เตรียมเดินสายพบ ส.ว. หวังเลือกนายกฯ จบในครั้งแรก

รัฐสภา  7 ก.ค.- “ชัยธวัช” บอก สิ่งที่เป็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เห็น หวังเลือกนายกฯ ได้วันแรก เร่งเดินสายทำความเข้าใจ ส.ว. ก่อนโหวตเลือก เตรียมหารือ “วันนอร์” ให้แคนดิเดตนายกฯ ได้แสดงวิสัยทัศน์ก่อนลงคะแนน ยันเสนอ “พิธา” ชื่อเดียว ยังไม่มีคนของเพื่อไทย


นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี ส.ว. จะไม่โหวตสนับสนุนให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี จากประเด็นมาตรา 112 ว่า เป็นแค่ความเห็นของ ส.ว.บางคน แต่ส.ว.ส่วนใหญ่ยังไม่แสดงออกเกี่ยวกับมาตรา 112 คิดว่าจะแสดงออกกันในวันโหวตเลือกนายกฯ ขออย่าเพิ่งประเมินสถานการณ์จากสิ่งที่เห็น เพราะสิ่งที่เป็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เห็นก็ได้ อีกครั้งยังมั่นใจว่าการที่ไปเจรจากับส.ว. จะทำให้ผ่านไปได้ด้วยดี และมั่นใจในวิจารณญาณของ ส.ว. ส่วนใหญ่ ว่าอยากเห็นประเทศชาติเดินหน้าอย่างไร และการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนได้แสดงออกว่าต้องการคืนความปกติให้กับระบอบประชาธิปไตยของไทย ซึ่งตนยังเชื่อมั่นในส.ว.จำนวนมากที่จะให้โอกาสนี้กับประเทศไทย

เมื่อถามว่ามั่นใจว่าจะได้เสียงส.ว.อีก 60 เสียงทั้งหมด หรือได้เสียง ส.ส. มาด้วยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของท่านแต่ละคน เพราะเราไม่ได้ชวนมาจัดตั้งรัฐบาล แต่จะมี ส.ส.หลายคนใช้จุดยืนของตัวเอง ใช้สถานะผู้แทนของตัวเองปกป้องระบบไว้ให้ได้ ในสถานการณ์เปลี่ยนผ่านที่สำคัญ ส่วนจะมีการถอยบางเรื่องหรือไม่ เพื่อให้นายพิธาได้เป็นนายกฯ นายชัยธวัช กล่าวว่า จะเน้นเรื่องการพูดคุยและทำความเข้าใจ เพราะส่วนใหญ่ส.ว.จะรับรู้ข้อมูลจากสื่อมวลชนแบบสั้นๆ ซึ่งอาจไม่ตรงกับข้อเท็จจริง


เมื่อถามย้ำว่า สรุปจะไม่ลดเพดานเรื่องที่ส.ว. ต้องการใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าเพดานที่ส.ว.ต้องการหมายถึงอะไร แต่ที่ผ่านมาพยายามอธิบายตลอดเวลาว่าเจตนารมย์ของก้าวไกลเป็นอย่างไร มองเห็นปัญหาอย่างไร ซึ่งการทำของเราแบบนี้ดีต่อแนวทางประชาธิปไตย และดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มากกว่า

ทั้งนี้  ยังยืนยันที่จะแก้ไขมาตรา 112 ใช่หรือไม่ แม้จะมีการทักท้วงจาก ส.ว. นายชัยธวัช ยังมั่นใจว่าถ้าได้อธิบายเหตุผล ส.ว. ก็จะมีความเข้าใจมากขึ้น ซึ่งต้องทำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในเวลาที่เหลือ ซึ่งในสัปดาห์หน้านายพิธาและแกนนำพรรคก้าวไกล จะไปพูดคุยกับสังคมและประชาชน ซึ่งจะได้สะท้อนผ่านไปยังส.ว.ด้วย แต่วันนี้จะมีการหารือกับ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เรื่องการแสดงวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตนายกฯ ที่ถูกเสนอชื่อ ว่าก่อนโหวตควรจะมีเวลาและกระบวนการแสดงวิสัยทัศน์อย่างไร และเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภาได้อภิปรายหรือซักถามอย่างเต็มที่ เพื่อให้โอกาสแคนดิเดตนายกฯ ทุกคนที่ถูกเสนอรายชื่อขึ้นมา ได้ตอบคำถาม เพื่อให้เกิดความชัดเจนก่อนลงมติ

