ปชป. ปฐมนิเทศ ส.ส. ใหม่ 2 ก.ค.นี้

พรรคประชาธิปัตย์ 1 ก.ค.- “ราเมศ” เคลียร์ชัด พรุ่งนี้ (2 ก.ค.) ปชป. ปฐมนิเทศ ส.ส.ใหม่ พร้อมวิเคราะห์สถานการณ์ ส่วนจะร่วม-ไม่ร่วม รัฐบาล ยึดมติที่ประชุม ส.ส. และ กก.บห.ชุดใหม่


นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถึงความเคลื่อนไหวของพรรคว่าในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ค.) เวลา 13.00 น. พรรคได้มีการเรียกประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 25 คน โดยมีวาระสำคัญคือการเลือกผู้จะมาเป็นประธาน ส.ส. รองประธาน ส.ส. และเลขานุการประธาน ส.ส. ของพรรค ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติที่พรรคได้ดำเนินการมาตลอดระยะเวลาเมื่อมีสภาชุดใหม่ นอกจากนี้พรรค ได้เชิญเจ้าหน้าที่สภา มาให้ข้อมูลแก่ ส.ส. คนใหม่ที่ได้รับการเลือกตั้งในสมัยแรก เพื่อให้ทราบแนวทางปฏิบัติในเรื่องต่างๆ ประกอบในการทำหน้าที่ ส.ส. ในสภา

สำหรับเรื่องที่จะมีการหยิบยกขึ้นมาพูดคุยในที่ประชุม ส.ส. นั้น นายราเมศ ระบุว่า เป็นเรื่องปกติของการประชุม ส.ส. ประชาธิปัตย์ ที่จะมีการหยิบยกประเด็นทางการเมืองขึ้นมาวิเคราะห์สถานการณ์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 4 ก.ค. ตนก็มั่นใจว่าจะเป็นเรื่องที่จะได้นำมาพูดคุยกันในที่ประชุม แต่คาดว่าจะไม่มีการพูดคุยลงรายละเอียดถึงตัวบุคคล เพราะถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องตัวบุคคลที่จะเสนอให้ ส.ส. พิจารณาแต่อย่างใด


นอกจากนี้โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ได้ระบุถึงความแตกต่างของเรื่องที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุม ส.ส. และที่ประชุมร่วม ส.ส. กับกรรมการบริหารพรรคว่า ในการพิจารณาเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์จะใช้มติของที่ประชุมร่วมกันระหว่าง กรรมการบริหารกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่สำหรับการพิจารณาเลือกประธานสภานั้นจะใช้มติในที่ประชุม ส.ส. ซึ่งก็จะมีการแถลงข่าวผลการประชุมให้ทราบทิศทางต่อไป

ส่วนความคืบหน้าเรื่องการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 ก.ค. นี้ นายราเมศ กล่าวว่า การประชุมใหญ่ในครั้งนี้ มีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ซึ่งจะประกอบด้วยหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค รวมถึงการเลือกคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคด้วย โดยพรรคได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด ประกอบด้วยคณะกรรมการเตรียมการจัดการประชุมใหญ่วิสามัญ ที่มีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์เป็นประธาน และคณะกรรมการพิจารณาวินิจกำกับการประสานการประกาศผลการเลือกตั้ง (กกต.ปชป.) ทั้ง 2 คณะได้มีการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งตนเชื่อว่าในวันดังกล่าวจะมีสมาชิกพรรคทั้งที่เป็นองค์ประชุม และไม่ได้เป็นองค์ประชุมมาติดตามให้ความสนใจในการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ที่จะจัดขึ้นที่ รร.มิราเคิลแกรนด์

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีรายชื่อแคนดิเดทหัวหน้าพรรคแล้วกี่คน มีการเสนอชื่อนายเดชอิศม์ ขาวทอง ด้วยหรือไม่นั้น นายราเมศ กล่าวว่า ท่านเดชอิศม์ ยังไม่ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อว่าจะมีสมาชิกลงแข่งขันกับท่านอลงกรณ์ ขณะนี้ตนก็ยังไม่ทราบว่าจะมีการเสนอชื่อใครบ้าง ซึ่งการเสนอชื่อนั้นจะต้องเป็นการเสนอโดยสมาชิกพรรค และมีผู้รับรองไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งขององค์ประชุมใหญ่วิสามัญ ก็คือไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน 374 คน โดย กกต. ปชป. จะมีการประชุมในวันจันทร์ที่ 3 ก.ค. นี้ และในวันอังคารที่ 4 ก.ค. คณะกรรมการเตรียมการจัดการประชุมใหญ่วิสามัญ จะเป็นผู้กำหนดว่าจะให้แคนดิเดทหัวหน้าพรรคแสดงวิสัยทัศน์คนละกี่นาที


นายราเมศกล่าวเพิ่มเติมว่า กระบวนการเลือกหัวหน้าพรรคของพรรคประชาธิปัตย์นั้น มีการกำหนดกฎเกณฑ์กติกาชัดเจน ตนเชื่อว่าพรรคมีสมาชิกที่มีคุณสมบัติ มีความรู้ความสามารถเข้าสู่กระบวนการแข่งขัน และยึดหลักข้อบังคับอย่างเคร่งครัด ซึ่งข้อบังคับข้อที่ 31 ระบุชัดว่าสมาชิกที่มีคุณสมบัติที่จะได้รับการเลือกตั้งเป็น กก.บห. ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และเป็นสมาชิกติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่สมาชิกที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ (1) เป็นหรือเคยเป็นกรรมการบริหารพรรค เช่นผมเคยเป็นโฆษกพรรค เป็น กก.บห. ก็สามารถสมัครเป็น กก.บห. ชุดใหม่ได้ (2) เป็นหรือเคยเป็น คกก.สาขาพรรค กรณีนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกมาครบ 5 ปี ก็สามารถใช้ข้อนี้สมัคร กก.บห.ได้ (3) เป็นหรือเคยเป็น ส.ส. ในนามพรรค (4) เป็นหรือเคยเป็น รมต. ในนามพรรค (5) เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น ที่ลงเลือกตั้งในนามพรรค (6) สมาชิกที่ที่ประชุมใหญ่มีมติด้วยคะแนนไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของที่ประชุมใหญ่ ให้ลงสมัคร กก.บห. ได้ ข้อนี้เมื่อคำนวนจากองค์ประชุม 374 คน ก็จะต้องมีมติไม่น้อยกว่า 282 คน

ส่วนคุณสมบัติของผู้ที่จะลงสมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้น จะมีรายละเอียดแตกต่างจาก กก.บห. พรรค กล่าวคือ จะต้องเป็นหรือเคยเป็น ส.ส. ในนามพรรค เว้นแต่ได้รับการยกเว้นตามข้อบังคับพรรคข้อที่ 31 (6) คือการใช้เสียง 3 ใน 4 ของที่ประชุมใหญ่ ส่วนการเสนอชื่อนั้นจะต้องมีผู้รับรองไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งขององค์ประชุมใหญ่วิสามัญ ก็คือไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน 374 คน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย