ทำเนียบรัฐบาล 20 มิ.ย.-“ธนกร” ระบุ ให้เป็นมติพรรค หาก ส.ส.จะร่วมเข้าชื่อตรวจสอบคุณสมบัติ “พิธา” รอให้เป็นไปตามกระบวนการของกกต.-ศาล รธน.ก่อน ยัน รทสช. โหวตปธ.สภาฯ-นายกฯ ทิศทางเดียวกัน
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.ครบ 500 คนแล้ว ในส่วนของส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติทยอยเดินทางไปรายงานตัวเลยหรือไม่ ว่า เมื่อวานนี้(19 มิ.ย.) ได้พูดคุยกับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ซึ่งเห็นด้วยว่าจะนัดหมายกันอีกครั้งว่าจะไปรายงานตัวพร้อมกันวันไหน
“การที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์กดดันการทำงานของกกต.ว่าล่าช้า แต่สุดท้ายก็ได้ประกาศผลออกมา ต้องชื่นชม เพราะถือว่าทำงานได้เร็ว ส่วนการอบรมสัมมนาส.ส.ใหม่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าใจว่าจะจัดเป็นการภายใน และหลังจากนั้นจะสัมมนานอกสถานที่ในต่างจังหวัดอีกหนึ่งครั้ง เนื่องจากพรรคยังไม่เคยจัดเพื่อพบปะพูดคุย และที่ผ่านมาได้ฟังเสียงสะท้อนจากส.ส.และผู้สมัครรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่จะนำมาขับเคลื่อนพรรคการเมือง จึงต้องพูดคุยและนำข้อมูลเหล่านี้มาทำงานให้พรรคเข้มแข็งขึ้น นอกจากนี้ส.ส.ทั้ง 36 คน หลายคนเป็นส.ส.ใหม่ ซึ่งต้องทำความเข้าใจเรื่องระเบียบต่าง ๆ และวิธีการทำงานในสภา ฯ มากกว่านี้” รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าว
ส่วนการลงคะแนนเลือกประธานสภาฯ และการโหวตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ จะเป็นมติพรรคในทิศทางเดียวกันหรือไม่ นายธนกร ยืนยันว่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเข้าใจว่าพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันพูดคุยกันเรื่องนี้ และมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน และที่ผ่านมาพูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคตลอด
เมื่อถามว่าจะเสนอชื่อประธานสภาฯ แข่งหรือไม่ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ไม่สามารถตอบแทนได้ ต้องประชุมพรรคก่อน ส่วนจะมีความเป็นไปได้ที่พรรคร่วมรัฐบาลเดิม จะนัดประชุมหารือและแถลงร่วมกันหรือไม่ ต้องถามความเห็นของแต่ละพรรค แต่มองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะพูดคุยกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ขอก้าวล่วงพรรคอื่นว่าการโหวตในสภา ฯ จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ยืนยันว่าความสัมพันธ์อันดีมีมายาวนานอยู่แล้ว ซึ่งในทางการเมืองพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันตลอดเวลา
นายธนกร กล่าวถึงบทบาทของส.ส.ในการทำหน้าที่ในสภาฯ ว่า ในพรรคมีทั้งส.ส.อาวุโสที่มีประสบการณ์หลายคนทั้งนายจุติ ไกรฤกษ์ นายวิทยา แก้วภราดัย จะใช้ประสบการณ์ มาเป็นประโยชน์กับส.ส.รุ่นใหม่ เพราะวันนี้โลกเปลี่ยน การทำงานในสภาฯ ก็ต้องเปลี่ยนไปในทางที่ดีที่สุด
ส่วนส.ส. 36 คนของพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเป็นโต้โผหลักในการรวบรวมรายชื่อส.ส.50 คน เพื่อตรวจสอบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีหรือไม่ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกัน แต่จริง ๆ เมื่อกกต.รับรองแล้ว กลไกการดำเนินคดีต่าง ๆ ก็เดินหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้มีการยื่นร้องเรียน แต่เมื่อกกต.รับรองความเป็น ส.ส.แล้ว สถานะก็เปลี่ยน และเข้าเงื่อนไขในข้อกฎหมายทั้งหมด เพราะฉะนั้นกกต.หรือศาลรัฐธรรมนูญต้องดำเนินการ ส่วนจะเป็นหน้าที่กกต.หรือส.ส.ยื่นตรวจสอบนายพิธา เห็นว่าไม่ใช่หน้าที่ของใคร แต่คนไหนที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการ ซึ่งที่ผ่านมามีตัวอย่างให้เห็นอยู่แล้ว เป็นไปตามกระบวนการและข้อกฎหมาย
เมื่อถามย้ำว่า ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกกต. ดำเนินการไปตามช่องทางของศาลรัฐธรรมนูญก่อน ถึงจะเป็นขั้นตอนของการเข้าชื่อส.ส. เพื่อตรวจสอบหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า หลังจากที่ กกต.รับรอง หลังจากนั้นก็เดินหน้าตามข้อกฎหมาย ว่าจะประชุมและโหวตเลือกประธานสภาฯ ในกี่วัน จากนั้นจะเป็นการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งเส้นทางนี้เป็นเส้นทางตามปกติ แต่ถ้าว่าที่นายกรัฐมนตรีมีปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย ก็คาดการณ์ไม่ได้ว่าองค์กรที่ตรวจสอบจะตัดสินตอนไหน ซึ่งต้องไปดูว่าอาจจะทำให้เกิดปัญหาอย่างไร ก็ต้องไปดูกัน ส่วนส.ส.ของพรรคจะเข้าชื่อหรือไม่ ก็ขอให้เป็นมติพรรคที่จะต้องพูดคุยกัน.-สำนักข่าวไทย