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเสียงข้างน้อยเด็ดขาด
- จะไม่โหวตนายกรัฐมนตรีจากพรรค ที่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112
เมื่อถามว่า จะไม่โหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกลใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุ ไม่ว่าจะเป็นใคร ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขมาตรา 112 เราจะไม่โหวตให้
เมื่อถามว่าจากประสบการณ์การเมือง คิดว่าการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งแรกจะผ่านหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องไปดูเสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภา 750 คน ไม่ใช่ 500 คน ซึ่งถ้าถามส่วนตัวอยากให้จบตั้งแต่ครั้งแรก แต่ถ้าไม่จบก็ต้องใช้เวลา
ส่วนกรณีที่มีการนัดเคลื่อนไหวกดดันหน้าสภา ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การพิจารณา เป็นเรื่องของ ส.ส.และ ส.ว.จะลงมติเลือกใคร ดังนั้น “จะให้ดั่งใจคงไม่ได้ ต้องยึดกฎหมายรัฐธรรมนูญ และเสียงส่วนใหญ่ของสภา” เมื่อถามย้ำว่าเป็นห่วงจะเกิดความวุ่นวายหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อาจต้องใช้เวลาแก้ปัญหา ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ แฟนคลับ อาจจะผิดหวัง แต่ทุกอย่างจะลงเอยด้วยดี
เมื่อถามว่าได้เตรียมการอย่างไร หากการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งแรกไม่ได้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เนื่องจากเราเป็นพรรคลำดับที่ 4 พร้อมระบุ “สมมุติว่าครั้งแรกไม่ผ่าน ก็ต้องให้โอกาสพรรคลำดับ 2 ในการรวบรวมเสียง และหากพรรคลำดับ 2 ไม่ผ่าน ก็ต้องเป็นพรรคลำดับ 3 ดังนั้นเราจะไม่แทรกแซงเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ตามนโยบายของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคที่มีฉันทามติร่วมกัน”
เมื่อถามว่าหากนายพิธา โหวตไม่ผ่านครั้งแรก ก็ไม่ควรเสนอชื่อซ้ำใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า หากที่สุดแล้ว เสียงที่ได้ลำดับ 1 ไม่ผ่าน ก็ควรให้พรรคลำดับ 2 ไปจัดการ
ส่วนเมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ โดยไม่มีก้าวไกล จุดยืนพรรคพลังประชารัฐ จะโหวตให้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ย้ำ ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด หากไม่แตะเรื่อง 112 ก็พร้อมโหวตให้ แต่การตัดสินใจของพรรค ต้องเป็นมติพรรค
เมื่อถามว่ามีโอกาสจะตกมาถึงพรรคลำดับ 3 และ 4 หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ก็ควรเป็นแบบนั้น” ผู้สื่อข่าวถามต่อแสดงว่า พล.อ.ประวิตร มีโอกาสชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเช่นกัน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “เราอย่าไปเพิ่งพูดถึงประเด็นนั้น เอาประเด็นลำดับ 1 ก่อนว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน จากนั้นเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย”
เมื่อถามว่าหากการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งแรกไม่ผ่าน จะมีการเสนอชื่อครั้งที่ 2 มองอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นเรื่องของประธานสภาฯ ที่จะพิจารณา แต่เข้าใจว่าเรื่องนี้มีกฎหมายอยู่
เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่พรรคพลังประชารัฐ จะรวมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังพล.อ.ประยุทธ์ ประกาศวางมือทางการเมืองแล้ว ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายชัดเจนว่าเราจะอยู่ของเรา ไม่ไปก้าวก่ายกิจการของพรรคอื่น ส่วนตัวคิดว่า ท่านคงคิดมาดีแล้ว
เมื่อถามว่า การโหวตนายกฯ ของพรรคร่วมรัฐบาลเดิมต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค เราไม่ก้าวก่าย และจนถึงขนาดนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน แต่เราไม่ฟรีโหวต จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันหมด รวมทั้งจะใช้วิธีงดออกเสียง หรือไม่ลงคะแนน ก็ต้องรอดูหน้างานก่อน แต่น่าจะงดเหมือน ส.ว.
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำอะไรหรือไม่ในเรื่องของการโหวตนายกฯ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นนโยบายชัดเจนว่าเราไม่สนับสนุนพรรคการเมืองที่จะเสนอแก้มาตรา 112 ส่วนจะงดหรือปฏิเสธค่อยว่ากันอีกที ซึ่งมติที่ประชุมให้ฟังตน อย่างไรก็ตาม ในวันดังกล่าวได้เปิดโอกาสให้แต่ละพรรคได้อภิปรายพรรคละ 20 นาที พรรคพลังประชารัฐได้มอบหมายให้ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เป็นผู้อภิปราย ก็จะเน้นเนื้อหาในส่วนเรื่องของการแบ่งแยกดินแดน .-สำนักข่าวไทย