ส่วนที่มีการวิเคราะห์กันว่าการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งแรก นายพิธาอาจจะไม่ผ่านนั้น นายชัยธวัช ย้ำว่า สิ่งที่เป็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เห็น ซึ่งหากวันที่ 13 ก.ค. ยังไม่ผ่านการคัดเลือกก็อาจต้องเสนอชื่อซ้ำในวันที่ 19 ก.ค. โดยจะไม่มีการเสนอครั้งเดียวแน่นอน แต่ก็ยังเชื่อว่าน่าจะจบในครั้งเดียว อีกทั้งไม่กังวลหากจะมีการเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคการเมืองอื่นขึ้นมาแข่ง เพราะถือเป็นเรื่องปกติในระบบรัฐสภา ที่ฝั่งเสียงข้างน้อยจะเสนอขึ้นมา ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ  ขณะเดียวกันก็ไม่เชื่อว่าส.ว.จะสนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย พร้อมขออย่าพึ่งสรุปว่าต้องโหวตกี่ครั้งถึงจะได้นายกฯ โดยขอให้ดูจากสถานการณ์ที่เป็นจริง เพราะมีหลายปัจจัย และอย่าพึ่งตัดว่าจะจบในครั้งเดียว


เมื่อถามว่าก่อนการโหวตเลือกนายกฯ จะเปิดให้สมาชิกรัฐสภาได้มีการสอบถามข้อสงสัยต่างๆเกี่ยวกับนายพิธาหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า สิ่งนี้ยังไม่ใช่ข้อสรุป แต่เป็นสิ่งที่ตนเตรียมหารือกับประธานสภาฯ ว่าเป็นไปได้หรือไม่ เพราะจะดีกับทุกฝ่าย

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลจะยอมให้แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ หรือไม่ นายชัยธวัช ยืนยันว่าแคนดิเดตนายกฯ ยังมีคนเดียว อย่าพูดไปถึงตอนนั้น ขณะเดียวกันตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะได้เสียงส.ว.มาโหวตอีกหรือไม่ เพราะส.ว.ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ออกมาพูดความเห็นของตัวเอง มีเพียงส่วนน้อยที่ออกมาให้ความเห็น แต่ก็เชื่อมั่นว่าเสียงส.ว. ที่ยังเงียบอยู่ จะเป็นเสียงที่เปิดโอกาสคืนความปกติให้กับระบบการเมืองไทยให้เดินหน้าไปด้วยกัน

เมื่อถามว่า ส.ว.สายทหาร จะไม่มีการโหวตให้นายพิธานั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งดูถูกอาชีพทหาร เพราะทหารจำนวนมากมีความหวังดีต่อประเทศชาติ ซึ่งตนได้มีโอกาสไปพูดคุยและอธิบายเหตุผลให้ได้รับฟัง ซึ่งทำทุกวัน ทั้งทหาร พลเรือน ตำรวจ และข้าราชการ ทำเต็มที่ที่สุดจนถึงวันสุดท้าย โดยยืนยันว่ายังมีแสงสว่างในเรื่องนี้ ชีวิตต้องมีความหวัง

ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะออกมากดดันในการโหวตเลือกนายกฯ เป็นห่วงหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งบอกว่ามาสนับสนุนพรรคก้าวไกล จากที่ตนเห็นแคมเปญ respect my vote คงเป็นการแสดงเจตจำนงของประชาชนที่ลงคะแนนเสียง ว่าให้เคารพผลเลือกตั้งและคะแนนเสียงของประชาชนเป็นสำคัญ คือต้องการให้ทุกฝ่ายปกป้องระบบที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ปกป้องตัวบุคคลใดหรือพรรคการเมืองใด และไม่ทราบว่าจะมีกลุ่มใดออกมาทำอะไรบ้าง แต่การออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองก็ไม่อยากให้มีความรุนแรง ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัย ก็น่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี เพราะประธานสภาได้ให้นโยบายไว้พอสมควร    

