สำนักงานกกต. 28 มิ.ย.-“เสรี” ระบุคุณสมบัติปธ.สภาฯ ต้องวางตัวเหมาะสม ไม่ก้าวร้าว ชี้ประสบการณ์ในสภาฯ “สุชาติ” เหนือ “ปดิพัทธ์” ลั่นไม่มีใครจ่ายเงินซื้อส.ว.แลกโหวตนายกฯ เสนอแก้ม.112 สะท้อนวุฒิภาวะ เป็นเหตุผลให้ส.ว.ตัดสินใจ
นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยเจรจาต่อรองตำแหน่งประธานสภาฯ จะเป็นชนวนรอยร้าวของทั้งสองพรรคหรือไม่ ว่า เป็นเรื่องการตกลงของแต่ละพรรคว่าจะให้ตำแหน่งอะไร ความแตกแยกคงไม่ถึงขั้นรุนแรง เพราะทางการเมืองการมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน โดยหลักแล้วถ้าไม่ได้อยู่พรรคเดียวกันจะต้องใช้เสียงในสภาฯ ตัดสินปัญหา
ส่วนประธานสภาฯ ควรจะมีคุณสมบัติอย่างไร นายเสรี กล่าวว่า ประธานสภาฯ ควรมีคุณสมบัติเหมือนกับกับประธานคนก่อน ๆ ทำงานมีประสิทธิภาพหรือไม่ เป็นที่เคารพของบรรดาสมาชิกทุกพรรคการเมืองหรือไม่ สิ่งสำคัญคือการวางตัวที่เหมาะสม เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนของทุกพรรค ของคนทั้งสภาฯ แต่หากมีแต่การแสดงในทางก้าวร้าว ทำเพื่อประโยชน์ของพรรคตัวเองหรือเพื่อประโยชน์ส่วนตัว สิ่งนี้ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม ทุกคนที่เป็นสมาชิกสภาฯ จะนำข้อมูลนี้มาพิจารณาเพราะจะกระทบต่อการทำงาน
ส่วนที่คาดการณ์ว่านายสุชาติ ตันเจริญ น่าจะได้ตำแหน่งประธานสภาฯ นายเสรี กล่าวว่า ประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาของนายสุชาติถือว่ามีความสามารถ มีประสบการณ์ ทำมาหลายสมัย ไม่น่าจะติดขัดอะไร ส่วนที่พรรคก้าวไกลจะเสนอนายปดิพัทธ์ สันติภาดาก็เสนอได้ เพราะมาจากแต่ละพรรคการเมืองที่เลือกตัวแทนขึ้นมา แต่การจะเป็นได้ดีหรือไม่ต้องดูที่ความรู้ ความสามารถและการวางตัว การแสดงออก แต่ถ้านำมาเปรียบเทียบกันแล้ว มองว่านายสุชาติดีกว่า
นายสุชาติ กล่าวถึงกระแสพรรคการเมืองซื้อส.ว.เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายเสรีว่า เป็นเพียงข่าว แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีใครมาลงทุนกับส.ว. ต้องเข้าใจว่าไม่สามารถปิดบังอะไรได้ เพราะสมัยนี้มีทั้งการอัดเสียง อัดคลิป ใครก็ตามถ้าหากคิดจะทำ ถือว่าคิดผิด ไม่น่าจะทำเรื่องเหล่านี้ และ ส.ว.ทุกคนไม่น่าจะซื้อได้ ถ้าให้ก็คือให้ ถ้าไม่ไห้ก็คือไม่ให้ ถ้าเห็นชอบก็คือเห็นชอบ อยู่ที่เหตุผลตรงไปตรงมา
เมื่อถามย้ำว่ามาตรา 112 เป็นเหตุผลหนึ่งในการตัดสินใจหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า การเสอนเรื่องนี้ถือว่าขาดวุฒิภาวะแล้ว เพราะสิ่งที่เสนอและแสดงออกกันมาแสดงว่ากระทบกับสถาบัน เมื่อ ส.ว.ไม่เห็นด้วยก็เป็นเหตุเป็นผล แสดงให้เห็นว่าวุฒิภาวะที่พูดกันมาตลอดต้องดูให้ดีแล้ว แต่ไม่ควรเอาประชาชนมาทำให้เกิดการปะทะ การเป็นผู้นำประเทศถ้าต้องการให้ตัวเองอยู่ในตำแหน่งก็ควรเสนออะไรที่สร้างสรรค์ ต้องไม่ทำให้เกิดปัญหา ความเห็นที่แตกต่าง.-สำนักข่าวไทย