ยัน 8 พรรคเดินหน้าหนุน “พิธา” นั่งนายกฯ

พรรคเพื่อไทย 7 ก.ค.- “ภูมิธรรม” ยืนยัน เพื่อไทย และ 8 พรรคร่วมฯ ผลักดัน “พิธา” นั่งนายกฯ เต็มความสามารถ มั่นใจ ส.ว.หลายคนหวังดีต่อประเทศ เชื่อ “พิธา“ แสดงเจตนารมณ์ทำความเข้าใจหลักคิดกับ ส.ว.-พรรคขั้วรัฐบาลเดิมได้ เสนอก่อนวันโหวตนายกฯ 8 พรรคร่วมฯ ควรนัดหารือกัน


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมโหวตนายกรัฐมนตรี ว่า เราได้เตรียมความพร้อมมาตั้งแต่ต้นว่าเรามีทิศทางอย่างไร สิ่งที่ออกมาตั้งแต่การโหวตเลือกประธานสภาฯ ก็ทำให้เรารู้ว่ามีแนวทางอย่างไร ชัดเจนเป็นไปตามความมุ่งหวังของเรา ซึ่งเรามีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนว่า 8 พรรคจะทำรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยให้สำเร็จ เสียงของพรรคเพื่อไทยทั้งหมดจะไปตามทิศทางที่คุยกันไว้ตั้งแต่ต้น ซึ่งช่วงต่างๆ หลังจากนี้จะยังต้องมีการเตรียมความพร้อมไปในทางเดียวกันอีกครั้ง โดยจะมีการจัดสัมมนา ส.ส. ก่อนวันโหวตเลือกนายกฯ สัก 2-3 ครั้ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 10-12 ก.ค. อาจจะเป็นที่ทำการพรรค หรือพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งทั้งหมดเป็นการเตรียมการทำงานให้กับ ส.ส. ที่จะเข้าไปทำงานในสภาฯ และเตรียมเรื่องการประสานงานทั้งหมด ซึ่งอาจจะมีผลที่เกี่ยวกับสถานการณ์ที่ต้องให้ ส.ส. อยู่ในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะเป็นการทำความเข้าใจในทิศทางที่จะเดินไปร่วมกันข้างหน้า

นายภูมิธรรม ยังกล่าวว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงของระยะเวลาการเปลี่ยนผ่านพรรค เพื่อให้ไปสู่การแก้ไขจุดอ่อนต่างๆ ที่พรรคเพื่อไทยเคยมี เพื่อเดินไปข้างหน้าให้ได้เช่นกัน ซึ่งอาจจะต้องมีการปรับกระบวนการให้เป็นไปในทิศทางใหม่ รวมไปถึงการทำงาน ทำกิจกรรมต่างๆ ในอนาคต ก็จะถือโอกาสพูดคุยในการสัมมนาครั้งนี้


ส่วน 8 พรรคร่วมฯ จะต้องมีการพูดคุยก่อนวันลงมติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่พรรคเพื่อไทยเราได้ประสานงานกันไปเบื้องต้นแล้วว่า ทิศทางที่ชัดเจนแน่วแน่ เราจะจับมือเดินไปด้วยกัน ดังนั้น เราจะต้องมีเวลาประเมินสถานการณ์ร่วมกันก่อนวันโหวตว่าจะมีทิศทางอย่างไร จะต้องปรับปรุงเพิ่มเติมในส่วนใด โดยตอนนี้เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้ประสานไปยังเลขาธิการพรรคก้าวไกล ว่ามีความจำเป็นจะต้องมีหรือไม่ ถ้ารู้สึกว่าไม่มีอะไรน่ากังวล ก็อาจจะไม่ต้องประชุมหารือร่วมกัน แต่ความเห็นส่วนตัวได้พูดคุยกันสักหน่อยก็คงจะดี เผื่อจะได้เห็นปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เป็นเหมือนการทำความเข้าใจสถานการณ์ และจะได้ไปทำความเข้าใจกับ ส.ส.ในพรรคของตัวเอง ให้เข้าใจสถานการณ์ร่วมกัน 8 พรรคร่วมฯ จะได้เดินไปในทิศทางเดียวกัน

ส่วนการแถลงข่าวที่โรงแรมแลงคาสเตอร์ เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ในบันทึกข้อตกลงร่วมกัน มีอยู่ 1 ข้อที่จำเป็นจะต้องมีการช่วยสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เต็มความสามารถในการเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องไปถึงจุดไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งสำคัญจริงๆ คือเรื่องของเจตนารมณ์ เรากำลังแสดงเจตนารมณ์กับแนวคิดความมุ่งมั่นของเราว่าเราจะจับมือกันอย่างมั่นคง และ 8 พรรค ก็จะแสดงความมั่นใจให้ประชาชนทราบว่า เราจะร่วมมือกันที่จะผลักดันให้เกิดรัฐบาลประชาธิปไตย ที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และผลักดันให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเจตจำนงที่มุ่งมั่นชัดเจน ให้ประชาชนมั่นใจในการร่วมมือของ 8 พรรคร่วมฯ ส่วนจะเดินหน้าไปอย่างไรก็ต้องดูตามสถานการณ์ โดยให้พรรคก้าวไกล เป็นผู้ประเมินและตอบคำถาม อย่างไรก็ตาม หากมีประเด็นอะไรที่จะเกิดขึ้นก็ต้องมาหารือกันใน 8 พรรคร่วมฯ ช่วยกันคิดและผลักดัน

สำหรับกรณีท่าทีของ ส.ว.ในการลงมติ หากการโหวตครั้งแรกไม่ผ่าน ครั้งต่อไปควรจะเป็นบุคคลเดิม หรือเพียงครั้งแรกก็น่าจะพอทราบผลแล้วว่าได้หรือไม่ได้ นายภูมิธรรม ระบุว่า วันนี้เราชัดเจนคือร่วมมือกันผลักดันให้นายพิธา ประสบความสำเร็จ เป็นนายกรัฐมนตรี จึงไม่อยากคิดคำว่า “ถ้า” เพราะคิดว่าเราก็มั่นใจ และนายพิธาก็แสดงความมั่นใจว่าได้มีการพูดคุยกับ ส.ว.หลายๆ คนแล้ว ก็ยังเชื่อมั่นว่า ส.ว.จะเข้าใจในปัญหาบางอย่างที่อาจจะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน หรือมีอะไรที่ติดค้าง ได้พูดคุยกันไปหมดแล้ว พรรคเพื่อไทยก็เชื่อมั่น ขณะนี้พรรคเพื่อไทยจึงไม่มีความคลางแคลงใจ พร้อมผลักดันเต็มที่ เพียงแต่ว่าในแต่ละพรรค หากจะมีอะไรส่งเสริมสนับสนุนหรือผลักดันให้มากขึ้นนั้น ก็พร้อมที่จะทำเต็มที่ต่อไป


นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนรายละเอียด เราเชื่อว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี เพราะหลายอย่างที่เป็นปรากฏการณ์ที่พรรคฝั่งขั้วรัฐบาลเดิมไม่สามารถรวมกันได้ 188 คน ที่มีแนวโน้มถูกวิจารณ์ว่าจะจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย สิ่งนี้ทำให้เห็นว่าอาจจะเกิดขึ้นได้ยาก โดย 71 เสียงของพรรคภูมิใจไทยได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่พร้อมจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะอยากให้เสียงของประชาชนสามารถเดินหน้าไปได้ อย่างการลงมติเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ก็มี ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ที่ไม่ลงมติสนับสนุนให้รองประธานสภาฯ ที่มาจากพรรคก้าวไกล ก็แสดงให้เห็นว่าไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงว่าคิดอย่างไร ทั้งนี้ ขึ้นอยู่ที่พรรคก้าวไกลว่าจะตัดสินใจและเลือกแบบไหน ซึ่งมีทางเลือกอยู่หลายทาง เพราะยังมีหนทางที่จะเดินไปสู่เป้าหมาย ทั้งเรื่องเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. 64 เสียง หรือขอให้พรรคร่วมรัฐบาลเดิมสนับสนุนให้ 8 พรรคร่วมฯ โดยไม่ต้องเข้ามาร่วมในคณะรัฐมนตรีด้วยก็ได้ ซึ่งอยู่ที่พรรคก้าวไกลตัดสินใจ และร่วมหารือกันใน 8 พรรค

เมื่อถามว่า การพูดคุยกับ ส.ว. พรรคเพื่อไทยได้มีการเข้าไปช่วยพูดคุยด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า พรรคเพื่อไทย ก็อาจจะช่วยพูดคุยกับ ส.ว.บางคนที่รู้จัก และอาจจะมีที่แนะนำให้พรรคก้าวไกลไปพูดคุยทำความเข้าใจด้วยตัวเอง แต่ภารกิจหลักต้องเป็นพรรคแกนนำ ซึ่งยอมรับว่ามี ส.ว.หลายคนที่รู้จักกับ ส.ส.ของเพื่อไทย หลายคนก็มีเจตนารมณ์ ส่วนใหญ่หวังดีกับประเทศชาติ เพียงแต่อาจมีแนวคิดทางการเมืองบางเรื่องแตกต่างกัน แต่ก็มองว่าเป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจกันได้     

ส่วนการแก้ไข ม.112 ที่ดูเหมือนเป็นเงื่อนไขสำคัญ ยากต่อการที่จะได้มาของเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิม รวมถึงเสียงของ ส.ว. ที่จะไม่สนับสนุนนายพิธา มองว่าพรรคก้าวไกลควรจะแสดงท่าทีอย่างไรต่อเรื่องนี้ นายภูมิธรรม ระบุว่า ขอไม่ก้าวล่วงและคิดแทนพรรคก้าวไกล แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เรื่องใดก็ตามที่ยังมีความแตกต่างกัน และยังมีปัญหา ไม่ได้ระบุเพียงเรื่อง ม.112 ควรจะมาหารือกันบนพื้นฐานการเปลี่ยนผ่าน และไม่ว่าประเด็นใดก็ตามที่มีความเห็นแตกต่างกัน ก็ควรจะหลีกเลี่ยง รวมถึงความเห็นที่จะทำให้เกิดความขัดแย้ง อาจจะเกิดความรุนแรงในอนาคต สิ่งที่ดีที่สุดคือการเปิดเวทีให้ได้ร่วมพูดคุยกัน และหากจำเป็นที่ต้องให้กระบวนการสภาฯ เข้ามาแก้ไข เพื่อหาช่องทางให้ทุกฝ่ายยอมรับได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย