แนะ “ปดิพัทธ์” ปธ.สภาต้องเป็นกลาง

เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า 30 มิ.ย.- “ชัยวุฒิ” มอง “ปดิพัทธ์” ตัวตึง ถ้าจะเป็นประธานสภาฯ ต้องลดบทบาทที่จะทำเพื่อพรรคมากเกินไป ฝากให้เป็นกลาง ประสานทุกพรรค คุมสภาให้ได้ บอกให้รอดู MOU 8 พรรคร่วมฯ ยังจับมือถึงวันเลือกนายกฯ หรือไม่


นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากพรรคก้าวไกลจะทำให้การทำงานในสภาฯ ราบรื่นขึ้นหรือไม่ ว่า ที่มีข่าวว่าพรรคก้าวไกลเสนอนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลกนั้น เท่าที่ดูอาจจะตึงไปบ้าง ซึ่งคนที่เป็นลักษณะตัวตึงหรือมาสู้ให้พรรคมาก ๆ เมื่อเป็นประธานสภาฯ จะต้องลดบทบาทลง เพราะประธานสภาฯ ต้องมีความเป็นกลางในที่ประชุม และต้องประสานงานกับทุกพรรค ต้องมีบารมีและสามารถคุยกับทุกพรรคได้

ส่วนจะเกิดปัญหาการทำงานในที่ประชุมสภาฯ หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้ประธานสภาฯ แต่ดูจากแนวทางที่เป็นอยู่ในอดีต หากตึงเกินไปก็ทำงานร่วมกันยาก อยากได้คนที่สามารถทำให้สภาฯ เดินหน้าได้ เพราะทราบกันดีว่าสภาฯ มีความขัดแย้งทางความคิดกันมาก และยังมีหลายกฏหมายที่จะเข้าสู่ที่ประชุมสภาที่อาจมีความขัดแย้ง ประธานสภาฯ จึงต้องใช้วุฒิภาวะ เพื่อทำให้การทำงานในสภาฯ เดินหน้าไปได้ เรื่องความอาวุโสของคนทำหน้าที่ประธานสภาฯ ก็มีส่วน รวมถึงประสบการณ์และสไตล์ในการทำงานที่ต้องพูดคุยกับส.ส.ทุกคนได้ แต่ที่สำคัญคือเรื่องความเป็นกลางเป็นสิ่งสำคัญที่สุด


เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลเดิมจะเสนอชื่อประธานสภาฯ เพื่อชิงตำแหน่งด้วยหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยตกลงกันได้แล้วหรือไม่

ส่วนการชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อาจไม่ได้รับการการสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. แต่จะเป็นการขอเสียงจาก ส.ส.แทนนั้น นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ทราบ

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐยังไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร ยังคงนิ่ง ๆ อยู่ รอดูสถานการณ์ทางการเมือง สุดท้ายต้องรอดู 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่ายังเดินตาม MOU ไปจนถึงวันเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่


ส่วนที่มีการจับตาว่าการเลือกนายกรัฐมนตรีจะใช้แนวทางใช้เสียงส.ส.มากกว่าเสียงส.ว. และล่าสุดพลเอกประวิตรก็เดินทางไปอังกฤษ เพื่อไปดีลลับด้วย นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เราจะไปเติมเสียงเพื่ออะไร ก็ยังไม่ได้มีการพูดคุย ยังไม่ได้มีการเจรจาใด ๆ และว่า “ลุงป้อมยังนิ่งมากเลยครับ ยังไม่ได้เก็บของ รอดูสถานการณ์ไปก่อน” นายชัยวุฒิ กล่าว

ส่วนกรณีนายสิระ เจนจาคะ อดีตส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐเดิมพัน 5 แสนบาทว่า พล.อ.ประวิตรจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เป็นความเชื่อของนายสิระ แต่ในส่วนของพรรคยังไม่ได้ประชุมกรรมการบริหารหรือพูดคุยเรื่องนี้ เป็นเพียงการพูดคุยหรือคาดเดาของแต่ละฝ่ายที่วิเคราะห์การเมืองกันไป

“ขอบคุณที่วิเคราะห์กันว่าพล.อ.ประวิตรจะเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ส่วนตัวผมสนับสนุนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว เพราะท่านมีความพร้อมและมีคุณสมบัติครบถ้วน ซึ่งขึ้นอยู่กับการลงมติและสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงนั้น รอดูกันต่อไป และต้องรอดูว่า MOU ของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะอยู่ถึงวันเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่

เมื่อถามว่านายชัยวุฒิยังไม่ได้เก็บของเช่นกันหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า ไม่เก็บของ แต่ย้ายที่.-สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ เจ็บ 21

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ ถนนสายเอเชีย ขาขึ้น จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้บาดเจ็บ 21 คน คาดคนขับหลับใน เบื้องต้นยังไม่พบตัว

เน้นเครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B, C คาดมีผู้ติดค้างจำนวนมาก

ฝนตกหนักช่วงเช้า เพิ่มอุปสรรคค้นหาผู้ประสบภัย และการรื้อซากอาคาร สตง.ถล่ม เจ้าหน้าที่ทุกส่วนต้องหยุดปฏิบัติภารกิจชั่วคราว วันนี้ยังเน้นใช้เครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B และโซน C ที่มีลักษณะคล้ายร่างกายมนุษย์ติดอยู่ในซาก ด้านทีม K9 ประกาศยุติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย