เลขาก้าวไกลระบุ มีกระแสกดดันส.ว.ที่จะโหวตให้พิธา

รัฐสภา 11 ก.ค. – เลขาก้าวไกลเผยมีกระแส “กดดัน-แบล็กเมล์-ให้ผลประโยชน์” ส.ว.ที่จะโหวตให้ “พิธา” เป็นนายกฯ  สงสัย กกต. ลุกลี้ลุกลนพิจารณาคดี “พิธา” มีธงการเมืองหรือไม่


นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการ พรรคก้าวไกล กล่าวภายหลังร่วมหารือกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และตัวแทนพรรคการเมือง รวมทั้งวิปวุฒิ ว่า ได้ตกลงกันในเรื่องของระยะเวลาจะเริ่มประชุมในเวลา 09.30 น. และหลังจากเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแล้วจะเปิดให้สมาชิกรัฐสภาได้อภิปราย ซักถามอย่างเต็มที่ ก่อนที่จะมีการลงมติ ในช่วงเย็นประมาณ 17.00 น. ซึ่งเมื่อมีการอภิปรายซักถามจากสมาชิกแล้ว ประธานก็จะเปิดให้แคนดิเดตนายกที่ รัฐมนตรี ได้รับการเสนอชื่อ ได้ตอบคำถาม ซึ่งเสมือนการแสดงวิสัยทัศน์ไปในตัว

สำหรับจำนวนเสียงส.ว.ในการสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกลนั้น นายชัยธวัชยอมรับว่า ขณะนี้มีกระแสกดดัน ในส.ว.ค่อนข้างมาก ดังนั้นตอนนี้ส.วส่วนใหญ่จึงมีท่าทีไม่แสดงออกชัดเจน ต้องรอในวันที่ 13 ก.ค.ซึ่งเป็นวันลงมติเลย อย่างไรก็ตามขณะนี้มีสัญญาณบวกอย่างแน่นอน แต่ต้องยอมรับว่าในช่วงหลายวันนี้มีกระแสข่าวว่า มีการกดดันสว ที่อาจถูกคาดหมาย ว่าจะโหวตให้นายพิธา อย่างมากเป็นแต่ละราย ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความ หรือส่งคนไปพูดคุยกดดัน และบางกระแสข่าว มีถึงขั้นแบล็กเมล์ด้วยซ้ำ หรือมีการเสนอผลประโยชน์ให้ต่างๆนานา ซึ่งก็หวังว่าจะไม่เกิดเหตุเช่นนั้นจริงๆ เมื่อถามย้ำว่ามีหลักฐานหรือไม่นายชัยธวัชกล่าวว่า ไม่มีหลักฐาน เป็นกระแสข่าวและหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริงๆ


ส่วนกรณีที่ส.ว. เตือนพรรคการเมือง ที่โหวต ให้คนที่ขัดรัฐธรรมนูญอาจถูกยุบพรรค นายชัยธวัชกล่าวว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน ซึ่งจากที่ติดตามข่าว นพ.อำพล จินดาวัฒนะ ส.ว. ก็บอกว่าไม่เกี่ยวกัน แม้ว่าจะมีข้อกล่าวหาอะไรในตัวนายพิธาก็แล้วแต่ เมื่อเข้าสู่กระบวนการไม่ว่าจะเป็นศาลหรือองค์กรอิสระ เมื่อยังไม่มีข้อยุติถึงที่สุดก็ต้องถือว่านายพิธา ไม่ได้มีอะไรผิด และเป็นการแยกการทำหน้าที่อยู่แล้วระหว่างการตรวจสอบเรื่องคุณสมบัติ ของผู้สมัครตามกฎหมายกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ของสมาชิกรัฐสภาถือเป็นคนละส่วนกัน

เมื่อถามย้ำว่าจะมีผลในการโหวตให้นายพิธาหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า คงไม่เป็นเช่นนั้นเพราะสมาชิกรัฐสภาแยกออก แต่ขณะนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือกรณีที่มีความพยายามจะชูเรื่อง ความจงรักภักดีมาเป็นเกณฑ์ในการโหวตหรือไม่โหวต  แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเราคิดว่า เป็นเรื่องไม่เหมาะสมที่จะทำเช่นนั้นเพราะถือว่าเป็นการหมิ่นเหม่ ที่จะนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาปะทะกับผลการเลือกตั้ง ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย

ส่วนกรณีที่มีสว. บางคนเสนอให้ลดเพดานเรื่องมาตรา 112 ก่อนโหวตนายกรัฐมนตรี นั้น นายชัยธวัชกล่าวว่า เมื่อวานตนได้ทราบข่าวว่ามีการส่งข้อความกันในหมู่ส.ว. ต่อให้นายพิธาและพรรคก้าวไกลบอกว่า จะอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ขออย่าหลงเชื่อ ซึ่งเข้าใจว่าคนที่มีเจตนาแน่วแน่ ว่าอย่างไรก็ไม่ต้องการเห็นพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล จะมีเหตุผล 108


เมื่อถามย้ำว่ามีแผนสำรองหากโหวตรอบแรกไม่ผ่าน หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกัน ในห้องประชุมก็ยังไม่ได้หารือกันเรื่องนี้ เพราะยังไม่ใช่วาระและยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดคุยกันเรื่องนี้  และยังไม่มีการคุยกันว่าจะมีการโหวตกี่ครั้ง ส่วนจะแยกโหวต ส.ส.ก่อนหรือไม่นั้น ก็มีการพูดคุยกัน แต่ในที่ประชุมเห็นว่าคงยังไม่เหมาะสมที่จะต้องยกเว้นข้อบังคับการประชุม แต่จริงๆส.ว.ก็ทราบอยู่แล้วว่าเสียงของส.ส.ส่วนใหญ่ ชัดเจน โดยทั้ง 8 พรรคยังยืนยันที่จะเสนอนายพี่ทาเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นก็ทราบอยู่แล้วว่าเสียงส่วนใหญ่ของสภาล่างเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลมีการประเมินหรือมีแผน 2 หรือไม่ว่าหากโหวตรอบแรกไม่ผ่านจะทำอย่างไร นายชัยธวัชกล่าวว่าขณะนี้ยังโฟกัสว่าจะทำให้วันที่ 13 ดีที่สุดก่อน

นายชัยธวัชยังกล่าวถึง ผลการประชุมของกกต. ที่พิจารณาเรื่องการถือหุ้นของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ว่า นายพิธาได้ทำหนังสือว่าอยากให้กกต.ได้แจ้งข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายที่มีการกล่าวหานายพิธาว่ากระทำผิดกฎหมาย อย่างไร เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้นายพิธาได้ชี้แจง ซึ่งเป็นกระบวนการที่ควรจะเป็น

แต่ตอนนี้เกิดคำถามว่า เหตุใดลุกลี้ลุกลน มีกระแสข่าวว่าจะรวบรัด ให้กกต.มีธงหรือไม่ที่จะรีบ ส่งเรื่องนี้ไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ส.ส. ของนายพิธาให้ได้ ก่อนที่จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรี อันนี้เป็นความกังวล และคิดว่ากกต.ก็ต้อง อธิบายให้ได้ว่าเหตุใดไม่มีกระบวนการนี้ จะอ้างว่าไม่จำเป็น จะเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัยหรือไต่สวนเลย คำถามก็คือกระบวนการของกกต.ที่ปกติควรต้องมีการตั้งคณะกรรมการไต่สวน สืบสวนและวินิจฉัยซึ่งก็มีระเบียบรองรับอยู่ จะมีแบบนี้ไปทำไม ถ้าจะส่งทุกเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเลย ซึ่งตรงนี้อธิบายไม่ได้ ทั้งๆที่เรื่องนี้มีข้อเท็จจริงและมีข้อถกเถียงกันเยอะว่า ตกลงไอทีวีเป็นสื่อหรือไม่ เรื่องนี้คงฟังไม่ได้ว่ากกต. ไม่มีหน้าที่วินิจฉัย ทำแค่รวบรวมข้อมูลในเบื้องต้นและส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีสถานะแล้วให้ศาลเรียกผู้ถูกร้องหรือผู้เกี่ยวข้อง มาในชั้นศาลรัฐธรรมนูญที่เดียวนั้น

ทั้งนี้ ตนคิดว่าผิดสังเกต และหวังว่าจะไม่มีทางการเมืองอย่างที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ ส่วนการประชุม ของกกต. จะกระทบกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 หรือไม่นั้นนายชัชวัชกล่าวว่าไม่ เพราะสถานะการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของนายพิธายังคงอยู่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

ศาลฎีกาสั่งจำคุก “เสก โลโซ” 2 ปี 12 เดือน 20 วัน

กทม. 20 พ.ค.-ศาลฎีกาสั่งจำคุก “เสก โลโซ” 2 ปี 12 เดือน 20 วัน คดีต่อสู้เจ้าพนักงาน-เสพยา-ปืน ช่วงตำรวจบุกบ้านปี 60 คุมตัวเข้าเรือนจำพิเศษมีนบุรี ศาลอาญามีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจ อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ จำเลยคดีหมายเลขคดีดำ อ.1662/2561 แดง อ.8288/2561 ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ เสพยาเสพติด และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490 กรณีนายเสกสรรค์ ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ที่บ้านพัก หลังจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับในข้อหาเกี่ยวกับการยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร ในระหว่างการจับกุม เสก โลโซ ได้ขัดขืนและขู่จะใช้ปืน หากเจ้าหน้าที่บุกเข้ามา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องใช้หน่วยอรินทราชเข้าช่วยเหลือในการควบคุมตัว โดยอัยการโจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพกออโตเมติกซึ่งมีทะเบียน พร้อมกระสุนปืน และต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยมีหรือใช้อาวุธปืน […]

“แพทองธาร” ลั่น สส.ย้ายพรรค อยู่ที่ความสมัครใจ เหมือนย้ายองค์กร

ทำเนียบ 20 พ.ค.-“แพทองธาร” ลั่น สส.ย้ายพรรค อยู่ที่ความสมัครใจ ห้ามไม่ได้ เปรียบเหมือนสมัครงาน-ย้ายองค์กร หาสิ่งที่ใช่ นี่เป็นวงการของเรา วงการการเมือง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านวิจารณ์ว่า นายกฯ ปล่อยให้ พรรคร่วมรัฐบาลดูด สส. เพื่อมาสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งก่อนหน้านี้ นายกฯ ระบุว่า ไม่อยากเห็นภาพการซื้อ สส. มาร่วมรัฐบาล โดยนายกฯ ย้อนถามสื่อว่า แล้วเขาซื้อหรือไม่ ขณะที่สื่อตอบกลับว่า ไม่ได้ซื้อ นายกฯ จึงกล่าวว่า เขามาด้วยความสมัครใจใช่หรือไม่ สื่อจึงตอบว่า ถ้ามาด้วยความสมัครใจได้ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคจัดการ ซึ่งต้องไปถามหัวหน้าพรรคแต่ละพรรค ว่าจัดการแบบไหน และอยากได้ใครเข้ามาเพิ่ม “เส้นทางการเมืองที่ดิฉันพบเจอมา เป็นความเชื่อ เป็นความเข้าใจของแต่ละคน ว่าเวลานั้นรู้สึกว่าสังกัดพรรคไหนแล้วเป็นตัวเอง สังกัดพรรคไหนแล้วตอบโจทย์ เหมือนกับเราสมัครงาน ถ้าเราสมัครที่ไหนแล้วรู้สึกว่าใช่ องค์กรนี้ใช่เราหรือไม่ ก็ห้ามไม่ได้ว่าใครจะอยากย้ายไปองค์กรไหน สื่อจะอยู่สื่อเดิมหรือสื่อใหม่ก็ย้ายได้เช่นกัน เป็นสิ่งที่แล้วแต่ทุกคนจะชอบ นี่เป็นวงการของเรา […]

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ครม. เคาะตั้ง “ชูศักดิ์” คุมดีเอสไอ แทน “ทวี”

ทำเนียบ 20 พ.ค.- ครม. เคาะ “ชูศักดิ์” คุมดีเอสไอ แทน “ทวี” หลังศาล รธน.สั่งหยุดทำหน้าที่ชั่วคราว คดีฮั้วเลือก สว. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติมอบหมายให้นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนในการบริหารสั่งการกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หลังจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกำกับดูแลดีเอสไอ และรองประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ จากกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวนหนึ่งเข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา ว่า พ.ต.อ.ทวีใช้ดีเอสไอเป็นเครื่องมือแทรกแชงกระบวนการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ส่วนกรณีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เคยมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบกระทรวงยุติธรรมอยู่แล้ว สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่าได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านความมั่นคง ซึ่งรวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องขอมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในการมอบหมายอีก .-316 -สำนักข่าวไทย