เมื่อถามว่า หากนายพิธาไม่ได้รับเลือกให้เป็นนายกฯ ถึง 2 ครั้ง อาจมีการแสดงความเห็นในโลกโซเชียล ซึ่งน่ากลัวกว่าการลงถนนหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนตอบแทนประชาชนทั้งหมดไม่ได้ และอย่าเพิ่งไปคิด แต่อยากให้มองว่าอาจได้เฉลิมฉลองกันในช่วงเย็นวันที่ 13 ก.ค. 66 พร้อมยอมรับว่าหากมีการโหวตเลือกนายกฯ เนิ่นนานเกินไป อาจส่งผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลและครม. ที่ล่าช้า เพราะจะมีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม และการพิจารณางบประมาณ ปี 67 รวมถึงนโยบายเร่งด่วน อาทิ ภัยแล้ง เศรษฐกิจที่นักลงทุนชะลอการลงทุน เพราะรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการเมืองไทย ซึ่งจะกระทบไปหมด ดังนั้นถ้าเรื่องจบเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี และเป็นการจบแบบเคารพผลการเลือกตั้ง ซึ่งจะทำให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

ทหารกล้าเล่านาทีระทึก รอดตายจากระเบิดชายแดน

11 ส.ค.- ทหารกล้า เล่าเหตุการณ์ ลูกระเบิดจากฝั่งกัมพูชา ร่วงใส่จุดที่กำลังพลอยู่พอดี จนได้รับบาดเจ็บ ทีมข่าวลงพื้นที่อำเภอลานสัก จ.อุทัยธานี บ้านของ สิบโทปรีชา เสือบัว อายุ 24 ปี หัวหน้าชุดหมู่ปืนเล็กหมวดปืนเล็ก กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 4 ค่ายจิรประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ เล่านาทีรอดชีวิตจากเหตุระเบิดที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ขณะประจำการอยู่ในบังเกอร์ ได้ยินเสียงปืนครกจากฝั่งกัมพูชา จึงรีบถอยตัวออกครึ่งหนึ่งเพื่อให้ลูกน้องหลบเข้าไปด้านในบังเกอร์  แต่จังหวะนั้นกระสุนระเบิดตกใส่ทันทีจนร่างกระเด็นและหมดสติ เหตุระเบิดทำให้สิบโทปรีชา ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาซ้าย ขณะปฏิบัติหน้าที่พร้อมเพื่อนทหารอีก 3 นาย สิบโทปรีชา ยังบอกอีกว่า “หากต้องบาดเจ็บอวัยวะส่วนไหน ก็ยอม แต่จะไม่ยอมเสียชาติ” พร้อมเผยว่าได้ติดต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อขอกลับไปปฏิบัติหน้าที่ต่อ แม้ได้รับคำสั่งให้พักรักษาตัวก่อน แต่หากมีความจำเป็น เขาพร้อมกลับไปสู้เพื่อประเทศชาติทันที ทั้งนี้ ตัว สิบโทปรีชา และครอบครัวเชื่อว่า เป็นบารมี หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อยูร และหนังเสือ วัดพนมเศษเหนือ จังหวัดนครสวรรค์ รวมถึงหลวงพ่อเคลือบ วัดหนองกระดี่ […]

กต.เดินหน้าร้องเรียนกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหาร

11 ส.ค.- กระทรวงการต่างประเทศ รายงานผลการร้องเรียนกัมพูชาต่อองค์กรระหว่างประเทศ กรณีวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ กระทรวงการต่างประเทศ ออกรายงาน “การดำเนินการของไทยต่อกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention) หรือ อนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention) สาระสำคัญ คือ ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 23 กรกฎาคม และ 9 สิงหาคม 2568 ทหารไทยรวม 11 นาย บาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่วางใหม่โดยกองกำลังทหารกัมพูชา ในบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี และช่องโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตามลำดับ นั้น กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการภายใต้กรอบอนุสัญญา ออตตาวา เพื่อตอบโต้กัมพูชาโดย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 จำนวน 3 ฉบับ เปิดเผยพฤติกรรมการวางทุ่นระเบิด PMN-2 […]

อุตุฯ เตือนไทยมีฝนเพิ่ม-ตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 11 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผย “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” ฝนตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก จับตาพายุไต้ฝุ่น “โพดุล” คาดเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน ก่อนขึ้นฝั่งจีนช่วง 13-14 ส.ค.นี้ ยันไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โพดุล” (PODUL) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน […]

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย