“ธรรมนัส” เชื่อ “บิ๊กตู่” วางมือการเมืองเพราะคิดดีแล้ว

กทม. 11 ก.ค.- “ธรรมนัส” เผยที่ประชุมพปชร. ตั้งเป็น “ตัวแทนส.ส.” ประสานพรรคการเมืองอื่น ย้ำพปชร.ไม่ส่งคนชิงนายกฯ – ไม่โหวตพรรคหนุน 112 ชี้ “พิธา” ไม่ผ่านครั้งแรก ต้องปล่อยให้พรรคลำดับ 2 เชื่อ “บิ๊กตู่” วางมือการเมืองเพราะคิดดีแล้ว


ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยหลังการประชุมพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมวันนี้ มีมติวาระสำคัญ 3 เรื่อง

  1. การเลือก ส.ส.เป็นตัวแทน ประสานงานกับพรรคการเมืองอื่น ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้ว่าอยู่ในสถานะใด โดยแต่งตั้งให้ตน เป็นประธาน ขณะที่ นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร และ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เป็นรองประธาน
  2. ย้ำจุดยืนของพรรคชัดเจนว่า จะไม่เสนอชื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเสียงข้างน้อยเด็ดขาด
  3. จะไม่โหวตนายกรัฐมนตรีจากพรรค ที่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112

เมื่อถามว่า จะไม่โหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกลใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุ ไม่ว่าจะเป็นใคร ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขมาตรา 112 เราจะไม่โหวตให้


เมื่อถามว่าจากประสบการณ์การเมือง คิดว่าการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งแรกจะผ่านหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องไปดูเสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภา 750 คน ไม่ใช่ 500 คน ซึ่งถ้าถามส่วนตัวอยากให้จบตั้งแต่ครั้งแรก แต่ถ้าไม่จบก็ต้องใช้เวลา

ส่วนกรณีที่มีการนัดเคลื่อนไหวกดดันหน้าสภา ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การพิจารณา เป็นเรื่องของ ส.ส.และ ส.ว.จะลงมติเลือกใคร ดังนั้น “จะให้ดั่งใจคงไม่ได้ ต้องยึดกฎหมายรัฐธรรมนูญ และเสียงส่วนใหญ่ของสภา” เมื่อถามย้ำว่าเป็นห่วงจะเกิดความวุ่นวายหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อาจต้องใช้เวลาแก้ปัญหา ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ แฟนคลับ อาจจะผิดหวัง แต่ทุกอย่างจะลงเอยด้วยดี

เมื่อถามว่าได้เตรียมการอย่างไร หากการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งแรกไม่ได้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เนื่องจากเราเป็นพรรคลำดับที่ 4 พร้อมระบุ “สมมุติว่าครั้งแรกไม่ผ่าน ก็ต้องให้โอกาสพรรคลำดับ 2 ในการรวบรวมเสียง และหากพรรคลำดับ 2 ไม่ผ่าน ก็ต้องเป็นพรรคลำดับ 3 ดังนั้นเราจะไม่แทรกแซงเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ตามนโยบายของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคที่มีฉันทามติร่วมกัน”


เมื่อถามว่าหากนายพิธา โหวตไม่ผ่านครั้งแรก ก็ไม่ควรเสนอชื่อซ้ำใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า หากที่สุดแล้ว เสียงที่ได้ลำดับ 1 ไม่ผ่าน ก็ควรให้พรรคลำดับ 2 ไปจัดการ

ส่วนเมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ โดยไม่มีก้าวไกล จุดยืนพรรคพลังประชารัฐ จะโหวตให้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ย้ำ ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด หากไม่แตะเรื่อง 112 ก็พร้อมโหวตให้ แต่การตัดสินใจของพรรค ต้องเป็นมติพรรค

เมื่อถามว่ามีโอกาสจะตกมาถึงพรรคลำดับ 3 และ 4 หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ก็ควรเป็นแบบนั้น” ผู้สื่อข่าวถามต่อแสดงว่า พล.อ.ประวิตร มีโอกาสชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเช่นกัน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “เราอย่าไปเพิ่งพูดถึงประเด็นนั้น เอาประเด็นลำดับ 1 ก่อนว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน จากนั้นเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย”

เมื่อถามว่าหากการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งแรกไม่ผ่าน จะมีการเสนอชื่อครั้งที่ 2 มองอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นเรื่องของประธานสภาฯ ที่จะพิจารณา แต่เข้าใจว่าเรื่องนี้มีกฎหมายอยู่

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่พรรคพลังประชารัฐ จะรวมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังพล.อ.ประยุทธ์ ประกาศวางมือทางการเมืองแล้ว ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายชัดเจนว่าเราจะอยู่ของเรา ไม่ไปก้าวก่ายกิจการของพรรคอื่น ส่วนตัวคิดว่า ท่านคงคิดมาดีแล้ว

เมื่อถามว่า การโหวตนายกฯ ของพรรคร่วมรัฐบาลเดิมต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค เราไม่ก้าวก่าย และจนถึงขนาดนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน แต่เราไม่ฟรีโหวต จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันหมด รวมทั้งจะใช้วิธีงดออกเสียง หรือไม่ลงคะแนน ก็ต้องรอดูหน้างานก่อน แต่น่าจะงดเหมือน ส.ว.

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำอะไรหรือไม่ในเรื่องของการโหวตนายกฯ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นนโยบายชัดเจนว่าเราไม่สนับสนุนพรรคการเมืองที่จะเสนอแก้มาตรา 112 ส่วนจะงดหรือปฏิเสธค่อยว่ากันอีกที ซึ่งมติที่ประชุมให้ฟังตน อย่างไรก็ตาม ในวันดังกล่าวได้เปิดโอกาสให้แต่ละพรรคได้อภิปรายพรรคละ 20 นาที พรรคพลังประชารัฐได้มอบหมายให้ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เป็นผู้อภิปราย ก็จะเน้นเนื้อหาในส่วนเรื่องของการแบ่งแยกดินแดน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย