พรรคก้าวไกล 7 ก.ค.- “พิธา” ร่วมฟังเสวนา” นายกทอล์ก” เลี่ยงตอบประเด็นการเมือง บอก “อุทัย-วันนอร์” เป็นนักการเมืองในดวงใจ มองบวกเชิญ Taylor Swift เล่นคอนเสิร์ตในไทย สร้างห่วงโซ่เศรษฐกิจ ชี้ เป็น Soft Power ขณะที่แฟนคลับตะโกนลั่น “พิธา” เป็นนายกฯ คนที่ 30
เมื่อเวลา 19.30 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมฟังการเสวนา ในชื่อกิจกรรม นายกทอล์ก โดยรองศาสตราจารย์ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ ที่พูดคุยในหัวข้อ “ทุกที่สุดเเห่งนายกไทยก่อนจะไปโหวตเลือกพิธาเป็นนายก” โดยช่วงท้าย ของการเสวนา นายพิธา ได้เดินทางเข้ามาร่วมรับฟังโดยนั่งอยู่แถวหน้า ซึ่งทำให้เป็นที่สนใจของผู้มาร่วมรับฟังเสวนาเป็นอย่างมาก
จากนั้นนายพิธาได้กล่าวทักทายผู้ที่มารับฟัง ว่า “ขอเสียงชาวโซลบาร์หน่อยเร็ว” พร้อมกล่าวว่า กิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้ถือเป็นลักษณะ ความตั้งใจ ของพรรคก้าวไกล ที่อยากจะเป็นพรรคการเมือง พี่มีส่วนร่วมของประชาชนจำนวนมาก จึงเป็นการพูดคุยแบบเป็นกันเองและธรรมชาติที่สุด มีการกินดื่มแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลง
นายพิธา ยังได้พูดถึงกรณี ก่อนหน้านี้ได้เชิญชวนศิลปิน Taylor Swift ให้มาเล่นคอนเสิร์ตในประเทศไทย ว่าไม่ควรมองถึงแค่อุตสาหกรรมเอนเตอร์เทนเมนต์ หรือแค่นักดนตรีคนหนึ่ง แต่สามารถสร้างเศรษฐกิจ และห่วงโซ่มูลค่าทางเศรษฐกิจ ที่ลงลึกไปถึงโรงแรม และพื้นที่รอบๆ ที่จัดคอนเสิร์ต ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่ง Soft Power ไม่ใช่มีเพียงแค่ Hard Power เพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ นายพิธา ยังได้พูดถึงอาจารย์ธำรงศักดิ์ วิทยากรเสวนาในวันนี้ด้วยว่า ตนเองเป็น ส.ส. และนักการเมืองที่ดีขึ้น เพราะอาจารย์ ซึ่งตนได้เจอกับอาจารย์ครั้งแรกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตอนที่มาอบรม ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งตอนนั้นแทบจะไม่เคยเป็น ส.ส.มาก่อน และขณะนั้นจากการได้ฟังทำให้รู้สึกว่าประวัติศาสตร์เป็นเรื่องสำคัญ และการเรียนรู้ประวัติศาสตร์กลายเป็นเรื่องสนุกได้ ตนเลยรู้สึกประทับใจอาจารย์มาตั้งแต่ตอนนั้น และได้อ่านวิทยานิพนธ์ของอาจารย์เมื่อปี 2475 มีการวิเคราะห์ผู้นำหลายคน ทำให้ตนเองสนใจในเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์มากขึ้น โดยเฉพาะของการเมืองไทย
และในครั้งนั้นทำให้ตนได้เจอนักการเมืองที่มาอบรม อีก 2-3 คน คือ นายอุทัย พิมพ์ใจชน ในขณะนั้นมีแต่คนอายุน้อย แต่นายอุทัย บอกว่า เขาเป็นประธานสภาที่อายุน้อยกว่าพวกตนเอง จึงทำให้ตนรู้สึกว่านายอุทัย เป็นตัวอย่างของ ประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่เป็นรัฐมนตรีหลายครั้ง และเป็น 1 ใน 3 ส.ส.ที่ฟ้องศาลอาญา ต่อต้านรัฐประหาร ซึ่งทำให้ตนรู้ว่าสิ่งที่ตนเผชิญเป็นสิ่งที่เคยมีมาในอดีต
ส่วนนักการเมืองอีกคนที่ตนให้การนับถือคือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ซึ่งได้ติดตามของนายวันนอร์ตั้งแต่ปี 2522 ตั้งแต่อยู่พรรคกิจสังคม พรรคประชาธิปัตย์ พรรคความหวังใหม่ เเละพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็น 2 ผู้นำที่ตนได้มีโอกาสติดตาม และเมื่อได้ฟังอาจารย์ธำรงศักดิ์พูดถึง จึงได้เริ่มศึกษา และเริ่มมีความรู้สึกกับนักการเมืองใหม่ๆ ที่ทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจในการทำงาน
ส่วนนักการเมืองระดับโลกที่ตนชอบ มี 2 คน คือ José ‘Pepe’ Mujica (โฮเซ่ อัลเบอร์โต้ เปเป้ มูฮีก้า คอร์ดาโน) ประธานาธิบดีอุรุกวัย ซึ่งเป็นผู้นำที่มาจากชนชั้นเกษตรกร และเป็นหนึ่งในกอลิล่า ที่ต่อสู้ตั้งเเต่สมัยที่ตนยังไม่เกิด
คนที่ 2 คือ อาร์เดย์ จอห์นสัน ประธานาธิบดีไนจีเรีย ซึ่งเป็นรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยที่สหรัฐอเมริกา เป็นคนที่ต่อสู้กับระบบเศรษฐกิจ และการแก้ไขปัญหาหนี้มาเยอะพอสมควร ซึ่งทั้งหมดข้างต้นที่กล่าวมา เป็นสิ่งที่ตนได้นั่งพูดคุยกับอาจารย์เมื่อ 4 ปีที่แล้ว และได้กลับมาเจอกันอีกครั้งตนต้องขอขอบคุณอาจารย์
จากนั้นพิธีกรได้สอบถาม คนที่มาร่วมรับฟังการเสวนา ว่านายกคนต่อไปชื่ออะไรซึ่งผู้ที่มารับฟังการเสวนาก็พร้อมใจกันตะโกนคำว่า “พิธา”
โดยหลังจากร่วมพบปะประชาชนที่มารับฟังการเสวนาเสร็จสิ้น สื่อมวลชนพยายามจะถามนายพิธา ถึงประเด็นการรวมเสียง ส.ว. ในการโหวตนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า มีอะไรจะฝากถึง ส.ว. ก่อนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีวันที่ 13 ก.ค.นี้หรือไม่ ซึ่งนายพิธา เลี่ยงที่จะตอบคำถาม ก่อนจะเดินออกจากห้องเสวนา ในโซนของโซลบาร์ เดินทางเข้าที่ทำการพรรค .-สำนักข่าวไทย