พรรคร่วมวอน “กก.-พท.” จบปัญหาประธานสภาฯ

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลประสานเสียง ขอ “ก้าวไกล-เพื่อไทย” จบปัญหาปมประธานสภาฯ โดยเร็ว สร้างความเชื่อมั่นประชาชน ด้าน “กังฟู วสวรรธน์” มอง “ก้าวไกล” ควรได้ แต่พร้อมสนับสนุนทุกคน ตอกกลับความอาวุโสไม่ใช่ประเด็น บารมีสร้างได้หากมีโอกาส ขณะที่ “ปิติพงศ์” ชี้ประมุขนิติบัญญัติ ควรมีความเป็นกลาง ไม่เอนเอียง ลั่นต้องให้เกียรติกัน ไม่ว่าใครจะมาเป็น “เชาว์ฤทธิ์” เห็นต่าง มองคน “เพื่อไทย” ดูดีกว่า มีประสบการณ์-บารมี รับกังวลตั้งรัฐบาลยาก หากเรื่องแค่นี้ยังตกลงไม่ได้


นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง ให้ความเห็นถึงกรณีตำแหน่งประธานสภาฯ ที่เกิดข้อถกเถียงว่าพรรคใดควรได้ ระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ว่า หากยึดตามหลักการ พรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงจากประชาชนมาเป็นอันดับที่ 1 ควรได้ไป ซึ่งอดีตที่ผ่านมาก็ใช้หลักเกณฑ์นี้ รวมถึงแกนนำบางส่วนของพรรคเพื่อไทยก็เห็นตรงตามนี้ ตนไม่ขัดข้องถ้าหากการพูดคุยของทั้งสองพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจบลงแล้วเสนอใครขึ้นมา พร้อมสนับสนุนทุกรายชื่อ แต่ขอเพียงบุคคลจากฝ่ายประชาธิปไตยก็พอ และขอให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วก่อนเปิดประชุมสภาฯ นัดแรก เพราะเป็นประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจ

นายวสวรรธน์ กล่าวอีกว่า ตนเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ที่เกิดข้อถกเถียงถึงตำแหน่งประธานสภาฯ บางส่วนบอกว่าต้องเป็นคนจากพรรคเพื่อไทย เพราะทุกพรรคก็ย่อมมีความเป็นประชาธิปไตย ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ และเชื่อว่าจะไม่มีความขัดแย้งภายในเกิดขึ้น แต่สิ่งที่ควรทำมากที่สุดตอนนี้ คือการตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็วที่สุด “ประชาชนไม่ได้อยากรู้ว่าใครจะได้เป็นประธานสภาฯ แต่เขาอยากรู้ว่านายกฯ จะชื่อนายพิธาหรือไม่”


ส่วนหากมีพรรคการเมืองอื่นเสนอชื่อมาแข่งขัน นายวสวรรธน์ มองเป็นเอกสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แต่เชื่อว่าฟรีโหวตจะไม่เกิดขึ้นกับฝ่ายพรรคการเมืองประชาธิปไตย ทุกพรรคจะเห็นไปในทางเดียวกันอย่างแน่นอน “เราต้องมองสิ่งที่สุด คือเสียงของพี่น้องประชาชนที่เขาให้เรามา”

“ที่บอกว่าเป็นพระบวชใหม่ แล้วจะมาเป็นเจ้าอาวาส มันก็คนละประเด็น เราเองก็คนรุ่นใหม่ อยากให้มองว่าคนรุ่นใหม่หลายคนก็มีความสามารถ และมีศักยภาพเหมือนกัน อายุหรือประสบการณ์อาจมีไม่มาก แต่ก็มีความตั้งใจ อยากให้ผู้ใหญ่ให้โอกาส ให้คำแนะนำด้วย” นายวสวรรธน์ กล่าว

หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง ยังกล่าวถึงคุณสมบัติประธานสภาฯ ว่า ควรต้องเป็นกลางทางการเมือง ไม่เอนเอียง ต้องดูแลรับผิดชอบหน้าที่ได้ดี ส่วนเรื่องของความอาวุโสนั้น ตนมองไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่าไหร่ “บารมี มีทีหลังก็ได้ ไม่มีใครเกิดมามีบารมีเลย ต้องให้โอกาสสร้าง ไม่ควรไปตัดโอกาสเขา”


เมื่อถามถึงตำแหน่งรองประธานสภาฯ พรรคใดเหมาะสม หลังมีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยหวังได้ 2 คน แต่พรรคประชาชาติก็หวังในฐานะพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นลำดับที่ 3 นายวสวรรธน์ กล่าวว่า จะเป็นใครจากพรรคการเมืองใดก็ได้ แล้วแต่พรรคการเมืองแกนนำจะไปตกลงกัน

ขณะที่นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม ระบุว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดถึงตำแหน่งประธานสภาฯ ว่าพรรคใดจะเสนอชื่อใคร แต่ในความเห็นของตน อยากให้พรรคการเมืองแกนนำจัดตั้งรัฐบาลทั้งสองพรรค เร่งหาข้อยุติให้ได้โดยเร็ว เพราะประชาชนให้ความสนใจ และจะเปิดประชุมสภาฯ แล้ว

ส่วนคุณสมบัติของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ นั้น นายปิติพงศ์ มองต้องเข้าใจบทบาทว่า ทุกพรรคการเมืองมีความต้องการพื้นฐานอย่างไร ต้องเป็นผู้ประสานงานกับทุกพรรคการเมืองได้ มีความเป็นกลาง คุมที่ประชุมได้ ทำงานแล้วเป็นที่ยอมรับของประชาชน ส่วนเรื่องของความอาวุโส ตนยกเป็นเรื่องของตำแหน่งมากกว่า คือเมื่อได้ตำแหน่งแล้ว ทุกคนก็ควรต้องให้เกียรติกัน ต้องยอมรับในเสียงข้างมากว่าเลือกใคร

นายปิติพงศ์ กล่าวติดตลกว่า พรรคเป็นธรรมไม่มีอิสระในการโหวตเลือกตำแหน่งประธานสภาฯ เพราะมีเพียงคนเดียว ซึ่งต้องเป็นไปตามมติของกรรมการบริหารพรรค แต่ยืนยันว่าจะโหวตบุคคลจากฝ่ายประชาธิปไตยอย่างแน่นอน

เมื่อถามถึงโผคณะรัฐมนตรีที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ นายปิติพงศ์ ยืนยันว่า ยังไม่มีการพูดคุยในพรรค พรรคเป็นธรรมเป็นเพียงส่วนเล็กๆ คงต้องให้พรรคการเมืองแกนนำคุยกันให้ตกผลึกก่อน แต่ก็พร้อมทำงานในทุกหน้าที่ หากได้รับโอกาส ขอให้มีโอกาสได้ทำงาน อยากทำตามนโยบายพรรคที่ให้ไว้กับประชาชน

ด้านนายเชาว์ฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ มองว่า ถ้าจะให้มีความเป็นธรรม พรรคเพื่อไทยควรได้ตำแหน่งประธานสภาฯ เหตุเพราะพรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแล้ว แต่ทั้งสองพรรคการเมืองควรต้องเร่งเจรจาเพื่อให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว

นายเชาว์ฤทธิ์ ยังบอกว่า หากปล่อยให้มีการฟรีโหวตในเรื่องดังกล่าว มองว่าการตั้งรัฐบาลก็คงมีความแตกแยก เพราะแค่ตำแหน่งประธานสภาฯ ยังตกลงกันไม่ได้ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะตกลงกันได้หรือ “ตำแหน่งประธานสภาฯ ควรเป็นคนที่อาวุโสหน่อย พรรคเพื่อไทยมีบุคลากรมีความพร้อมมากกว่า หลายคนมีประสบการณ์” นายเชาว์ฤทธิ์ กล่าว.- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จับมือปืน

ล้อมจับมือปืนอันดับ 1 ประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9

ตำรวจล้อมจับมือปืนอันดับ 1 มีประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9 มีหมายจับติดตัว 9 หมาย ทั้งคดีฆ่า รับจ้างทวงหนี้ ยิงบ้าน และค้ายาเสพติด

สู้งูจงอาง

สาวใจเด็ด! สู้งูจงอางด้วยมือเปล่าจนรอดตาย

สาวใจเด็ด! เข้าไปหาเห็ดเจองูจงอาง ถูกฉกเป็นแผลเหวอะ ตัดสินใจฮึดสู้ด้วยมือเปล่า เตะก้านคองูแล้วกระทืบซ้ำ ก่อนจับกดพื้นลากไปหาหมอพร้อมกัน ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว

บริจาคอวัยวะ

หนุ่มวัย 26 ปี บริจาคอวัยวะช่วยต่ออายุ 9 ชีวิต

ชื่นชมหนุ่มพนักงานช่วยเหลือคนไข้ รพ.ภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ บริจาคอวัยวะ แม้ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร อายุเพียง 26 ปี แต่อวัยวะสามารถต่อชีวิตให้กับผู้อื่นได้อีก 9 ชีวิต

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสาน-กลาง

กรมอุตุฯ เผยอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง 20%

ไฟไหม้ “ดาราเทวี” เป็นไปได้ทั้งระบบไฟ และฝีมือคน

เจ้าหน้าที่ยังสำรวจความเสียหายและเร่งหาสาเหตุเพลิงไหม้อาคารสปาของโรงแรมดาราเทวี ซึ่งเคยเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของไทย จนกลุ่มอาคารไม้และของสะสมวอดวายอย่างน้อย 7 หลัง ล่าสุดพบจุดที่คาดเป็นต้นเพลิงแล้ว ตำรวจระบุสาเหตุเป็นไปได้ทั้งระบบไฟฟ้าและฝีมือคน

ทองคำผันผวน 37 ครั้ง ปิดตลาดลดลง 1,750 บาท คนกังวลเริ่มขายทอง

ราคาทองผันผวนตลอดทั้งวัน 37 ครั้ง ปิดตลาดลดลง 1,750 บาท ทองรูปพรรณ 53,500 บาท คนกังวลนำทองออกมาขาย ด้านกรมการค้าภายใน ตรวจเครื่องชั่งร้านทอง หลังราคาขึ้นลงแรง

เร่งตรวจวงจรปิดหาสาเหตุรถหรูชนกัน 3 คันรวด วอดเหลือแต่ซาก

ตำรวจยังไม่ยืนยัน “ซูเปอร์คาร์-เบนซ์” ซิ่งแข่งกันมาหรือไม่ เร่งหาวงจรปิด หลังรถชนกัน 3 คัน เพลิงลุกไหม้เผาวอดซูเปอร์คาร์ “เฟอร์รารี่-เบนซ์” เหลือแต่ซาก